กรุงเทพฯ--3 พ.ย.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ระดมทีมเพิ่มสต็อคคอนโดเช่าระยะสั้นทั่วกรุงเทพฯ ประกาศไม่เก็บค่าคอมมิชชั่นหากมีการปล่อยเช่าไม่เกิน 2 เดือน หวังช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมเต็มกำลัง หลังคนติดต่อเช่าเพิ่มกว่า 5 เท่าในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมระบุโรงงานใน 7 นิคมอุตสาหกรรมติดต่อขอเช่าสำนักงานชั่วคราวในกรุงเทพฯ ชั้นในเพียบ เพื่อใช้เป็นที่ทำงานและประสานงานกับต่างประเทศในช่วงที่โรงงานน้ำท่วม
นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพ เพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ในเขตกทม. และปริมณฑลในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีประชาชนจำนวนมากที่พักในเขตนนทบุรี ปทุมธานี มีนบุรี และพื้นที่รอบนอกกรุงเทพมหานครติดต่อบริษัทฯ เพื่อขอเช่าคอนโดมิเนียมที่พื้นที่ปลอดภัยเพื่ออพยพหนีน้ำเป็นจำนวน 300 ราย ซึ่งเพิ่มกว่าช่วงปกติถึง 5 เท่า โดยความต้องการส่วนใหญ่เป็นความต้องการเช่าระยะสั้นตั้งแต่ 15 วันถึง 2 เดือน เฉลี่ยราคาเช่าคอนโดมิเนียมที่ต้องการประมาณ 8,000-20,000 บาท ในทำเลใกล้รถไฟฟ้าหรือใกล้เส้นทางคมนาคมที่เดินทางสะดวก เหตุเพราะคนส่วนใหญ่นำรถไปจอดหนีน้ำท่วมทำให้ต้องใช้การเดินทางที่เป็นพาหนะสาธารณะต่างๆ ทดแทน ทั้งนี้ พลัสมีสต็อคพร้อมเช่ารวมทั้งสิ้น 476 ยูนิต แบ่งเป็นโซนสุขุมวิท 311 ยูนิตและสาทร ตากสิน ประมาณ 165 ยูนิต
“พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ โดยเราได้ระดมทีมตรวจสอบสต็อกเช่าคอนโดมิเนียมระยะสั้นเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วน พร้อมไม่เก็บค่าประสานติดต่อใดๆ ทั้งสิ้นกรณีเช่าเพื่อพักอาศัยไม่เกิน 2 เดือน โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประสบภัยได้ติดต่อโดยตรงกับลูกค้า เพื่อสามารถต่อรองระยะเวลาในการเช่าตลอดจนราคาที่พอใจทั้ง 2 ฝ่าย แต่ส่วนใหญ่พบปัญหาที่เจ้าของมักจะปล่อยเช่าในระยะเวลา 1 ปี หรืออย่างน้อยที่สุด 6 เดือน ทำให้ต้องมีการติดต่อสอบถามเจ้าของห้องในทุกเคสของการเช่าระยะสั้น ซึ่งตอนนี้ก็มีเพียงไม่กี่รายที่ยินดีให้เช่าระยะสั้น จึงอยากวอนขอเจ้าของห้องให้พิจารณาปล่อยเช่าระยะสั้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ รวมถึงการพิจารณาไม่เรียกเก็บค่าประกันห้องและอนุญาตให้ย้ายเข้าได้เลย” นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กล่าวแสดงความเห็น
ทั้งนี้ ยังมีความต้องการเช่าอาคารสำนักงานระยะสั้นจากบริษัทและโรงงานที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมที่อยุธยาและปทุมธานี ตลอดจนจากบริษัทที่มีสำนักงานแถบบางบัวทองและบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ในระดับสูงเช่นกัน เนื่องจากบริษัทและโรงงานดังกล่าวต้องการออฟฟิศเพื่อให้พนักงานสามารถทำงานได้ โดยผู้เช่าจะมีทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ อาทิ สเปนและญี่ปุ่น ซึ่งสนใจทั้งการเช่าเป็นออฟฟิศทั่วไปและ serviced office ที่มีอุปกรณ์พร้อม ระดับราคาเช่าออฟฟิศที่มองหาอยู่ที่ 30,000-80,000 บาทต่อเดือน โดยระยะเวลาเช่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 3-4 เดือน
“สำหรับตัวเลขนิคมอุตสาหกรรมที่ประสบภัยน้ำท่วม ณ ปัจจุบัน รวม 7 นิคมอุตสาหกรรม คือ นิคมไฮเทค สหรัตนนคร บางปะอิน โรจนะ แฟคตอรี่แลนด์ นวนคร และบางกะดี ส่งผลกระทบต่อโรงงานรวม 838 โรงงาน รวมมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นโรงงานสัญชาติญี่ปุ่น และโรงงานที่เกี่ยวกับการส่งออก ทำให้มีความต้องการเช่าออฟฟิศเพื่อประสานงานกับทำงานลูกค้าในต่างประเทศได้”
“หากสถานการณ์น้ำท่วมยังคงยืดเยื้อออกไป ความต้องการเช่าที่พักและที่ทำงานย่อมเพิ่มขึ้นแน่นอน ซึ่งอาจขยายตัวออกไปตามเมืองท่องเที่ยว เช่น พัทยาและหัวหิน เพราะคนต้องการย้ายออกจากพื้นที่ประสบภัย ซึ่งอาจทำให้ซัพพลายด์ไม่สมดุลย์กับความต้องการ ทั้งในเรื่องที่พักอาศัย และปริมาณของสินค้าอุปโภคบริโภคที่จะเริ่มขาดแคลนในปัจจุบัน และหลังจากสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลายแล้ว คิดว่านโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเร่งฟื้นฟูในภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม จะส่งผลให้ตลาดเช่าขยายตัวเพิ่มมากขึ้นประมาณ 5 - 10% โดยการเติบโตส่วนใหญ่มาจากผู้ที่ต้องการเช่าที่พักอาศัยเพื่อรอซ่อมแซมบ้านที่ถูกน้ำท่วม และการเติบโตของตลาดเช่าบางส่วนมาจากชาวต่างชาติที่เป็นช่างเทคนิคที่จะได้รับการอนุมัติให้ work permit แบบเร่งด่วนเพื่อเข้ามาซ่อมแซมเครื่องจักรและอุปกรณ์ในโรงงาน เพื่อให้สามารถกลับมาใช้งานและเริ่มการดำเนินการผลิตได้เหมือนเดิม” นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กล่าวสรุป