กรุงเทพฯ--1 พ.ย.--PRdd
สภาวะตลาดวันที่ 1 พฤศจิกายน 2554 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,706.99 — 1,722.99 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ11 อยู่ที่ 25,350 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 25,360 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVZ11 อยู่ที่ 1,060 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 1,080 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.06 น.ของวันที่ 1/11/11)ออกมา คือ ออกมา คือ
แนวโน้มวันที่ 2 พฤศจิกายน 2554
แม้ที่ประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) มีมติให้ใช้มาตรการควบคุมวิกฤตหนี้ก็ตาม มติที่ผ่านมาจะช่วยให้ปัญหาหนี้ของยุโรปเริ่มผ่อนคลายได้บ้าง ซึ่งวายแอลจีก็เคยให้ข้อสังเกตไปแล้วว่า มติที่ออกมายังไม่ใช่หัวใจสำคัญของการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะของยูโรโซน เพราะการเพิ่มขนาดกกองทุน EFSF ก็เป็นเพียงการแก้ไขที่ปลายเหตุ อีกทั้งการปรับลดมูลค่าพันธบัตร(haircut) ของรัฐบาลกรีซซึ่งถือครองโดยธนาคารเอกชนลงในสัดส่วน 50% ก็มีความสุ่มเสี่ยงว่า ประเทศที่ประสบปัญหาอื่นนอกจากกรีซอาจเรียกร้องเงื่อนไขลักษณะนี้บ้าง และหากมองในมุมมองของผู้ให้ความช่วยเหลือเองก็น่าเป็นห่วงไม่แพ้กัน เพราะการช่วยเหลือประเทศที่ประสบปัญหาก็เท่ากับเป็นการเพิ่มปัญหาให้ประเทศผู้ช่วยเหลืออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวอย่างทีกำลังเป็นกระแสอยู่ก็คือฝรั่งเศส ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่ายอดหนี้สินสะสมอาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ในปี 2555 โดยส่วนใหญ่เป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ฝรั่งเศสให้การสนับสนุนกองทุนช่วยเหลือประเทศที่มีปัญหาหนี้สิน เช่น กรีซ โปรตุเกส และ ไอร์แลนด์ จากเหตุผลที่กล่าวมาทำให้เชื่อได้ว่า มติการประชุมของสุดยอดผู้นำที่ผ่านมายังไม่สามารถทำให้นักลงทุนคลายความกังวลไปอย่างจริงจัง นำมาซึ่งการอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องของเงินสกุลยูโร นอกจากนี้การเข้าแทรกแซงค่าเงินเยนของญี่ปุ่นก็เป็นปัจจัยที่เข้ามากระทบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ โดยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนก็เป็นปัจจัยที่ไม่คาดคิดที่เข้ามากดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงอีกทาง
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนเบื้องต้น วายแอลจีมองว่าราคาทองคำหากไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,737 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,681 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอีกครั้ง สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,660 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไร แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,660 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,692 (24,660บาท) 1,681 (24,500บาท) 1,660 (24,190บาท)
แนวต้าน 1,737 (25,320บาท) 1,760 (25,650บาท) 1,777 (25,900บาท)
GOLD FUTURES (GFZ11)
แนวรับ 1,692 (25,110บาท) 1,681 (24,950บาท) 1,660 (24,640บาท)
แนวต้าน 1,737 (25,770บาท) 1,760 (26,100บาท) 1,777 (26,350บาท)
SILVER FUTURES (SVZ11)
แนวรับ 33.00 (1,042บาท) 32.30 (1,021บาท) 31.70 (1,002บาท)
แนวต้าน 35.04 (1,105บาท) 35.95 (1,133บาท) 36.60 (1,153บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร. 02-287-1155 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร. 02-677-5520 หรือ Error! Hyperlink reference not valid. หากสนใจเข้าร่วมสัมมนาหัวข้อ “การลงทุนในโกล์ดฟิวเจอร์ส” ฟรี!!! ทุกวันศุกร์ เวลา 13.30-16.00 น.สำรองที่นั่งได้ทุกวันทาง เว็บไซด์ หรือ โทร 02-2871155 ต่อ 139