เฉลิมฉลอง 50 ปีแห่งงานออกแบบ สก๊อต คิง นำทีมในงาน มิลาน เฟอร์นิเจอร์ แฟร์ 2011

ข่าวทั่วไป Wednesday November 9, 2011 09:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--เกรลิ่ง นับเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ถ้วนที่สุดยอดผลงานทางด้านศิลปะ วัฒนธรรม แฟชั่น และการออกแบบ ถูกรวบรวมมาไว้ที่สถานที่เดียวกัน ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ในงานมิลาน เฟอร์นิเจอร์ แฟร์ 2011 งานแสดงผลงานที่ใหญ่ที่สุดในวงการออกแบบซึ่งปีนี้ครบรอบการจัดงานเป็นปีที่ 50 ภายในงานมีการแสดงผลงานการออกแบบล่าสุดของกว่า 2,700 บริษัทโดยมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมชมกว่า 300,000 คน สก็อต คิง (Scott King) ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายออกแบบ ของ อีเลคโทรลักซ์ เอเชีย-แปซิฟิก เป็นอีกผู้หนึ่งที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานครั้งนี้และได้แบ่งปันความคิดเห็นของเขาผ่านทางการบันทึกภาพถ่ายให้เราชม บันทึกดีไซเนอร์, มิลาน ซาโลนี 2011 โดย สก็อต คิง เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ในเดือนเมษายนของทุกปีที่เหล่าดีไซเนอร์จากทั่วทุกมุมโลกจะหลั่งไหลมารวมตัวกันที่มิลาน เมืองหลวงแห่งโลกแฟชั่น เพื่อมาประชันและอวดฝีมือตน ภายในงานแสดงสินค้าชั้นนำของโลกอย่าง “มิลาน ซาโลนี เดล โมบิล” (Salone del Mobile) ซึ่งปี 2011 นี้นับได้ว่าเป็นย่างก้าวสำคัญเนื่องจากเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของการจัดงาน ในปีนี้งานแสดงผลงานการออกแบบแห่งมิลานถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่กว่าเดิมและแผ่ขยายครอบคลุมเขตพื้นที่ใหม่ทุกๆ ปี เหล่าบรรดาดีไซเนอร์รุ่นใหม่ก็เริ่มกระจายตัวย้ายไปแสดงผลงานในเขตพื้นที่ที่ห่างออกไปจากย่านธุรกิจการค้ามากขึ้น รูปภาพ1 ที่บริเวณเฟียรา มิลาโน (Fiera Milano) มีจัดแสดงโชว์ผลงานโดยเน้นงานเฟอร์นิเจอร์สำหรับเจาะกลุ่มตลาดขนาดใหญ่และสินค้าจากบริษัทจัดแสงไฟครอบคลุมพื้นที่แสดงงานเกือบ 345,000 ตารางเมตรพร้อมซุ้มศาลาโชว์ผลงานมากกว่า 16 ซุ้ม รูปภาพ 2,3 นับเป็นเครื่องหมายที่ดีว่าเรากำลังเข้าสู่ยุคหลังภาวะเศรษฐกิจถดถอย เมื่อบริเวณทั่วเฟียราแน่นขนัดไปด้วยผู้จัดแสดงโชว์ผลงานเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกออกแบบมาอย่างหลากหลายเอาใจทุกรสนิยม แบรนด์ดังอย่างคาเปลลินี (Capellini) คาร์เทล (Kartell) โพลิฟอร์ม (Poliform) และฟลอส์ (Flos) ล้วนทุ่มทุนสุดตัวสร้างแท่นโชว์ผลงานอย่างยิ่งใหญ่และละเอียดลออสำหรับแสดงโชว์ผลงานชิ้นใหม่ของแบรนด์โดยเฉพาะ รูปภาพ 4,5,6 ถัดออกมาจากบริเวณเฟียรา ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วตัวเมืองมิลานเป็นเหล่านักออกแบบรายเล็กรายย่อยบรรดาร้านค้าขายปลีก ร้านเครื่องกลหรือแม้แต่โรงงาน ต่างร่วมมือร่วมใจปิดร้านหยุดทำงานทั้งอาทิตย์เพื่ออุทิศพื้นที่ให้กับเหล่าดีไซเนอร์และบริษัทต่างๆ แปลงโฉมกลายมาเป็นพื้นที่จัดแสดงโชว์ผลงานและแนวคิดด้านออกแบบล่าสุดของตน รูปภาพ 7 และ 7A ส่วนแสดงโชว์ที่ใหญ่ที่สุดในงานต้องยกให้โซน่า ทอร์ทอนา (Zona Tortona) ซึ่งรวบรวมงานออกแบบของแฟชั่นเฮ้าส์ชั้นนำระดับโลกและ เอเจนซี่นางแบบ ซาโลนี (Saloni) เนรมิตถนนเล็กๆ หลายสายให้กลายเป็นศูนย์กลางการออกแบบซึ่งคึกคักในช่วงเวลาระหว่างวัน และยิ่งมีชีวิตชีวามากขึ้นในยามราตรีด้วยบรรยากาศแบบสตรีทปาร์ตี้ที่คราคร่ำไปด้วยบรรดาเหล่าดีไซเนอร์และชาวมิลานที่มีหัวทางด้านงานออกแบบเป็นทุนเดิมออกมาเดินเล่นเตร็ดเตร่ตามท้องถนนเยี่ยมชมผลงาน อีกหนึ่งพื้นที่ของงานซึ่งก็คือเขตเบรรา (Brera) ซึ่งเต็มไปด้วยบาร์ไวน์ คาเฟ่และยังมีถนนสายสำคัญเวีย มอนเต นาโปลียอน (Via Monte Napoleone) หนึ่งในถนนสายแฟชั่นชั้นนำของโลกซึ่งคุณจะสามารถมองหาบริษัทจัดแสดงไฟที่อวดโฉมผลงานของพวกเขาผ่านดิสเพลย์หน้าร้านร่วมกับแบรนด์แฟชั่นดัง รูปภาพ 8-9 ในช่วงปีหลังๆ โซน่าทอร์ทานา (ZonaTortona) เริ่มลดบทบาทความสำคัญของงานออกแบบใหม่ๆที่ทำร่วมกับองค์กรใหญ่อย่างเช่น เดอะ คอเรียน แอนด์ ดิสนีย์ (the Corian& Disney) และกลับมาให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์ผลงานที่มุ่งเน้นในเรื่องการมีประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์ในองค์รวม รูปภาพ 10, 10A & 10B ส่วนในพื้นที่แถบชานเมืองมิลานที่รู้จักกันในนามแลมเบรท (Lambrate) ก็เริ่มถูกใช้เป็นหนึ่งในพื้นที่จัดแสดงใหม่ๆ ที่เหล่าดีไซเนอร์รุ่นใหม่มารวมตัวกัน โดยเหล่าบรรดาหัวครีเอทีฟ นักศึกษามหาวิทยาลัยและกลุ่มบริษัทเล็กๆ ที่พากันหลั่งไหลมา ณ พื้นที่เขตนี้ได้สร้างสีสันและแรงบันดาลใจให้กับแนวคิดใหม่ๆเกี่ยวกับการใช้วัสดุและสี เราสามารถพบเห็นผลงานที่เน้นเรื่องความยั่งยืน งานรีไซเคิลหรือแม้แต่การนำกลับมาใช้ใหม่ได้ที่นี่ ดีไซเนอร์ท่านหนึ่งจัดแสดงโชว์โคมไฟที่ประดิษฐ์มาจากถังดับเพลิงที่ไม่ใช้แล้ว สีสันและวัสดุ รูปภาพ 11 พื้นที่เชื่อมต่อระหว่างห้องครัวและห้องนั่งเล่นถูกทำให้แลดูแข็งขึ้น เมื่อปีที่แล้วในงานยูโรคูซินา 2010 (Eurocucina 2010) เราได้เห็นโทนสีที่อ่อนลงมาดังที่สะท้อนให้เห็นจากตู้ชุดครัว แต่มาในปีนี้เรากลับได้เห็นการใช้โทนสีและวัสดุที่คล้ายคลึงกับที่ใช้ในห้องนั่งเล่นและเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่างๆ รูปภาพ 12 บรรดาผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์รายหลักต่างแสดงผลงานโดยเน้นโชว์พื้นที่นั่งเล่นและครัว และยังสานต่อการสร้างสรรค์เทรนด์สีดังที่เห็นมาแล้วในงานซาโลนี (Saloni) 2010 สีเอิร์ธโทน สีเทาและสีออฟไวท์ต่างถูกใช้เป็นโทนสีหลักสำหรับพื้นที่และเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญ ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยในพื้นที่นั่งเล่น รูปภาพ 13 อาจถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์หนึ่งที่ชี้ให้เห็นถึงสภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ เมื่อเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหม่ๆ ต่างถูกตัดทอนความหรูหราลงและแสดงถึงการให้ความสำคัญกับอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น นอกจากนี้ยังเน้นถึงความพอเหมาะพอดีและรูปทรงสำเร็จอีกด้วย รูปภาพ 14 เมื่อทีวีจอแบนได้กลายมาเป็นหัวใจหลักของพื้นที่นั่งเล่น บรรดาบริษัทต่างๆ จึงต่างพากันมองหาช่องทางที่จะผสมผสานหรือซ่อนทีวีนี้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ เฉกเช่นเดียวกับวิธีที่ผู้ผลิตชุดครัวทำกับเหล่าเครื่องมือเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนมาช้านาน เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวสีดำกำลังจะกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งเมื่อบรรดาเหล่าลูกค้าหันมาชื่นชอบที่จะใช้ชีวิตท่ามกลางสีที่ตัดกันแบบชัดเจน รูปภาพ 15 & 16, 16A ยังคงสามารถพบเห็นองค์ประกอบของสีสัน รูปแบบและพื้นผิวที่ใช้เฉดสีจัดจ้าน แต่มักจะพบอยู่ในบรรดาแอ๊กเซสซอรี่ต่างๆ หมอนอิง แจกัน ฯลฯ ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับช่วงเวลาต่างๆ ได้ สีทองและสีทองแดงก็เข้ากันได้ดีกับโทนสีพื้นฐานเนื่องด้วยมันจะเพิ่มความแวววาวแทนที่สีเฉดนั้น รูปภาพ 17 ไม้ซุงกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งในรูปแบบใหม่ ลาพาลมา (Lapalma) จัดแสดงโชว์เก้าอี้โอเทียม (Otium) ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากหลักการแสวงหารูปแบบของไม้ซุงขึ้นรูป ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาคือความอ่อนโยนแบบใหม่ที่ได้จากไม้ซุงซึ่งไม่เพียงแค่สร้างความรู้สึกเป็นธรรมชาติและเชิญชวน แต่ยังคงสามารถปรับเปลี่ยนให้ใช้ร่วมกับวัสดุอื่นโดยง่ายอีกด้วย ไม้ซุงขึ้นรูปนั้นสามารถใช้ทำเป็นฐานขนาดบางที่มีความแข็งแรงมากพอที่จะนำไปประกอบเข้ากับวัสดุอื่นเพื่อเพิ่มชั้นเลเยอร์ให้กับตัวชิ้นงาน รูปภาพ 18 เฟอร์นิเจอร์ชิ้นโปรดของผมคือ แมนซุ อาร์มแชร์ (Manzu Armchair) ของ เอเลียส (Alias) ซึ่งดีไซน์ย้อนยุคนั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากการตกแต่งภายในรถสปอร์ตของประเทศอิตาลีในยุค 70 โดยสรุปแล้ว งานนี้มีการจัดแสดงโชว์ผลงานหลายชิ้นที่ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจซึ่งมุ่งเน้นไปที่รายละเอียดและฝีมือ ส่วนผมเองจะตั้งตารอคอยที่จะไปร่วมงานมิลาน คิทเช่น แฟร์ 2012 (2012 Milan Kitchen Fair) เพื่อจับตามองดูเทรนด์สีและวัสดุที่มีอิทธิพลต่อการออกแบบห้องครัวต่อไป สก๊อต คิง ถือเป็นดีไซเนอร์มือรางวัลของอีเลคโทรลักซ์ เอเชีย-แปซิฟิค เขาเข้ามาดูแลการออกแบบผลิตภัณฑ์ทุกประเภททั้งในยุโรปและในเอเชียแปซิฟิคนับตั้งแต่เข้ามาทำงานกับบริษัทในปี 1995 เมื่อไม่นานมานี้ เขาเพิ่งนำทีมงานคว้ารางวัลเกียรติยศสูงสุดที่งานสิงคโปร์ ดีไซน์ อวอร์ด และรางวัลออกแบบดีเด่นที่ประเทศจีนสำหรับชิ้นงานสร้างสรรค์แรงบันดาลใจอย่าง “คีย์โฮล ฮอบ” ซึ่งเป็นสุดยอดดีไซน์ของเตาประกอบอาหารจากอีเลคโทรลักซ์ หนึ่งในผลงานที่ได้รับการออกแบบอย่างโดดเด่น ดีไซน์เรียบ หรู พร้อมผสาน 2 เทคโนโลยี ด้วยฟังก์ชั่นแก๊สและแม่เหล็กไฟฟ้าภายในชิ้นเดียว เกี่ยวกับอีเลคโทรลักซ์ อีเลคโทรลักซ์ เป็นบริษัทผู้นำระดับโลกด้านการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อการใช้งานในครัวเรือน และเพื่อการใช้งานระดับมืออาชีพ โดยในแต่ละปีมียอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์มากกว่า 40 ล้านชิ้นในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก บริษัทได้เน้นย้ำถึงการเป็นผู้ค้นคว้านวัตกรรมใหม่ มีการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก โดยได้ใช้ข้อมูลจากการทำวิจัยเพื่อให้ทราบถึงหรือมีความเข้าใจลูกค้าอย่างกว้างขวางและลึกซึ้ง ทั้งนี้ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ สามารถสนองตอบต่อความต้องการของผู้บริโภค และผู้ใช้งานระดับมืออาชีพได้อย่างแท้จริง ผลิตภัณฑ์ของอีเลคโทรลักซ์นั้นรวมถึงตู้เย็น เครื่องล้างจาน เครื่องซักผ้า เครื่องดูดฝุ่น เตาหุงต้ม และเครื่องปรับอากาศ ภายใต้ ตราสินค้าอีเลคโทรลักซ์ เออีจี-อีเลคโทรลักซ์ ซานุซซี่ ยูเรก้า และฟริจิแดร์ ในปี 2553 อีเลคโทรลักซ์ มียอดขายผลิตภัณฑ์ 106 พันล้านโครเนอร์สวีเดน หรือประมาณห้าแสนล้านบาท และมีพนักงานทั้งสิ้นจำนวน 52,000 คน สำหรับสื่อมวลชน และผู้ที่สนใจข่าวสารของทางอีเลคโทรลักซ์สามารถเข้าเยี่ยมชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.electrolux.co.th และทาง www.electrolux.com/electrolux-insiders หรือ www.facebook.com/thelittlewhitebook เกี่ยวกับ เตา อีเลคโทรลักซ์ “คีย์โฮล ฮอบ” สำหรับ เตา “คีย์โฮล ฮอบ” เป็นเตาประกอบอาหารจากอีเลคโทรลักซ์ ที่ถูกออกแบบให้มีรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ ในลักษณะ ‘ลูกกุญแจ (Keyhole)’ และมาพร้อมด้วย 2 เทคโนโลยีในหนึ่งเดียวของเตาแก๊ส และเตาแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อรองรับการประกอบอาหารตามสไตล์เอเชียโดยเฉพาะ การดีไซน์ที่สวยงาม เรียบและหรู ผนวกกับการรวมกันของ 2 เทคโนโลยีในหนึ่งเดียว และความลงตัวระหว่างความสวยงามสไตล์ยุโรปกับเทคโนโลยีการใช้กระทะก้นลึกประกอบอาหารตามแบบของคนเอเชียโดยเฉพาะ ด้วยนวัตกรรมอันทันสมัยผนวกกับการออกแบบที่พิถีพิถันจากทีมนักออกแบบของอีเลคโทรลักซ์ ทำให้ ‘คีย์โฮล ฮอบ (Keyhole Hob)’ เตาประกอบที่มีรูปทรงแบบลูกกุญแจ และมีทั้งฟังก์ชั่นแก๊สและแม่เหล็กไฟฟ้าในชิ้นเดียว ที่ถือเป็นสุดยอดดีไซน์จากทีมออกแบบของอีเลคโทรลักซ์ ที่ชนะรางวัลเหรียญทองจากเวทีอันทรงเกียรติอย่าง สิงคโปร์ ดีไซน์ อวอร์ด 2010 ในสาขาการออกแบบผลิตภัณฑ์มาการันตีความงามและคุณภาพ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข่าวประชาสัมพันธ์โปรดติดต่อ พิมพ์ไพลิน ธีระลีลา หรือ นันท์นภัส สุขปรีดี เกรลิ่ง (ไทยแลนด์) โทร 02-635-7151-2 แฟกซ์ 02-635-7155 อีเมล: pimpailin@grayling.com และ nannapat@grayling.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ