กรุงเทพฯ--4 พ.ย.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
กรุงศรีกรุ๊ปออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ลูกค้าที่ประสบภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่แผ่ขยายวงกว้างขึ้น ให้ความช่วยเหลือกลุ่มลูกค้าที่ประสบภัยโดยตรง และผู้ที่ได้รับผลกระทบทางอ้อมจากการสูญเสียรายได้เนื่องจากนายจ้างไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ย้ำให้บริการเต็มที่ผ่านทุกช่องทาง ทั้งช่องทางสาขา เครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์และออนไลน์
นับตั้งแต่ประเทศไทยเริ่มต้นเผชิญกับเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่นี้ ทางกรุงศรีกรุ๊ปได้ออกมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าทุกกลุ่มโดยทันที่ พร้อมๆ กับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจังหวัดต่างๆ และล่าสุดในกรุงเทพฯ ด้วย อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำท่วมได้ทวีความรุนแรงและขยายวงกว้าง ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะทำให้มีผู้ประสบความเดือดร้อนมากขึ้นจากความเสียหายของธุรกิจ ที่อยู่อาศัย และทรัพย์สิน
นายมาร์ค อาร์โนลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กรุงศรีกรุ๊ป เปิดเผยว่า เหตุการณ์น้ำท่วมขณะนี้ได้ขยายวงกว้าง ซึ่งนอกจากจะสร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อธุรกิจต่างๆ แล้วยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนจำนวนมาก จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางกรุงศรีกรุ๊ปได้ขยายมาตรการให้ความช่วยเหลือในหลายๆ ด้านแก่ลูกค้าทุกกลุ่มทั้งลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ ลูกค้า SME และลูกค้ารายย่อย พร้อมๆ กับการให้ความดูแลช่วยเหลือพนักงานกรุงศรีกรุ๊ปอย่างเต็มที่และต่อเนื่องมาโดยตลอด
สำหรับลูกค้า SME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้ออกมาตรการผ่อนชำระดอกเบี้ยอย่างเดียวนาน 6 เดือน และอัตราดอกเบี้ยพิเศษแล้วแต่กรณี และสำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบโดยอ้อม กรุงศรีให้ความช่วยเหลือผ่อนชำระดอกเบี้ยอย่างเดียว 3 เดือน และอัตราดอกเบี้ยพิเศษแล้วแต่กรณีเช่นกัน
สำหรับลูกค้ารายย่อยที่ใช้สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์กรุงศรี ออโต้ บัตรเครดิต (บัตรเครดิตกรุงศรี เคซีซี บัตรเครดิตโฮมโปร เอไอเอวีซ่าคาร์ด เซ็นทรัลมาสเตอร์คาร์ด เทสโก้วีซ่าคาร์ด เฟิร์สช้อยส์วีซ่าคาร์ด) และบัตรผ่อนชำระ (เฟิร์สช้อยส์ และ พาวเวอร์บาย) กรุงศรีได้มีมาตรการช่วยเหลือ อาทิ การพักการชำระหนี้ การลดค่างวด และให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษในการใช้ยอดสินเชื่อเงินสด ตลอดจนการยกเว้นค่าธรรมเนียมการติดตามทวงถาม แล้วแต่กรณี ขึ้นอยู่กับแต่ละผลิตภัณฑ์
ขณะเดียวกัน ธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้ทำงานอย่างเต็มที่ในการให้บริการทางการเงินในทุกพื้นที่รวมถึงพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยอย่างหนัก ผ่านทุกช่องทางทั้งเครือข่ายสาขาและช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินและความต้องการในการเบิกถอนเงินสดของลูกค้าธนาคาร โดยธนาคารได้เตรียมความพร้อมด้านระบบ การสำรองเงิน และระดมเจ้าหน้าที่เข้าเติมเงินในตู้เอทีเอ็มของธนาคารทั่วประเทศ รวมทั้งการจัดเตรียมรถเอทีเอ็มเคลื่อนที่ เพื่อดูแลให้การเบิกถอนเงินสด หรือการทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ให้ดำเนินต่อไปตามปกติในช่วงสถานการณ์น้ำท่วม โดยธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็มข้ามเขตทั้งจากเครื่องของธนาคารเองและต่างธนาคาร ทั้งนี้ สาขาของธนาคารทั่วประเทศ ยังคงเดินหน้าให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าทุกคนอย่างเต็มที่เช่นกัน
นอกจากนี้ ธนาคารกรุงศรีอยุธยายังมีระบบการทำธุรกรรมทางการเงินอื่นๆ ที่สามารถรองรับความต้องการของลูกค้า โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางฝ่าฟันภาวะน้ำท่วม ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่างๆ โดยธนาคารมีระบบการทำธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต และโทรศัพท์เคลื่อนที่ อาทิ Krungsri Online, Krungsri Banking SIM, Krungsri Mobile Banking ซึ่งให้ความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพเป็นเยี่ยม เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้ามากที่สุด
สำหรับพนักงานกรุงศรีกรุ๊ปจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งนี้ กรุงศรีกรุ๊ปได้ออกมาตรการให้ความช่วยเหลือโดยทันทีทั้งเงินช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ เงินช่วยเหลือค่าที่พักชั่วคราว เงินช่วยเหลือเพื่อซ่อมแซมทรัพย์สินที่อยู่อาศัย เป็นต้น
“ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนของภัยธรรมชาติที่กำลังดำเนินอยู่นี้ เราได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมการดำเนินงานให้เหมาะสมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่ เราให้คำมั่นว่าจะดูแลลูกค้าและพนักงานทุกคน เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิต ความเป็นอยู่ต่อไปอย่างดีที่สุดในสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้” นายมาร์ค อาร์โนลด์ กล่าวในที่สุด
ลูกค้าและผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมนี้สามารถติดต่อสอบถามข้อมูล รวมทั้งมาตรการช่วยเหลือมายัง Krungsri Call Center 1572 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่กรุงศรีกรุ๊ปทุกคนยินดีให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบความเดือดร้อนอย่างเต็มที่