“คลื่นลูกที่สอง” ของการใช้ระบบเซิร์ฟเวอร์เสมือน

ข่าวเทคโนโลยี Friday October 28, 2011 11:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ต.ค.--Core & Peak หลังจากที่มีการใช้ระบบเสมือนจริง (Virtualization) อย่างรวดเร็วในช่วงครึ่งทศวรรษที่ผ่านมา อุตสาหกรรมไอทีทั่วโลกต่างรับรู้โดยพร้อมเพรียงว่าระบบเสมือนจริงคือเทคโนโลยีกระแสหลักที่ถูกนำไปใช้งานเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยผู้ใช้ในวงกว้าง ต้องขอบคุณการปรับใช้เทคโนโลยีนี้อย่างต่อเนื่องที่ทำให้อุตสาหกรรมไอทีก้าวเข้าสู่ “คลื่นลูกที่สอง” ของการปรับใช้ระบบเซิร์ฟเวอร์เสมือนจริงที่ซึ่งองค์กรต่างๆ ได้เปลี่ยนการใช้ระบบเสมือนจริงในแอพพลิเคชั่นพื้นฐานที่มีความเสี่ยงต่ำไปเป็นการปรับใช้โครงสร้างพื้นฐานระบบเสมือนจริงขนาดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพสำหรับแอพพลิเคชั่นที่มีความสำคัญสูงในระดับชั้นที่ 1 (Tier-1) เช่น Microsoft Exchange, Oracle และ SAP ใน “คลื่นลูกที่สอง” ของระบบเซิร์ฟเวอร์เสมือนจริงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ วัตถุประสงค์หลักก็คือการเพิ่มผลประโยชน์ให้กับธุรกิจในระดับสูงสุดด้วยการใช้ระบบเสมือนจริงทั้งในด้านการปฏิบัติงานและการจัดการ ซึ่งนั่นจะนำไปสู่การเกิดประสิทธิภาพใหม่ๆ และสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ทั้งในส่วนการลงทุน (CAPEX) และการดำเนินงาน (OPEX) มีคำถามว่าจริงไหมที่การเพิ่มระบบเซิร์ฟเวอร์เสมือนจริงสามารถช่วยให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ได้ คำตอบก็คือระบบเซิร์ฟเวอร์เสมือนจริงจะให้ประโยชน์ที่แท้จริงได้ก็ต่อเมื่อปรับใช้กับโครงสร้างเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) ที่เหมาะสมเท่านั้น โดยเฉพาะกับแพลตฟอร์มระบบจัดเก็บข้อมูล เหตุใดโครงสร้างพื้นฐานระบบจัดเก็บข้อมูลที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ ใน “คลื่นลูกที่สอง” ของการใช้ระบบเซิร์ฟเวอร์เสมือน องค์กรต่างๆ จะเริ่มปรับใช้เครื่องเสมือนมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับดำเนินการแอพพลิเคชั่นที่มีความสำคัญสูงระดับชั้นที่ 1 (Tier-1) อย่างไรก็ตาม หากปราศจากการวางแผนที่เหมาะสม “คลื่นลูกที่สอง” นี้ก็อาจก่อให้เกิดการเพิ่มจำนวนของเครื่องเสมือนอย่างไร้ระเบียบ มีการปรับขยายอย่างไร้ประสิทธิภาพ และเพิ่มความซับซ้อนของระบบจัดเก็บข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งนั่นจะสร้างปัญหาต่อศูนย์ข้อมูลและส่งผลต่อผลลัพธ์ทางธุรกิจได้ จึงเป็นเหตุผลที่ว่าเหตุใดสิ่งสำคัญต่อความสำเร็จใน “คลื่นลูกที่สอง” ของระบบเซิร์ฟเวอร์เสมือนจริงนี้ จึงเป็นความสามารถในการจัดการภาระงาน (workload) ที่เพิ่มขึ้นจากเครื่องเสมือน และจะต้องแน่ใจให้ได้ด้วยว่าระบบที่มีความสำคัญสูงสามารถทำงานได้อย่างน่าเชื่อถือและปรับขยายได้ในระดับสูงสุด การที่จะบรรลุผลดังกล่าวได้จะต้องมีการปรับใช้โครงสร้างพื้นฐานของระบบจัดเก็บข้อมูลแบบไดนามิกและมีประสิทธิภาพ เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานระบบจัดเก็บข้อมูลที่เหมาะสมเท่านั้นจึงจะสามารถปรับขยายความจุ เพิ่มประสิทธิภาพ และมีความสามารถด้านการจัดการอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับและจัดการภาระงานที่เพิ่มขึ้นในปริมาณที่มากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ มีการพิสูจน์แล้วว่าโครงสร้างระบบจัดเก็บข้อมูลที่เหมาะสมจะช่วยให้ระบบเซิร์ฟเวอร์เสมือนจริงสามารถขยายตัวในศูนย์ข้อมูลได้ในอัตราที่สูงกว่า 30% องค์ประกอบห้าอย่างของโครงสร้างพื้นฐานระบบจัดเก็บข้อมูลที่เหมาะสม จากกรณีศึกษาของลูกค้าจำนวนมากและการศึกษาของแวดวงธุรกิจพบว่า โครงสร้างพื้นฐานข้อมูลที่เหมาะสมจะต้องประกอบด้วยองค์ประกอบหลักห้าอย่าง ได้แก่ ประสิทธิภาพด้านการจัดเตรียมข้อมูล ความยืดหยุ่นด้านการปรับระดับชั้นของระบบจัดเก็บข้อมูล การปรับขยายแบบไดนามิกในหลากหลายขนาด ความสามารถด้านการสนับสนุนระบบเสมือนจริงในสภาพแวดล้อมการทำงานต่างระบบ และความเชื่อถือได้ในระดับ 100% - การจัดเตรียมข้อมูล — ช่วยให้เกิดทรัพยากรที่พร้อมใช้เมื่อความต้องการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอพพลิเคชั่นและการสามารถใช้ความจุได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ - การแบ่งระดับชั้นระบบจัดเก็บข้อมูล — ทำให้การดูแลระบบจัดเก็บข้อมูลข้ามกรอบการทำงานของระบบจัดเก็บข้อมูลภายในและภายนอกจำนวนมากเป็นเรื่องง่าย และทำให้แน่ใจได้ถึงประสิทธิภาพที่สามารถคาดการณ์ได้สำหรับชั้นระบบจัดเก็บข้อมูลที่ต่างกันด้วยการจัดวางข้อมูลในระดับชั้นที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ - สถาปัตยกรรมการปรับขยาย — เพิ่มความสามารถในการปรับขยายแบบหลายด้านที่จะช่วยให้ความจุของระบบจัดเก็บข้อมูลสามารถขยายได้โดยไม่มีขีดจำกัด ซึ่งจะช่วยรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมระบบเซิร์ฟเวอร์เสมือนได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังช่วยปรับปรุงเวลาในการนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด ความสามารถด้านการจัดการ และประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมากอีกด้วย - ระบบจัดเก็บข้อมูลเสมือนจริงสำหรับแพลตฟอร์มจากหลายผู้จำหน่าย — ความสามารถของโครงสร้างพื้นฐานระบบจัดเก็บข้อมูลในการสนับสนุนโซลูชั่นของบริษัทอื่นๆ ทำให้สามารถปรับขยายระบบเสมือนจริงและกลุ่มดิสก์ที่มีอยู่เดิมได้ สิ่งนี้สำคัญต่อการเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ของคุณในสภาพแวดล้อมการทำงานต่างชนิดกันและสามารถขยายอายุใช้งานของสินทรัพย์ที่มีอยู่ให้ยาวนานขึ้นด้วย - ความเชื่อถือได้ 100% - จากการสำรวจของบริษัท ไซแมนเทค เกี่ยวกับระบบเสมือนจริงและวิวัฒนาการสู่ระบบคลาวด์ในปี 2554 ( 2011 Virtualization and Evolution to the Cloud Survey) พบว่าปัญหาด้านประสิทธิภาพและความเชื่อถือได้เป็นข้อกังวลสูงสุดที่ทำให้องค์กรขนาดใหญ่ไม่กล้าจัดวางแอพพลิเคชั่นที่มีความสำคัญสูงในระดับชั้น 1 บนเซิร์ฟเวอร์เสมือนจริง แม้ว่าผู้จำหน่ายระบบจัดเก็บข้อมูลจะรับประกันความพร้อมใช้งานของข้อมูลที่ระดับ 100% แล้วก็ตาม สิ่งนี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินงานที่ราบรื่นของแอพพลิเคชั่นระดับชั้น 1 “วิวัฒนาการร่วม” ของระบบจัดเก็บข้อมูลและระบบเสมือนจริง คลื่นลูกถัดไปของระบบเซิร์ฟเวอร์เสมือนจริงอยู่ที่นี่ ระบบเสมือนจริงเป็นองค์ประกอบสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานไอทีอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ว่าจะเพื่อการปรับใช้ในระบบคลาวด์หรือในแบบดั้งเดิม เมื่อมองไปในอนาคต จะพบว่าจำนวนของเครื่องเสมือนที่โฮสต์แอพพลิเคชั่นที่มีความสำคัญสูงหรือแอพพลิเคชั่นคลาวด์จะเพิ่มและสร้างผลกระเพื่อมอย่างรวดเร็วที่มีผลต่อการดำเนินการของศูนย์ข้อมูลในทุกด้าน และเพื่อให้สามารถร่วมทางไปพร้อมกับวิวัฒนาการนี้ได้ ผู้จำหน่ายระบบเซิร์ฟเวอร์เสมือนจริง เช่น วีเอ็มแวร์ จึงเดินหน้าพัฒนาคุณสมบัติและโซลูชั่นใหม่ๆ ที่จะเพิ่มสมรรถนะและประสิทธิภาพของเครื่องเสมือนให้ได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ระบบเซิร์ฟเวอร์เสมือนจริงถือเป็นเทคโนโลยีที่จะเข้ามาเปลี่ยนเกมการแข่งขันได้ และเป็นเทคโนโลยีที่กำลังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความขยายตัวอย่างไม่หยุดยั้งของข้อมูลและแอพพลิเคชั่น รวมทั้งปลดปล่อยข้อจำกัดของโครงสร้างพื้นฐานจริง โดยมีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดเหล่านี้ นั่นคือการให้ความสำคัญกับวิวัฒนาการร่วมของโครงสร้างพื้นฐานระบบจัดเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างเช่น VMware vSphere? 5 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับการกำหนดค่าให้มีคุณสมบัติใหม่ในตัวที่ถูกออกแบบมาเพื่อลดภาระกระบวนงานต่างๆ ในกลุ่มระบบจัดเก็บข้อมูล และเพื่อสนับสนุนคุณสมบัติใหม่เหล่านี้ องค์กรต่างๆ จะต้องเลือกโครงสร้างระบบจัดเก็บข้อมูลที่สามารถให้สมรรถนะและความสามารถที่ดีเยี่ยมในการสนับสนุนภาระงานเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังต้องมีความสามารถในด้านการจัดการความหนาแน่นของเครื่องเสมือนที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงความยืดหยุ่น ประสิทธิภาพ และสมรรถนะที่สภาพแวดล้อมวีเอ็มแวร์ในอนาคตต้องการด้วย ป้องกันการลงทุนของคุณด้วยการเลือกแพลตฟอร์มระบบจัดเก็บข้อมูลที่เหมาะสม ในการป้องกันการลงทุนของคุณและขจัดความเสี่ยงของการสร้างแอพพลิเคชั่นที่มีความสำคัญสูงให้เป็นระบบเสมือนจริงในคลื่นลูกที่สองของระบบเซิร์ฟเวอร์เสมือนนั้น คุณจำเป็นต้องร่วมมือกับผู้จำหน่ายระบบจัดเก็บข้อมูลที่เชื่อถือได้ มีการวางแผนรับมือกับอนาคต และกำลังพัฒนาเทคโนโลยีของตนอย่างต่อเนื่องไปพร้อมๆ กับแพลตฟอร์มระบบเซิร์ฟเวอร์เสมือนชั้นนำต่างๆ ผู้จำหน่ายระบบเสมือนจริงชั้นนำระดับโลก อย่าง บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ระบบจัดเก็บข้อมูลเสมือนจริง เช่น Hitachi Virtual Storage Platform (VSP) ซึ่งจะให้ฟังก์ชันการทำงานและประสิทธิภาพที่จะช่วยให้คุณสามารถตอบสนองความต้องการของ “คลื่นลูกที่สอง” ได้ ต่างจากแพลตฟอร์มระบบจัดเก็บข้อมูลขั้นพื้นฐานที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน โดย Hitachi VSP เป็นระบบจัดเก็บข้อมูลเดียวเท่านั้นที่สามารถให้ความสามารถในการปรับขยายในแนวตั้ง แนวนอน และแนวลึก และผสานรวมเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานเซิร์ฟเวอร์เดิม ตลอดจนปรับข้อมูลได้อย่างยืดหยุ่นเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความจุในสภาพแวดล้อมการทำงานแบบหลายผู้จำหน่าย นอกจากการปรับเปลี่ยนโครงสร้างดิสก์อย่างอิสระ (Dynamic Provisioning) แล้ว การแบ่งระดับชั้นอย่างอิสระ (Dynamic Tiering) และความพร้อมใช้งานของข้อมูลระดับ 100% ยังทำให้ Hitachi VSP เป็นโซลูชั่นที่ดีที่สุดสำหรับการจัดการปัญหาด้านไอทีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากคลื่นลูกถัดไปของระบบเซิร์ฟเวอร์เสมือนจริงด้วย ในความเป็นจริง บริษัท ฮิตาชิ เคยทำนายไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า การผสานรวมระหว่างระบบจัดเก็บข้อมูลและเซิร์ฟเวอร์จะเป็นสิ่งสำคัญในการเร่งและขยายแนวทางระบบเซิร์ฟเวอร์เสมือนจริง และสิ่งที่สำคัญอย่างมากก็คือการขจัดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการทำให้แอพพลิเคชั่นระดับ 1 เป็นระบบเสมือนจริง นั่นคือเหตุผลที่ทำให้บริษัท ฮิตาชิ ให้การสนับสนุนเทคโนโลยีต่างๆ เช่น VAAI ที่จะช่วยในการผสานรวมข้ามแพลตฟอร์มทั้งหมดของตน และนำเสนอสมรรถนะที่จำเป็นต่อการรวมเครื่องเสมือนทั้งหมดให้เป็นระบบเดียวได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะลดค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนและการดำเนินงานได้ การอาศัยเทคโนโลยีระบบจัดเก็บข้อมูลที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้ว จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ถึงความเชื่อถือได้ ความพร้อมใช้งาน และประสิทธิภาพการทำงานของแอพพลิเคชั่นเสมือนจริงที่มีระดับความสำคัญสูงของคุณทั้งหมด ด้วยการเตรียมความพร้อมที่ดีขึ้นเพื่อรองรับความต้องการด้านการรวมระบบให้เป็นหนึ่งเดียวของเครื่องเสมือนในคลื่นลูกต่างๆ ของระบบเซิร์ฟเวอร์เสมือนในอนาคต คุณสามารถดำเนินการได้ตั้งแต่วันนี้เพื่อป้องกันการลงทุนที่มีอยู่เดิมของคุณและลดค่าใช้จ่ายด้านการการลงทุนและการดำเนินงานในอนาคตได้ โดย นายวัชรสิทธิ์ สันติสุขนิรันดร์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ