กรุงเทพฯ--2 พ.ย.--ตลท.
บมจ. เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ พร้อมเข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai 4 พ.ย. 2554 หลังระดมทุน 140 ล้านบาท ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า "APCO"
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บมจ. เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ หรือ APCO จะเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เป็นลำดับที่ 5 ของปีนี้ โดยเริ่มซื้อขายตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2554
APCO และบริษัท กรีนโกลด์ จำกัด (GG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ APCO ถือหุ้น 100% ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามจากสมุนไพรธรรมชาติครบวงจร ตั้งแต่การวิจัย พัฒนา ผลิต และจัดจำหน่ายผ่านช่องทางทั้งในและต่างประเทศ โดยบริษัทเอเชียน ไลฟ์ จำกัด (ASL) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ APCO ถือหุ้น 100% ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายผ่านช่องทางการขายตรงแบบหลายชั้น (Multi-Level Marketing หรือ MLM) ภายใต้ตราสินค้าของบริษัท อาทิ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโกลด์เชพ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทริมวัน ผลิตภัณฑ์ถนอมและบำรุงผิวไลฟ์ ผลิตภัณฑ์บำรุงผมแฮรีโกรว์ และผลิตภัณฑ์เสริมภูมิคุ้มกันกลุ่ม Operation BIM ทั้งนี้ APCO มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 200 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO: Initial Public Offering) จำนวน 45 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้บริหารและพนักงานของบริษัท (ESOP) จำนวน 5 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.80 บาท เมื่อวันที่ 27-28 และ 31 ตุลาคม 2554 โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย
“ธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเสริมความงามและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน นอกจากจุดเด่นด้านผลงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมแล้ว การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ยังช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์และสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนให้กับบริษัทอีกด้วย” นายชนิตรกล่าว
ศาสตราจารย์ ดร. พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ เปิดเผยว่า “การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะเพิ่มโอกาสในการเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นผลงานวิจัยและนวัตกรรมในการดูแลสุขภาพให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมและผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ลงทุนในสำนักงานสาขา และขยายฐานลูกค้าโดยจัดตั้งสำนักงานขายในต่างประเทศ ที่ดูไบ สิงคโปร์ และฮ่องกง ทั้งนี้ คาดว่าบริษัทจะมีอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยปีที่ผ่านมามีรายได้รวมอยู่ที่ 258 ล้านบาท กำไรสุทธิ 44 ล้านบาท ขณะที่ครึ่งแรกปี 2554 มีรายได้รวม 141 ล้านบาท กำไรสุทธิ 23 ล้านบาท”
สำหรับ ระดับราคา IPO ที่ 2.80 บาทต่อหุ้น มาจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ประมาณ 12.25 เท่า โดยคำนวณมาจากประมาณการกำไรสุทธิต่อหุ้นของปี 2554 (Annualized) ซึ่งเท่ากับ 46 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดที่เรียกชำระแล้ว (Fully Diluted) จำนวน 200 ล้านหุ้น ซึ่งเท่ากับ 0.23 บาทต่อหุ้น (ข้อมูลตามที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวนของ APCO ) โดยมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและสำรองตามกฎหมาย ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ APCO 3 ราย หลัง IPO ได้แก่ ครอบครัววิริยะจิตรา ถือหุ้น 56.91% นายชินการ สมะลาภา ถือหุ้น 15% และครอบครัวหาญเจนลักษณ์ ถือหุ้น 2.71%
ผู้ลงทุนและผู้สนใจดูรายละเอียดได้จากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.apco.co.th และที่เว็บไซต์ www.set.or.th
เกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)
ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นตลาดรองสำหรับซื้อขายหลักทรัพย์ อยู่ภายใต้กลุ่มตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการเมื่อ 21 มิถุนายน 2542 ตลาดหลักทรัพย์ mai เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการลงทุนสำหรับผู้มีเงินออมให้ได้มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของกิจการขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีศักยภาพหรือมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี และมีโอกาสรับผลตอบแทนในหลายรูปแบบจากกิจการที่ลงทุนเช่นเดียวกับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ข้อมูล ณ 1 พฤศจิกายน 2554 มีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai รวม 69 บริษัท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) รวม 65,581.71 ล้านบาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม S-E-T Call Center โทร. 0-2229-2222
สื่อมวลชน ติดต่อส่วนประชาสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0 2229 2036
วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0 2229 2797
อรสิริ บุญแต้ม โทร. 0 2229 2799