กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์
บริษัท นู สกิน เพอร์ซันแนลแคร์ (ประเทศไทย) จำกัด เตรียมความพร้อมสู้ศึกตลาดขายตรงปี 47 เปิดโอกาสบลูไดมอนด์เป็นเจ้าของ Distributor Center รูปแบบใหม่ หวังขยายฐานต่างจังหวัดทั่วภูมิภาค คาดหวังสัดส่วนยอดขายระหว่างกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเป็น 60:40 ภายใน 3 ปี เผยผลประกอบการปี 2546 น่าพอใจด้วยยอดขายพันล้านบาท เป็นผลจากการดำเนินกิจกรรมการตลาดและส่งเสริมผู้แทนจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เตรียมนำผลิตภัณฑ์เพอร์ซันแนล แคร์และอาหารเสริมนวัตกรรมเด่นๆ อีกหลายรายการเข้าสู่ตลาด ตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำด้านนวัตกรรมความงามอย่างแท้จริง หวังผลักดันยอดขายสิ้นปีให้เติบโต 30%
นางภคพรรณ ลีวุฒินันท์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นู สกิน เพอร์ซันแนล แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2546 ว่า มีอัตราการเติบโตอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจมากคือ 70% โดยมียอดขายรวมอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดในระยะเวลา 7 ปีของการดำเนินการและตั้งเป้าหมายว่าจะรักษาอัตราการเติบโตเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ หลังจากที่บริษัทฯ มีการเติบโตไต่ระดับสูงสุดมาโดยตลอดในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
"สถานการณ์ปัจจุบันของบริษัทฯ นับว่าอยู่ในสภาวะที่มั่นคงและกำลังเดินหน้าสู่การเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งสามารถทำยอดขายได้ถึงพันล้านในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เนื่องมาจากปัจจัยพื้นฐาน 3 ประการหลักที่ถือว่าเป็นจุดแข็งแกร่งที่สุดของบริษัทฯ ดังที่ได้กล่าวมาโดยตลอด คือ ผลิตภัณฑ์ที่ล้วนเป็นนวัตกรรมใหม่ ผู้แทนจำหน่ายที่แข็งแกร่ง และแผนปันผลตอบแทนแบบไร้พรมแดนที่แตกต่างจากบริษัททั่วไป เมื่อผนวกเข้ากับกิจกรรมการตลาดต่างๆ ของบริษัทฯ และปัจจัยภายนอกของสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ อุตสาหกรรมขายตรงที่เติบโต และได้รับการยอมรับเต็มที่ จึงทำให้ยอดขายประสบความสำเร็จอย่างสูง" นางภคพรรณ กล่าว
นางภคพรรณ กล่าวต่อถึงแนวโน้มของธุรกิจขายตรงในปี 2547 จะมีการแข่งขันที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น และมีการทำตลาดในเชิงรุกเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดให้มากที่สุด ทั้งนี้ เนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตเต็มที่ต่อเนื่องจากปี 2546 กลไกทางตลาดที่เอื้ออำนวย และจำนวนคู่แข่งที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทางบริษัทฯ ได้วางแผนการตลาดเพื่อรับมือกับการแข่งขันในปีนี้อย่างเต็มที่โดยกลยุทธ์หลักของการทำธุรกิจในปี 2547 คือ การมุ่งขยายฐานสู่ต่างจังหวัดมากยิ่งขึ้น ด้วยการเปิด Distribution Center หรือศูนย์บริการผู้แทนจำหน่าย เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญของผู้แทนจำหน่ายระดับผู้นำในการขยายฐานองค์กรของตน ทั้งนี้ บริษัทฯ เล็งเห็นศักยภาพของตลาดในต่างจังหวัดที่มีความแข็งแกร่งและมีกำลังซื้อของผู้บริโภคที่มากขึ้น โดยในปี 2546 ที่ผ่านมานั้น การเปิดศูนย์ฯ บริการในจังหวัดภูเก็ต ได้ช่วยเพิ่มยอดขายในส่วนของภาคใต้ขึ้นอีกประมาณ 40% และการเปิด Distribution Center ที่จังหวัดนครราชสีมา รวมทั้งศูนย์ฯ บริการที่ขอนแก่น ก็ได้ช่วยเพิ่มยอดขายในส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือขึ้นอีกประมาณ 70% ซึ่งการเติบโตดังกล่าวแสดงถึงศักยภาพด้านกำลังซื้อของผู้บริโภคในต่างจังหวัดได้เป็นอย่างดี
"ผู้แทนจำหน่าย นู สกิน มีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะขยายเครือข่ายของตนออกสู่ต่างจังหวัด บริษัทฯ จึงเตรียมเปิดให้บริการ Distribution Center ในรูปแบบที่เปิดโอกาสให้ผู้แทนจำหน่ายได้เป็นเจ้าของและบริหารศูนย์ฯ ด้วยตนเอง โดยก่อนหน้านี้ได้เปิดศูนย์ฯ ในลักษณะดังกล่าวขึ้นที่พัทยาและนครราชสีมา ซึ่งปรากฏว่าได้รับการตอบรับ และประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี นอกจากนี้ การเปิดศูนย์ฯ ในลักษณะดังกล่าว ยังเป็นประโยชน์ร่วมกันระหว่างบริษัทฯ และผู้แทนจำหน่าย โดยในส่วนของบริษัทฯ เป็นผู้ให้การสนับสนุนด้านผลิตภัณฑ์และโอกาสทางธุรกิจแก่ผู้แทนจำหน่ายอย่างเต็มที่ และในส่วนของผู้แทนจำหน่ายที่เป็นเจ้าของศูนย์ฯ ก็จะได้รับประโยชน์ในการขยายพื้นที่ให้ครอบคลุมเข้าถึงกลุ่มลูกค้าผู้ใช้สินค้า และผู้ทำธุรกิจในพื้นที่บริเวณนั้นๆ และยังมีรายได้เพิ่มขึ้นจากยอดจำหน่ายสินค้าของศูนย์ฯ นั้นๆ ด้วย" นางภคพรรณ อธิบายเพิ่มเติม
เมื่อบริษัทฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญของการขยายฐานธุรกิจออกสู่ตลาดต่างจังหวัดประกอบกับเห็นถึงศักยภาพของผู้แทนจำหน่ายในการเปิด Distribution Center ในรูปแบบข้างต้นแล้วจึงมีเป้าหมายที่จะเปิด Distribution Center ในรูปแบบนี้ให้ได้ 7 แห่งภายในปี 2547 ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของผู้แทนจำหน่ายระดับผู้นำที่จะได้รับการพิจารณาจากบริษัทฯ ให้มีสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของและบริหาร Distribution Center ของตนเอง โดยหนึ่งในเงื่อนไขการเป็นเจ้าของ Distribution Center นั้นผู้แทนจำหน่ายจะต้องเป็นผู้นำระดับบลูไดมอนด์ ซึ่งเป็นหมายนี้จะกระตุ้นให้ผู้แทนจำหน่ายระดับผู้นำเร่งขยายองค์กรของตนเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้เป็นเจ้าของ Distribution Center ซึ่งเท่ากับว่าจะได้รับโอกาสทางธุรกิจเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
Distribution Center รูปแบบใหม่จะเน้นทำเลที่อยู่ในพื้นที่ชุมชน และมีการคมนาคมที่สะดวกสะบาย โดยแต่ละแห่งจะมีพื้นที่ประมาณ 300 ตารางเมตร งบประมาณดำเนินการประมาณ 1 ล้านบาท ภายใต้คอนเซ็ปต์ของ Show Case ที่เน้นความเรียบหรู ทันสมัย มีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งเพอร์ซันแนลแคร์ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยจะให้ผู้แทนจำหน่ายที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขเป็นผู้บริหารงานทั้งหมด ทั้งนี้ผู้ที่จะมีสิทธิ์บริหาร Distribution Center จะต้องผ่านการอบรมการบริหารจัดการ และข้อมูลของผลิตภัณฑ์อย่างครบถ้วนจากบริษัทฯ เพื่อให้มีมาตรฐานในการบริหารเช่นเดียวกันกับศูนย์บริการผู้แทนจำหน่ายที่ทางบริษัทฯ เป็นผู้บริหารเอง โดยในช่วงต้นปีนี้ คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ที่จังหวัดตรัง จังหวัดระยอง และจังหวัดสุราษฎร์ธานี
"ด้วยกลยุทธ์หลักในด้านการขยายพื้นที่สู่ต่างจังหวัด เราจะสามารถเพิ่มสัดส่วนยอดขายของบริษัทฯ ระหว่างตลาดในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดจากเดิม 75:25 เป็น 60:40 ภายในระยะเวลา 3 ปี"
"นอกจากนี้ ในส่วนของการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดก็ยังคงจะมีอย่างต่อเนื่องโดยจะเน้นความเป็นผู้นำด้านวิทยาการใหม่ๆ เช่นเคย ซึ่งปีนี้จะมีผลิตภัณฑ์เด่นๆ ด้านเพอร์ซันแนล แคร์ ที่เชื่อว่าจะสร้างความฮือฮาและสร้างกระแสในตลาด 2 รายการหลักๆ ในช่วงครึ่งปีแรก ส่วนผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจะเน้นบุกตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเราตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตอีก 30% ภายในสิ้นปี 2547" นางภคพรรณ กล่าวสรุป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ศุภาดา ใจดี ดวงรัตน์ รัตนอำนวยศิริ หรือ วรีรัตน์ ธนะนพรัตน์ จิตติมา ชินพิพัฒน์
บริษัท สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด บริษัท นู สกิน เพอร์ซันแนล แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทรศัพท์ 0-2693-7835-8 โทรศัพท์ 0-2791-8500--จบ--
-นท/นห-