กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--ฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวน
ฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวน องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก เปิดเผยว่า อัตราการเติบโตของคลาวด์คอมพิวติ้งของประเทศไทยในปี 2555 จะเพิ่มขึ้นในปีนี้อย่างรวดเร็ว จาก 32% เป็น 50% สืบเนื่องจากความต้องการในการลดภาระการลงทุนเรื่องอุปกรณ์และการใช้งานในส่วนของการแบคอัพข้อมูลเพื่อรองรับกรณีเกิดภัยธรรมชาติ ตลอดจนสาเหตุจากการพัฒนาประสิทธิภาพของเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อให้สามารถรองรับการเชื่อมต่อข้อมูลได้มากขึ้น
ดร. มนธ์สินี กีรติไกรนนท์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก เปิดเผยว่า ปัจจุบันอัตราการเติบโตของคลาวด์คอมพิวติ้งในประเทศไทยยังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ โดยมีอัตราเฉลี่ยการเติบโตยู่ที่ 32% ในขณะที่ของอัตราการเติบโตของคลาวด์คอมพิวติ้งในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิค อยู่ที่ 38% และเมื่อเทียบกับประเทศในแถบอาเซียน เช่นประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ ประเทศไทยยังถือได้ว่ามีอัตรการเติบโตที่ไม่สูงนัก เนื่องจากขาดการสนับสนุนจากภาครัฐ ในขณะที่สองประเทศดังกล่าวมีการผลักดันอย่างต่อเนื่องจากภาครัฐมาเป็นเวลาหลายปี
“โดยสาเหตุหลักที่หลายองค์กรยังมีความลังเลต่อการนำคลาวด์คอมพิวติ้งมาใช้งานนั้น สือบเนื่องมาจากความกังวลต่อความปลอดภัยของข้อมูล ความเสถียรของโครงข่าย ตลอดจนทัศนคติและความพร้อมของผู้ใช้งานเอง อย่างไรก็ดี ด้วยเหตุอุทกภัยอันร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยในขณะนี้ทำให้หลายองค์กร ได้เห็นความสำคัญของคลาวด์คอมพิวติ้ง และมีการพิจารณาเพื่อนำมาใช้งานอย่างจริงจัง” ดร. มนธ์สินี กล่าว