กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
‘ผลิตภัณฑ์ตราเพชร’ โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3/54 รักษาอัตราการเติบโตตามเป้าหมาย กวาดรายได้ 935 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.4% หลังผลิตภัณฑ์กลุ่มไม้สังเคราะห์และกระเบื้องหลังคามีการเติบโตที่ดี จากปัจจัยภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง ด้านผู้บริหาร DRT ระบุไตรมาสมาสสุดท้ายยอดขายกระทบบ้างจากปัจจัยวิกฤตน้ำท่วม แต่เชื่อว่าหลังน้ำลด ยอดขายจะทะลัก ดันอัตราการเติบโตได้ 10% ตามเป้าหมาย
นายอัศนี ชันทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัทผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์หลังคา ไม้สังเคราะห์ พื้นไม้ลามิเนต แผ่นบอร์ด ยิปซัม ระบบโครงหลังคาสำเร็จรูป (TRUSS) และบริการหลังการขาย ภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาสที่ 3/54 (กรกฎาคม-กันยายน 2554) ว่า บริษัทฯ มีรายได้ 935 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้ 832 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 115.3 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 115.9ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ต้องจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มจาก 25% เป็น 30% จากเดิมที่ได้รับประโยชน์ทางภาษีซึ่งสิ้นสุดในปี 2553
สำหรับผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนของปี 2554 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน บริษัทฯ มีรายได้ 2,830 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 11.9% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 375 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.7% เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มีกำไรสุทธิ 369 ล้านบาท
“ภาพรวมยอดขายและกำไรในไตรมาส 3 ปีนี้ ถือว่ายังเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังมีการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อสินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์และกระเบื้องหลังคาที่มีอัตราการเติบโตของยอดขายที่ดี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลการดำเนินของบริษัทฯ มีผลการดำเนินการเป็นที่น่าพอใจ” นายอัศนี กล่าว
กรรมการผู้จัดการ DRT กล่าวด้วยว่าแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4/54 นั้น บริษัทฯ ยอมรับว่าจากเหตุการณ์วิกฤตอุทกภัยครั้งรุนแรงในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งส่งผลให้หลายจังหวัดต้องประสบกับภาวะน้ำท่วม และหลายเส้นทางไม่สามารถเดินทางสัญจรได้ตามปกติ ส่งผลต่อการขนส่งและการกระจายสินค้าไปยังพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้เร่งกระจายสินค้าไปยังพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม เพื่อสร้างยอดขายทดแทนพื้นที่ประสบภัย และหากสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย เชื่อว่าความต้องการสินค้าในกลุ่มวัสดุก่อสร้างจะเพิ่มขึ้น จึงยังเชื่อมั่นว่าจะยังคงรักษาอัตราการเติบโตทั้งปีนี้ไว้ได้ 10% เมื่อเทียบกับรายได้ในปี 2553 ที่มีรายได้ 3,304 ล้านบาท
ด้านนายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด DRT กล่าวว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ ทำให้ความต้องการสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้างในไตรมาส 4 เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมด้านการผลิตเพื่อรองรับกับความต้องการที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น โดยหลังจากสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลง บริษัทฯ ก็พร้อมที่จะเร่งขนส่งสินค้าตามความต้องการของลูกค้าในทันที
“ในส่วนของสินค้านั้น เราได้เตรียมพร้อมไว้รองรับความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์ที่เชื่อว่าประชาชนมีความต้องการใช้มากขึ้น ซึ่งขณะนี้รอเพียงสถานการณ์น้ำลดก็พร้อมที่จะกระจายสินค้าได้ทันที เพื่อให้ทันต่อความต้องการในการใช้ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคว่าสินค้าจะไม่ขาดแคลนจากท้องตลาดอย่างแน่นอน” นายสาธิตกล่าว