กรุงเทพฯ--27 ต.ค.--ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต
ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต เตรียมพร้อมแผนสำรองฉุกฉิน เพื่อให้บริการ และช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบภัยอุทกภัย ลูกค้ามั่นใจได้รับบริการอย่างต่อเนื่อง พร้อมการจ่ายผลประโยชน์ และสินไหมอย่างรวดเร็ว นายวิพล วรเสาหฤท กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ SCBLIFE เปิดเผยว่า บริษัทขอแสดงความเสียใจกับประชาชน และลูกค้าของบริษัท รวมทั้งสมาชิกในครอบครัว ซึ่งได้รับบาดเจ็บ หรือสูญเสียชีวิต และทรัพย์สินจากผลกระทบของวิกฤตน้ำท่วมที่รุนแรงทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และทั่วประเทศ ทั้งนี้ แม้ว่าวิกฤตน้ำท่วม ยังมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพมหานคร SCBLIFE ยังเปิดดำเนินการตามปกติ และได้จัดเตรียมพนักงานที่พร้อมให้บริการ และช่วยเหลือลูกค้าให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปอย่างเต็มที่ และรวดเร็ว นอกจากนี้ บริษัทยังได้เตรียมความพร้อมในการนำแผนสำรองฉุกเฉิน ซึ่งได้จัดทำไว้กรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจที่สำคัญ และบริการที่จำเป็นแก่ผู้ถือกรมธรรม์ รวมทั้งฝ่ายขายสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ ดังนั้นผู้ถือกรมธรรม์ จึงมั่นใจได้ว่าการบริการลูกค้าจะไม่หยุดชะงัก
ข้อมูล ณ ปัจจุบัน พบว่า มีผู้ถือกรมธรรม์ของบริษัท 2 รายเสียชีวิตจากวิกฤตน้ำท่วม ซึ่งมีกรมธรรม์แบบคุ้มครองสินเชื่อ และกรมธรรม์แบบสะสมทรัพย์ รวมเป็นเงินเอาประกันกันภัยทั้งสิ้น แปดแสนบาท ซึ่งบริษัทได้เร่งดำเนินจ่ายสินไหมมรณกรรมให้ผู้รับประโยชน์อย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ให้แก่ครอบครัวต่อไป
นอกจากนี้ มีผู้ถือกรมธรรม์ 74 รายในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ขอใช้สิทธิ์ผ่อนผันการชำระเบี้ยประกัน
อนึ่ง สำหรับผู้ถือกรมธรรม์ของบริษัททุกราย ที่มีกำหนดได้รับผลประโยชน์ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ในช่วงนี้ ยังรับเงินผลประโยชน์ตามปกติเช่นเดิม อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากนี้ หากลูกค้ามีการเรียกร้องสินไหมจากผลกระทบน้ำท่วมเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก บริษัทก็พร้อมที่จะดำเนินการได้ทันที เนื่องจากมีฐานะการเงินที่มั่นคง โดย ณ เดือนมิถุนายนปีนี้ บริษัทมีสินทรัพย์รวมกว่า 76,106 ล้านบาท และมีเงินสำรองประกันชีวิตกว่า 65,920 ล้านบาท ซึ่งผู้ถือกรมธรรม์มั่นใจได้เต็มที่
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ SCBLIFE ได้ออกมาตรการช่วยเหลือ และบรรเทาทุกข์ให้ผู้ถือกรมธรรม์ที่มีกำหนดชำระเบี้ยประกันภัยระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 31 ธันวาคม 2554 และอาศัยในพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยขยายระยะเวลาผ่อนผันชำระเบี้ยประกันภัยจาก 31 วัน เป็น 91 วัน ยกเว้นการชำระดอกเบี้ยเนื่องจากการชำระเบี้ยประกันภัยล่าช้า/ ค่าธรรมเนียมออกกรมธรรม์ใหม่กรณีสูญหายหรือชำรุด และหากกรมธรรม์ไม่มีการชำระเบี้ยประกันภายใน 91 วันและกรมธรรม์ขาดผลบังคับ หรือเปลี่ยนสถานะตามที่กำหนดในเงื่อนไขกรมธรรม์ไปแล้ว ผู้เอาประกันภัยสามารถยื่นเรื่องขอต่ออายุได้ภายในระยะเวลา 6 เดือน นับจากวันครบกำหนดที่ขาดชำระดังกล่าว โดยยกเว้นดอกเบี้ยต่ออายุกรมธรรม์ และไม่ต้องตรวจสุขภาพ สำหรับกรมธรรม์ที่มีมูลค่าเวนคืน และเงื่อนไขกรมธรรม์กำหนดให้บริษัทฯ ทำการกู้ยืมอัตโนมัติเพี่อชำระเบี้ยประกันภัย (Automatic premium loan-APL) แทนนั้น จะได้รับสิทธิยกเว้นการชำระดอกเบี้ย กรณีชำระล่าช้าภายใน 91 วัน นับจากวันครบกำหนดชำระ ซึ่งช่วยให้ผู้เอาประกันคลายความกังวลว่ากรมธรรม์จะขาดอายุ
นายวิพล กล่าวเสริมว่า นอกจากการช่วยเหลือลูกค้าแล้ว บริษัท และอาสาสมัครพนักงาน ยังได้บริจาคเงิน และถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อนอย่างต่อเนื่อง ผ่านมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก ครอบครัวข่าว 3 และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่าแปดแสนบาท ส่วนพนักงานที่ได้รับผลกระทบนั้น ในเบื้องต้น บริษัทได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่พักอาศัยถูกน้ำท่วม รวมทั้งพนักงานที่ต้องย้ายที่พักชั่วคราว รายละสองหมื่นบาทต่อเดือน และมีแผนจะเพิ่มเงินสนับสนุนอื่นๆ ซึ่งจะพิจารณาตามความจำเป็น และความรุนแรงของผลกระทบของพนักงานแต่ละรายอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าวิกฤตอุทกภัยจะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง ผลการดำเนินงานของ SCBLIFE ยังเติบโตต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน มีเบี้ยรับรวมจากทุกช่องทางการขายทั้งสิ้น 22,142 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% มีเบี้ยปีต่อไป 14,461 ล้านบาท เติบโต 18% และมีเบี้ยปีแรก 8,697 ล้านบาท เติบโต 19%
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนสื่อสารองค์กร
คุณนันทวัน กิจธนาเจริญ
โทร. 02-655-4000 ต่อ 3839