กรุงเทพฯ--7 พ.ย.--
มหาวิทยาลัยราชภัฏ 40 แห่ง เจรจาความร่วมมือด้านการศึกษากับฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ชูพัฒนาการเรียนการสอน ให้ทุนครูศึกษาต่อปริญญาเอก แลกเปลี่ยนผลงานวิชาการ นักวิจัย รองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ผศ.ดร.ไพโรจน์ ด้วงวิเศษ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา เปิดเผยว่า ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (ทปอ.มรภ.) มีมติให้มหาวิทยาลัยราชภัฏทั้ง 40 แห่ง เข้าร่วมโครงการศึกษาดูงานโครงการความร่วมมือระหว่างกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ และองค์กรรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAMEO) เพื่อศึกษาดูงานวิชาการ วิจัย และเจรจาความร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียน ทั้ง 10 ประเทศ เริ่มจากประเทศฟิลิปปินส์และประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 16-20 ต.ค. 54 โดยคณะผู้บริหารของมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ได้เข้าร่วมศึกษาดูงานในโครงการดังกล่าว เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558
ดร.แสนศักดิ์ ศิริพานิช รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา กล่าวว่า ตามข้อตกลงกับองค์กรด้านการศึกษาของประเทศฟิลิปินส์ มหาวิทยาลัยราชภัฏทั้ง 40 แห่ง ได้ลงนามความร่วมมือกับศูนย์ระดับภูมิภาคว่าด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษาของซีมีโออินโนเทค (SEAMEO Regional Center for Educational Innovation and Technology :INNOTECH) ซึ่งเกี่ยวกับสาขาการศึกษาเพื่อพัฒนาครูและเทคโนโลยีการเรียนการสอนร่วมกัน ให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่ของแต่ละมหาวิทยาลัย และยังได้ลงนามความร่วมมือกับศูนย์ระดับภูมิภาค ว่าด้วยการวิจัยและบัณฑิตศึกษาด้านการเกษตรของซิเอก้า (SEAMEO Regional Center for Graduate Study and Research in Agriculture : SEARCA) เพื่อให้มหาวิทยาลัยราชภัฏแต่ละแห่งได้ศึกษาวิจัยด้านการเกษตรมากขึ้น
รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา กล่าวอีกว่า พร้อมกันนี้ประเทศอินโดนีเซีย ได้เปิดโอกาสให้คณาจารย์ศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกหรือหลังปริญญาเอก ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฏทั้ง 40 แห่ง ได้ลงนามความร่วมมือกับศูนย์ระดับภูมิภาค ว่าด้วยการพัฒนาบุคลากรด้านภาษาของคิวเต็ป (SEAMEO Regional Center for QITEP in Language) เพื่อพัฒนาด้านการเรียนการสอนภาษาต่างๆ ที่ใช้ในกลุ่มประเทศอาเซียนและภาษานานาชาติ นอกจากนี้ ยังได้เจรจาความร่วมมือพัฒนาด้านวิชาการ ผลงานตีพิมพ์ การวิจัย แลกเปลี่ยนนักวิจัย และความร่วมมือในการพัฒนาการเรียนการสอนระดับบัณฑิตศึกษาระหว่างประเทศ กับมหาวิทยาลัยแห่งประเทศอินโดนีเซีย (Universitas Indonesia, Balai Sidang) ซึ่งทั้ง 2 ฝ่าย จะได้หารือดำเนินการตามข้อตกลงให้ได้ภายในปี 2558 ต่อไป