สุขภาพดี ไร้พรมแดน! "คุณหมอแอมป์" ร่วมงานบรรยาย Health Talk ขยายความร่วมมือด้านสุขภาพระดับสากล ณ นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน

ข่าวทั่วไป Monday April 28, 2025 11:09 —ThaiPR.net

สุขภาพดี ไร้พรมแดน!

สุขภาพดี ไร้พรมแดน! "คุณหมอแอมป์" ร่วมงานบรรยาย Health Talk ขยายความร่วมมือด้านสุขภาพระดับสากล ส่งเสริมบทบาท การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพประเทศไทย ณ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน

สุขภาพดีไร้พรมแดน! นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ หรือ คุณหมอแอมป์ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และ บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ได้รับเกียรติจาก สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ในงาน Health Talk ภายใต้หัวข้อ "Wellness Hub Thailand: The Future of Global Wellness" เพื่อส่งเสริมแนวคิดด้านการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม และนำเสนอศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางสุขภาพระดับโลก หรือ "Wellness Hub Thailand" เพื่อขยายความร่วมมือด้านสุขภาพระหว่างประเทศ เสริมสร้างเครือข่ายสุขภาพเชิงยุทธศาสตร์ และขับเคลื่อนบทบาทของประเทศไทยด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพบนเวทีโลก โดยมี นางสาวปฤณัต อภิรัตน์ กงสุลใหญ่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ และ นายจิรวัฒน์ เลียงคำ รองผู้อำนวยการ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ณ นครเซี่ยงไฮ้ รวมทั้งแขกจากสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ณ นครเซี่ยงไฮ้ แขกจากหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในประเทศจีน และแขกจากโรงแรมระดับลักชัวรีในประเทศจีนให้เกียรติเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

ส่งเสริมความร่วมมือไทย-จีน ด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ต่อยอดโอกาสรับปีที่ 50 ความสัมพันธ์ทางการทูต

เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนในด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างเป็นรูปธรรม สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ได้จัดกิจกรรมพิเศษขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม รวมถึงแนวคิดการท่องเที่ยวสมัยใหม่ที่มุ่งเน้นการมีสุขภาวะที่ดีทั้งทางกาย ใจ และจิตวิญญาณ ตลอดจนส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างสมดุล ซึ่งล้วนเป็นหัวใจสำคัญของแนวคิด "Wellness Tourism" ที่สอดคล้องกับแนวทางการป้องกันโรคและการยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ในโอกาสนี้ นางสาวปฤณัต อภิรัตน์ กงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ให้เกียรติกล่าวเปิดงาน โดยเน้นย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยและโอกาสในการขึ้นเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของผู้คนทั่วโลก รวมทั้งประชากรชาวจีน พร้อมระบุว่าการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพถือเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่ทั้งไทยและจีนสามารถต่อยอดความร่วมมือได้อย่างรอบด้าน โดยเฉพาะในวาระครบรอบ 50 ปี แห่งความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีนในปี 2568

ภายในงาน นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ หรือ "คุณหมอแอมป์" ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และ บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ได้รับเชิญจากสถานกงสุลใหญ่ฯ เพื่อบรรยายพิเศษ มอบความรู้ด้านการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันด้วยศาสตร์แห่ง Scientific Wellness และหลักเวชศาสร์วิถีชีวิต (Lifestyle Medicine) การใช้ชีวิตเพื่อสุขภาวะที่ดี ตลอดจนการร่วมแสดงวิสัยทัศน์ด้านการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น Wellness Hub Thailand และการเป็นหมุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับสากล

สถานการณ์ด้านสุขภาพในประเทศจีน: การก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุและความท้าทายในด้านการดูแลสุขภาพ

นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และ บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) เผยว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการแพทย์ได้มีบทบาทสำคัญในการยืดอายุขัย (Lifespan) ของมนุษย์ โดยเฉพาะในด้านการรักษาโรคต่าง ๆ ซึ่งช่วยให้ผู้คนมีชีวิตยืนยาวขึ้น โดยระหว่างปี พ.ศ. 2543 ถึง พ.ศ. 2562 อายุขัยเฉลี่ยของประชากรโลกเพิ่มขึ้นจาก 66.8 ปี เป็น 73.4 ปี เพิ่มขึ้นถึง 6.6 ปี อย่างไรก็ตาม "ช่วงชีวิตที่มีสุขภาพดี" หรือ Health Span ซึ่งหมายถึงระยะเวลาที่ทุกคนสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยไม่เจ็บป่วย กลับเฉลี่ยอยู่เพียง 63.7 ปีเพียงเท่านั้น นั่นหมายความว่า หลายคนใช้ชีวิตในภาวะสุขภาพถดถอยเกือบหนึ่งทศวรรษก่อนเสียชีวิต

การที่มนุษย์มีอายุขัยยืนยาวขึ้นส่งผลให้โลกของเรากำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) โดยไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ความชรานั้นมักมาพร้อมกับโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ซึ่งถือเป็นภัยสุขภาพที่สำคัญ โดยองค์การอนามัยโลก (WHO - World Health Organization) รายงานว่าในปี 2022 มีผู้คนทั่วโลกเสียชีวิตจากโรค NCDs กว่า 45 ล้านคนด้วยกัน

ในส่วนของประเทศจีน สถานการณ์ด้านสุขภาพกำลังก้าวเข้าสู่ความท้าทายที่สำคัญจากการเปลี่ยนแปลงสู่ "สังคมผู้สูงอายุ" อย่างเต็มรูปแบบ โดยปัจจุบันมีประชากรจีนประมาณ 20% ที่มีอายุเกิน 60 ปี ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างประชากรนี้ได้นำไปสู่การตื่นตัวด้าน "การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน" อย่างแพร่หลาย โดยมุ่งหวังเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตควบคู่ไปกับการมีอายุยืนยาวในสภาพสุขภาวะที่ดี

ปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดความตระหนักรู้ด้านการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันในวงกว้างนั้น คือการเพิ่มขึ้นของโรคNCDS ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกขณะอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปี พ.ศ. 2565 โรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้กลายเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตถึง 90% ของประชากรจีน คิดเป็นจำนวนกว่า 9,058,000 รายต่อปี หรือเฉลี่ยประมาณ 1,034 รายต่อชั่วโมง โดย 6 โรคหลักที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจขาดเลือด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง และโรคอัลไซเมอร์

"อีกหนึ่งประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือภาวะโรคอ้วนในประเทศจีน ซึ่งพบว่าในปี 2022 ประชากรกว่า 38.9% หรือประมาณ 549,268,000 คน กำลังเผชิญกับภาวะโรคอ้วน ซึ่งไม่เพียงแค่เป็นปัญหาด้านรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงทางสุขภาพในระยะยาว ภาวะโรคอ้วนยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยและการเสียชีวิต โดยเฉพาะในช่วงที่โลกเผชิญกับเหตุการณ์ไม่ปกติ เช่น การระบาดของโรค COVID-19 โดยผลการศึกษาพบว่า ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงมีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิตเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ขณะที่ผู้ป่วยโรคหัวใจหรือเบาหวานมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า ใขขณะที่ผู้ที่มีภาวะโรคอ้วนมีความเสี่ยงในการเสียชีวิตสูงกว่าคนทั่วไปถึง 7 เท่าด้วยกัน" นายแพทย์ตนุพล กล่าวเพิ่มเติม

เจาะลึกวิสัยทัศน์ "คุณหมอแอมป์" กับการขับเคลื่อนการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน ภายใต้แนวคิด Scientific Wellness และการส่งเสริมบทบาทของประเทศไทย ในฐานะ Wellness Hub ระดับโลก

ด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของนายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ ที่ได้เล็งเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มด้านสุขภาพระดับโลกที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ซึ่งเปลี่ยนผ่านจากระบบการดูแลสุขภาพแบบดั้งเดิมที่เน้นการรักษาเมื่อเจ็บป่วย (Reactive Healthcare) สู่แนวทางการดูแลสุขภาพเชิงรุก (Proactive Healthcare) หรือที่รู้จักกันว่า "การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน" พร้อมกันนี้ นายแพทย์ตนุพล ยังเล็งเห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยในการก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพและการแพทย์เชิงป้องกันในระดับนานาชาติ จึงได้จัดกิจกรรม Health Talk Session ภายใต้หัวข้อ "Wellness Hub Thailand: The Future of Global Wellness" ณ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้าง #TeamThailand ขยายความร่วมมือด้านสุขภาพระหว่างประเทศ ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายสุขภาพเชิงยุทธศาสตร์ และขับเคลื่อนบทบาทของประเทศไทยสู่การเป็น Wellness Hub ระดับโลก

"ตามรายงานล่าสุดจากสถาบัน Global Wellness Institute (GWI) ระบุว่า เศรษฐกิจเวลเนส (Wellness Economy) ของประเทศไทยในช่วงปี พ.ศ. 2565-2566 มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยขยายตัวสูงถึงร้อยละ 28.4 คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 40.54 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.4 ล้านล้านบาทไทย โดยในจำนวนนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูงสุด ได้แก่ "การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ" (Wellness Tourism) ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 415,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตถึงร้อยละ 119.5 ถือเป็นอันดับสองของโลก รองจากสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี พ.ศ. 2566"

"ตัวเลขดังกล่าวไม่เพียงสะท้อนถึงความสำเร็จในเชิงเศรษฐกิจของประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ตอกย้ำถึงศักยภาพและความพร้อมของประเทศในการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านเวลเนสในระดับโลก ทั้งใน ทั้งด้านภูมิศาสตร์และสิ่งแวดล้อมที่งดงามอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ผสานกับอัตลักษณ์ของอาหารไทยที่มีความหลากหลายทางรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ อีกทั้งยังมีจุดแข็งด้านการบริการที่อบอุ่นและเปี่ยมด้วยเสน่ห์แห่งอัธยาศัยแบบไทย นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีจุดเด่นด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทยซึ่งได้รับการสืบทอดอย่างยาวนานและเริ่มเป็นที่สนใจของผู้บริโภคทั่วโลกในฐานะศาสตร์แห่งสุขภาวะควบคู่กับธรรมชาติ ตลอดจนศักยภาพด้านการแพทย์สมัยใหม่ที่มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งทั้งหมดนี้หลอมรวมกันเป็นจุดแข็งสำคัญที่ผลักดันให้ประเทศไทยสามารถยกระดับสู่การเป็นผู้นำด้านสุขภาพและเวลเนสในระดับโลกได้อย่างยั่งยืน" นายแพทย์ตนุพล กล่าวเพิ่มเติม

ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและยั่งยืนระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีจุดมุ่งหมายร่วมกันในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางด้านสุขภาพ เสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ และยกระดับสุขภาวะของประชากรทั้งสองชาติให้ดียิ่งขึ้นอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ในฐานะแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ป้องกัน นายแพทย์ตนุพล จะยังคงมุ่งมั่นปฏิบัติภารกิจในฐานะหนึ่งในกำลังสำคัญของ #TeamThailand โดยมีเป้าหมายในการผลักดันศักยภาพของประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพระดับโลกอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการด้านสุขภาพของไทยบนเวทีนานาชาติต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ