ผู้ว่าฯ สมัคร ชี้ใช้ก๊าซ NGV “ถูก ดี ไม่มีภัย” กทม.จะสนองนโยบายใช้กับรถขยะก่อน

ข่าวทั่วไป Monday January 19, 2004 13:59 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--กทม.
เมื่อวันที่ 15 ม.ค.47 เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ณ ห้องแสดงนิทรรศการ 2 เมืองทองธานี นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือให้การสนับสนุนทางการเงินของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ พลังงาน (MOU) ให้แก่ 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บริษัทการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) และกรุงเทพมหานคร ในงาน “15 มกราคม รวมพลังยานยนต์ไทยใช้ NGV
สืบเนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายด้านพลังงาน โดยต้องการผลักดันและส่งเสริมให้ประเทศไทยสามารถพึ่งพาตัวเองด้าน พลังงานได้มากขึ้น โดยเฉพาะการนำก๊าซธรรมชาติที่ขุดได้เองมาใช้เพื่อทดแทนน้ำมันที่ต้องซื้อจากต่างประเทศและมีราคาขึ้นตามตลาดโลก ด้วยการพัฒนาเป็นก๊าซธรรมชาติอัดสำหรับรถยนต์หรือเรียกว่า NGV (Nutural Gas for Vehicles) ที่มีราคาถูกกว่าน้ำมัน 50 เปอร์เซ็นต์ และมีเสถียรภาพด้านราคา ไม่ผันผวนเหมือนน้ำมัน มีความปลอดภัยสูง รวมทั้งปล่อยมลพิษน้อยกว่าน้ำมัน จึงเหมาะสมอย่างมากที่จะใช้กับรถในเมืองใหญ่ และรถสาธารณะ เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และให้ สมดุลกับสิ่งแวดล้อม ลดการพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศ สนับสนุนให้มีการใช้ประโยชน์จากก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นทรัพยากรภายในประเทศ และการนำก๊าซธรรมชาติมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในภาคขนส่งเป็นมาตรการหนึ่งที่สนับสนุนนโยบายด้านพลังงานของรัฐบาล
สำหรับก๊าซ NGV เป็นก๊าซธรรมชาติที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับยานยนต์ มีส่วนประกอบหลัก คือ ก๊าซมีเทน ซึ่งถูกอัดเก็บไว้ที่ความดันประมาณ 3,000 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว โดยเก็บไว้ในถังที่มีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ ดังนั้นในบางครั้งจึงเรียกว่า ก๊าซชนิด CNG (Compressed Natural Gas) เป็นเชื้อเพลิงที่มีความปลอดภัยมากที่สุด ซึ่งหากเกิดการรั่วไหลขึ้น จะไม่สะสมบนพื้นดินจนเกิดการลุกไหม้เหมือนเชื้อเพลิงอื่นๆ อีกทั้งราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซิน ดีเซล และก๊าซ LPG ตลอดจนมีสัดส่วนของคาร์บอนน้อยกว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่นและมีคุณสมบัติเป็นก๊าซ ทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์มากกว่า และปริมาณไอเสียที่ปล่อยออกจากเครื่องยนต์ต่ำกว่า เนื่องจากเป็นเชื้อเพลิงสะอาดไม่ก่อให้เกิดควันดำหรือสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ จึงสามารถลดปัญหามลพิษทางอากาศได้
นายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปัจจุบันมีสถานีบริการก๊าซ NGV เพิ่มขึ้น อีกทั้งการสนับสนุนให้ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นพลังงานทดแทนน้ำมันซึ่งมีราคาสูงและราคาผันผวนตามตลาดโลกอยู่ตลอดเวลา เป็นการจุดชนวนและรณรงค์ให้เห็นถึงประโยชน์ของก๊าซธรรมชาติ NGV ว่า “ถูก ดี และไม่มีภัย” สามารถใช้ได้ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและภาคการขนส่ง ขณะนี้การที่รัฐบาลสนับสนุนให้รถยนต์สาธารณะหรือรถแท๊กซี่ และรถโดยสารประจำทาง หันมาใช้ก๊าซธรรมชาติทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิง มากขึ้น จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการมีเงินเหลือเก็บไว้ใช้ในครอบครัว ส่งผลให้ คุณภาพชีวิตในครอบครัวดีขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตามกรุงเทพมหานครจะนำงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนจำนวน 160 ล้านบาท สมทบกับงบประมาณของกรุงเทพมหานครอีกส่วนหนึ่งไปดำเนินการจัดซื้อรถเก็บขนมูลฝอยแบบใช้ก๊าซธรรมชาติ จำนวน 69 คัน เพื่อประโยชน์ในการทำงานและรักษาสภาพแวดล้อมในเมืองต่อไป
สำหรับลักษณะทั่วไปของรถเก็บขนมูลฝอยที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงดังกล่าวจะเป็นรถแบบอัด หัวเก๋งแบบหน้าสั้นชนิด 6 ล้อ หรือ 8 ล้อ พวงมาลัยขวา ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ซึ่งใช้ก๊าซธรรมเป็นเชื้อเพลิงเพียงอย่างเดียว (Dedicated NGV Engine) กำลังไม่น้อยกว่า 200 แรงม้า มีตู้บรรทุกมูลฝอยปริมาตรไม่น้อยกว่า 10 ลูกบาศก์เมตร รับน้ำหนักมูลฝอยได้ไม่น้อยกว่า 5,000 กิโลกรัม หรือ รับมูลฝอยที่ยังไม่ได้อัดได้ไม่น้อยกว่า 25 ลูกบาศก์เมตร--จบ--
-นห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ