รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี) เปิดอาคารหอประชุมใหม่ ของ ICAO

ข่าวทั่วไป Tuesday January 13, 2004 11:40 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ม.ค.--ศูนย์ปชส. กระทรวงคมนาคม
นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จะเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารหอประชุมใหญ่ของสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ในวันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม 2547 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ โดยมี Dr.Assad Kotaite ประธานคณะมนตรีของ ICAO เดินทางมาร่วมในพิธีเปิดอาคารหอประชุมแห่งนี้ด้วย
องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO เป็นทบวงการชำนัญพิเศษ (Specialized Agency) ภายใต้สหประชาชาติ จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2487 ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางในการออกกฎ ระเบียบ และข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาการบิน ท่าอากาศยาน และความปลอดภัยในการบินพลเรือนระหว่างประเทศ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือทางวิชาการแก่ประเทศสมาชิก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา ปัจจุบัน ICAO มีสมาชิกรวม 188 ประเทศ
ประเทศไทยได้เข้าเป็นสมาชิก ICAO เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2490 ซึ่งในเวลาต่อมา ICAO ได้คัดเลือกให้ประเทศไทยเป็นที่ตั้งสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกของ ICAO โดยเริ่มแรกรัฐบาลไทย ได้จัดให้สำนักงานภูมิภาคฯ ตั้งอยู่ ณ ศาลาสันติธรรม ต่อมาคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ESCAP) ได้เช่าที่ดินบริเวณอาคารศาลาสันติธรรมจากประเทศไทย รัฐบาลไทยจึงได้ก่อสร้างอาคารสำนักงานฯ ให้ ICAO ใหม่ ณ สถานที่ทำการในปัจจุบันใกล้สวนจตุจักรบนเนื้อที่ 3.62 ไร่ และได้มีพิธีเปิดอาคารสำนักงานฯ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2532
ต่อมาสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกของ ICAO ได้ขอรับการสนับสนุนจากประเทศไทยในการขยายอาคารสำนักงาฯ เนื่องจากมีความคับแคบเกินไป โดยเฉพาะในส่วนของห้องประชุม จึงจำเป็นต้องก่อสร้างอาคารหอประชุมใหญ่ โดยใช้พื้นที่บริเวณคูน้ำรอบสนามกอล์ฟของการรถไฟแห่งประเทศไทยส่วนหนึ่ง ห้องประชุมดังกล่าวนี้สามารถรองรับผู้เข้าร่วมประชุมได้ 180 คนมีพื้นที่ใช้สอยโดยรวม 2,500 ตารางเมตร ค่าก่อสร้างเป็นเงิน 72.49 ล้านบาท ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางอากาศเป็นหน่วยงานดูแลสนับสนุนด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมการก่อสร้าง
การที่สำนักงานของ ICAO ตั้งอยู่ในประเทศไทย ทำให้หน่วยงานด้านกิจการการบินพลเรือนของประเทศไทย สามารถประสานงานกับ ICAO ได้อย่างใกล้ชิด สามารถติดตามมาตรฐานการบินที่ ICAO กำหนดให้รัฐภาคีใช้ได้อย่างทันต่อเหตุการณ์ จนทำให้การให้บริการการบินพลเรือนของไทยมีประสิทธิภาพและปลอดภัยเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ นอกจากนั้น ยังช่วยให้ประเทศไทยได้รับความช่วยเหลือทางวิชาการในรูปของโครงการ การประชุม และฝึกอบรมด้วยการขนส่งทางอากาศมาโดยตลอด--จบ--
-รก-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ