กรุงเทพฯ--28 ต.ค.--บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด
นางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดเหตุภัยพิบัติจากอุทกภัยในหลายพื้นที่รวมทั้งกรุงเทพมหานคร จนเป็นเหตุให้ประชาชนทั่วไป ผู้ประกอบการอยู่ในสภาพที่ยังไม่สามารถชำระหนี้ตามเวลาที่กำหนดโดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคม — กันยายน 2554 และลูกหนี้ต่างมีความกังวลว่าสถานะทางบัญชีสินเชื่อของตนเองจะเป็น NPL หรือติด Blacklist กับเครดิตบูโร จนทำให้การขอสินเชื่อในระยะต่อไปหลังน้ำลดเพื่อการเยียวยา แก้ไข ฟื้นฟู หรือเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนนั้นจะทำได้ยากหรือจะเป็นเหตุไม่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อ
ในเรื่องดังกล่าวข้างต้น นางสาวสุภา ได้ชี้แจงเพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหนี้ลูกหนี้ได้เข้าใจตรงกันว่าขณะนี้ทางการโดยกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยตลอดจนธนาคาร สถาบันการเงินต่างเข้าใจตรงกันและต่างมีเป้าหมายเดียวกันในการร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวดังนี้
? เมื่อลูกหนี้ได้เข้ามาติดต่อกับสถาบันการเงินและเข้าโครงการแก้ไขหรือมีการปรับโครงสร้างหนี้แล้วให้ถือว่าบัญชีสินเชื่อนั้นมีสถานะปกติทันที ในฐานข้อมูลเครดิตบูโร โดยไม่ต้องรอ ให้มีการปฏิบัติให้ได้ตามเงื่อนไขติดต่อกัน 3 เดือนก่อน
? ในการพิจารณาว่าจะผ่อนผัน ผ่อนปรน หรือการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้นั้นให้พิจารณาครอบคลุมทั่วประเทศ ไม่ได้กำหนดไว้เฉพาะจังหวัดที่มีอุทกภัย เพราะกิจการหรือ SME ที่ทำธุรกิจต่างมีสายโซ่แห่งการดำเนินธุรกิจ (Supply chain) ทั้งการเป็นผู้กระจายสินค้า หรือเป็นแหล่งวัตถุดิบ หรือเป็นลูกค้าของผู้ประกอบการนั้น เมื่อเกิดปัญหาที่รายหนึ่งรายใดย่อมส่งผลต่อ Supply chain ทั้งกระบวนการ การปรับโครงสร้างหนี้จึงต้องทำได้ทั้งลูกหนี้และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน
? สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีหนี้บัตรเครดิตนั้น ทางการได้มีเกณฑ์ผ่อนผันจำนวนเงินที่ชำระหนี้ขั้นต่ำจากเดิมที่กำหนดไว้อย่างต่ำ 10% ของหนี้บัตรเครดิตที่ค้างในเดือนนั้นๆ ให้ปรับเป็น พิจารณาตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้และสถาบันการเงินผู้ออกบัตรจะพิจารณาต่ำกว่า 10% ก็ได้ มาตรการนี้จะลดผลกระทบได้มาก เพราะลูกหนี้ผู้ถือบัตรสามารถทำได้ตามความเป็นจริงและสถานะบัญชีในฐานข้อมูลของเครดิตบูโรจะปรากฏว่าเป็น บัญชีปกติ ไม่มีการค้างชำระแต่อย่างใด
มาตรการที่สำคัญทั้ง 3 ประการจะช่วยรักษาประวัติของลูกหนี้ผู้ประสบภัย และจะคลายความวิตกในหมู่ประชาชนทั่วไปที่ถือบัตรเครดิต ผู้ประกอบการ และ SME จะไม่มีประวัติว่า ค้างชำระหรือเป็น NPL ในระบบของสถาบันการเงินและเครดิตบูโรอย่างแน่นอน หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเครดิตบูโร สามารถสอบถามหรือขอรับคำปรึกษาได้ที่ศูนย์บริการตรวจเครดิตบูโร ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ให้บริการปรึกษาเกี่ยวกับข้อมูลประวัติสินเชื่อผ่าน Call Center 0-2643-1250 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-17.30 น. หรือ อีเมลล์ consumer@ncb.co.th หรือดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.ncb.co.th หรือเฟสบุค www.facebook.com/ilovebureau
ติดต่อ:
ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและสื่อสารองค์กร อรภัทร รังษีวงศ์ 08-1755-4498
E-mail: ilovebureau@ncb.co.th www.ncb.co.th www.facebook.com/ilovebureau