กรุงเทพฯ--8 พ.ย.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำล่าสุดในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 2,898 ลบ.ม./วินาที ลดลงจากเมื่อวาน 55 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำที่อำเภอบางไทร 3.89 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ลดลงจากเมื่อวาน 2 ซม. น้ำทะเลหนุนสูงสุดวันนี้เวลา 16.07 น. ที่ระดับ +1.00 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงสุดคาดการณ์โดยกรมอุทกศาสตร์ เวลาประมาณ 14.00 น. ที่ระดับ 2.07 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ระดับน้ำบริเวณดอนเมือง ลดลง 10 ซม. แต่พื้นที่ด้านในระดับน้ำยังอยู่ในระดับสูง ส่วนคลองหกวาสายล่าง ระดับน้ำที่ประตูระบายน้ำคลองสอง ลดลง 2 ซม. ฝั่งธนบุรีระดับน้ำที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา ลดลง 1 ซม. ระดับน้ำในคลองลาดพร้าวและคลองมหาสวัสดิ์ทรงตัว น้ำจากศาลายา จ.นครปฐม ยังคงหลากเข้าพื้นที่ กทม. ปัจจุบัน มีประชาชนเข้าพักอาศัยในศูนย์พักพิงชั่วคราว ในพื้นที่ 26 เขต จำนวน 133 ศูนย์ รวม 14,405 คน
ประกาศอพยพและแจ้งเตือนเฝ้าระวังน้ำสูงในเขตบึงกุ่ม
วันนี้ กทม.ได้ประกาศพื้นที่อพยพเพิ่มเติม ได้แก่ บริเวณหมู่บ้านมณียา แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเคลื่อนย้ายผู้สูงอายุ คนพิการ เด็ก และสตรี ออกจากพื้นที่ไปก่อนแล้ว นอกจากนี้กทม.ยังได้มีประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 2 แขวง ได้แก่ แขวงนวลจันทร์ และ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม ประกอบด้วย ซ.นวลจันทร์ 52, 54, 56, 58, 60 ซ.นวมินทร์ 50, 64, 74, 90 และซ.รามอินทรา 38 อีกทั้งเริ่มมีน้ำท่วมขังในพื้นที่มีนบุรี คลองสามวา คันนายาว บึงกุ่ม สะพานสูง ภาษีเจริญ และจอมทอง แล้ว
ขอบคุณ ศปภ.และหน่วยงานต่างๆ สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ ขณะที่กทม.จ้างพนักงานเก็บขยะในพื้นที่น้ำท่วม
กทม.ขอบคุณ ศปภ. ที่ดำเนินการตามที่กทม.ร้องขอ โดยเฉพาะการปิดประตูระบายน้ำ คลอง 8-10 จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คลองหกวาสายล่างลดระดับลงต่อเนื่อง รวมถึงขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ รวม 45 เครื่อง จากที่ต้องใช้ทั้งหมด 60 เครื่อง โดยขณะนี้ติดตั้งแล้วภายในสถานีสูบน้ำพระโขนง สถานีสูบน้ำพระยาราชมนตรี สถานีสูบน้ำคลองมอญ สถานีสูบน้ำคลองบางกอกใหญ่ สถานีสูบน้ำคลองสาน สถานีสูบน้ำสนามชัย สถานีสูบน้ำคลองชักพระ และสถานีสูบน้ำเทเวศร์ ทดแทนเครื่องที่ต้องซ่อมบำรุงเนื่องจากใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน
พร้อมกันนี้ กทม.จะดำเนินการว่าจ้างบุคลากรเพื่อปฏิบัติงานจัดเก็บขยะเพิ่มเติม จำนวน 150 คน ต่อ 1 เขตที่มีปัญหาน้ำท่วม รวม 50 วัน เริ่มปฏิบัติงาน 10 พ.ย.-31 ธ.ค.54 รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์จัดเก็บขยะมูลฝอยเพิ่มเติมด้วย นอกจากนี้ สำนักสิ่งแวดล้อมจะขอสนับสนุนบุคลากรจากกรมราชทัณฑ์ ซึ่งได้ประสานอย่างไม่เป็นทางการ และได้รับการตอบรับอย่างไม่เป็นทางการแล้วเช่นกัน
เปิดสวนสาธารณะให้ลอยกระทง ห้ามลอยกระทงหน้าบ้านป้องกันไฟไหม้บ้านเรือน
ในช่วงเทศกาลลอยกระทง 2554 กทม.งดจัดงานประเพณีลอยกระทงบริเวณสะพานพระราม 8 ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปี เนื่องจากปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองสายต่างๆ มีระดับน้ำสูงและไหลแรง อาจเป็นอันตรายต่อประชาชน แต่เพื่อรักษาประเพณีอันดีงามของไทย กทม.จะเปิดสวนสาธารณะในพื้นที่ไม่มีปัญหาน้ำท่วม ให้ประชาชนเข้าไปลอยกระทงและสักการะแม่คงคา ทั้งนี้ โปรดอย่าลอยกระทงบริเวณหน้าบ้าน เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อที่พักอาศัยจากไฟและน้ำมันที่อาจไหลอยู่บริเวณโดยรอบ พร้อมกันนี้ กทม.ได้สั่งการให้สำนักปัองกันและบรรเทาสาธารณภัยดูแลพื้นที่อย่างเข้มข้น รวมถึงประสานความร่วมมือกับ อปพร.ดูแลประชาชน สำนักการแพทย์เตรียมพร้อมแพทย์และหน่วยกู้ชีวิตปฏิบัติงานในสถานการณ์ฉุกเฉินด้วย
จังหวัดต่างๆ สนับสนุนเรือช่วยผู้ประสบภัยกทม.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ได้ประสานงานไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่อให้การสนับสนุนเรือสำหรับปฏิบัติให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ของกทม. ได้แก่ จ.กำแพงเพชร สนับสนุนเรือพายเล็ก 120 ลำ จ.นครนายก สนับสนุนเรือพายเล็ก 50 ลำ และเรือพายใหญ่ 4 ลำ จ.สมุทรสาคร สนับสนุน เรือพายเล็ก 2 ลำ และเรือพายใหญ่ 3 ลำ จ.นครสวรรค์ สนับสนุนเรือหางยาว 1 ลำ และเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์ 9 ลำ จ.ปราจีนบุรี สนับสนุนเรือพายเล็ก 50 ลำ เรือไฟเบอร์ 1 ลำ และเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์ 3 ลำ จ.ราชบุรี สนับสนุนเรือพายเล็ก 20 ลำ จ.พังงา สนับสนุนเรือพายใหญ่ 10 ลำ จ.ระยอง สนับสนุนเรือพายเล็ก 10 ลำ จ.ยโสธร สนับสนุนเรือท้องแบน 7 ลำ และจ.สมุทรปราการ สนับสนุนเรือพายเล็ก 25 ลำ