กรุงเทพฯ--13 ม.ค.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส
ศาสตราจารย์เฟอริด มูราด ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ จากการค้นพบคุณสมบัติใหม่ของสารไนตริกออกไซด์ ซึ่งนำไปสู่การพัฒนายารักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศหรือโรคอีดีชนิดรับประทานตัวแรกของโลก ยารักษาโรคหัวใจ อาการช็อกหมดสติจากการติดเชื้อหรือบาดเจ็บอย่างรุนแรง และลดภาวะผิดปกติ (ความดันในปอดสูง-pulmonary hypertension) ที่มีความเสี่ยงต่อชีวิตของทารกชึ่งคลอดก่อนกำหนด แสดงปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "การนำผลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับไนตริกออกไซด์มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนายาชนิดใหม่" ในวันอังคารที่ 13 มกราคม เวลา 14.00 น. ที่ ศูนย์สารนิเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ศ.มูราด กล่าวว่า สารไนตริกออกไซด์พบในเซลล์เกือบทั้งหมดของร่างกาย โดยเป็นสารสำคัญ ในการทำงานของอวัยวะต่างๆ ทำหน้าที่เป็นตัวส่งสัญญาณให้หลอดเลือดคลายและขยายตัว ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวสามารถนำมาใช้ประโยชน์มากมายในทางการแพทย์ โดยเฉพาะการนำไป สู่การพัฒนายารักษาโรคอีดีชนิดรับประทานตัวแรกของโลก และขณะนี้นอกจากกลุ่มของศ. มูราด แล้วยังมีบริษัท biotech อย่างน้อย 25 บริษัทที่กำลังทำการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อนำคุณสมบัติดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในการปลูกถ่ายอวัยวะ การรักษาโรคมะเร็ง การช่วยเหลือชีวิตเด็กคลอดก่อนกำหนดที่ภาวะความดันในปอดสูง โรคหลงลืม (Alzeimer's) โรคต้อหิน เส้นเลือดอุดตันในสมอง(stroke) รวมถึงทำเป็นยาทาเพื่อรักษาโรคทางผิวหนัง เช่น การรักษาแผลไฟไหม้ หรือแผลที่เกิดภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวาน เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถนำมาใช้ได้ภายใน 3 - 9 ปี
รศ.นพ.อภิชาติ กงกะนันนทน์ นายกสมาคมศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะ (ประเทศไทย) กล่าวว่า การค้นพบประโยชน์ของสารไนตริกออกไซด์ในทางการแพทย์ของศ.มูราดนั้น นับเป็นการปฏิวัติวิธีการรักษาโรคอีดีของชายทั่วโลก เพราะทำให้มียารักษาโรคอีดีชนิดรับประทานตัวแรกของโลก เดิมผู้ป่วยกลุ่มนี้ต้องรักษาด้วยวิธีที่ค่อนข้างจะยุ่งยาก เช่น การฉีดยาเข้าไปที่ลำอวัยวะเพศโดยตรง การใช้เครื่องปั้มสุญญากาศครอบ หรือการผ่าตัดสอดใส่แกนองคชาตเทียม เป็นต้น
มร. อมาล นาจ ผู้จัดการใหญ่ ไฟเซอร์ ประเทศไทยและอินโดจีน กล่าวว่า "ในฐานะผู้ค้นคว้าและพัฒนาเวชภัณฑ์รักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ไฟเซอร์รู้สึกภูมิใจที่ได้มีโอกาสต้อนรับ ศ. มูราด ผู้ซึ่งค้นพบคุณสมบัติใหม่ของไนตริกออกไซด์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวส่งสัญญาณให้หลอดเลือดคลายและขยายตัว อันเป็นกลไกสำคัญที่นำไปสู่การพัฒนายารักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ"
การแสดงปาฐกถาของ ศ. มูราด ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "สานสัมพันธ์สู่สันติวัฒนธรรม" ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยมูลนิธิสันติภาพนานาชาติ โดยเนื้อหาจะครอบคลุมถึงการนำผลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับไนตริกออกไซด์มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนายาชนิดใหม่ ตลอดจนแรงบันดาลใจที่ทำให้มาร่วมโครงการนี้และเหตุผลที่งานวิจัยทางการแพทย์จะช่วยส่งเสริมการสื่อสาร ความร่วมมือ และสันติภาพระหว่างนานาประเทศ โดย ศ. มูราด ได้แสดงปาฐกถาพิเศษ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 13 มกราคม และได้รับเชิญไปบรรยายพิเศษเรื่องดังกล่าว ที่มหาวิทยาลัยสงขลา-นครินทร์ วันที่ 14 มกราคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วันที่ 15 มกราคม และที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นในวันที่ 16 มกราคม อีกด้วย
โครงการ "สานสัมพันธ์สู่สันติวัฒนธรรม" จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการแลกเปลี่ยนความรู้และความเข้าใจระหว่างนานาชาติ โดยได้เชิญผู้ได้รับรางวัลโนเบลในสาขาสันติภาพ ฟิสิกส์ เคมี การแพทย์ วรรณกรรม และเศรษฐศาสตร์ มาเยือนประเทศไทยเพื่อร่วมมือกับผู้นำจากทุกส่วนของสังคมไทย ในรูปของบรรยายพิเศษและการแลกเปลี่ยนความรู้ การสัมมนา การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการประชุม รวม 200 รายการ โดยเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2546 ไปจนถึงเดือนเมษายน 2547 โดยได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิสันติภาพนานาชาติ ซึ่งเป็นมูลนิธิอิสระที่อุปถัมภ์โดยคณะกรรมการรางวัลสันติภาพโนเบล ตั้งอยู่ที่กรุงเวียนนา เพื่ออุทิศให้กับ "ทศวรรษสำหรับวัฒนธรรมแห่งสันติภาพและการไม่ใช้ความรุนแรง" ซึ่งริเริ่มและส่งเสริมโดยสมัชชาแห่งสหประชาชาติ (General Assembly) สนับสนุนโดยธนาคารกสิกรไทยและร่วมสนับสนุนโดย โรงแรมดุสิตธานี, บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด, ฮอนด้า, โอกิลวี่ เอเชีย แปซิฟิก, การบินไทย และยูโนแคล
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ
มร. อูเวอ มอราเวทซ์
ประธานมูลนิธิสันติภาพนานาชาติ
โทร. 02-267-3177
แฟกซ์ 02-267-3077
อีเมล์ : chairman@peace-foundation.net เว็บไซต์ : www.peace-foundation.net--จบ--
-รก-