หอการค้าไทย ยืนยันเดินหน้าจัดสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ที่ระยอง

ข่าวทั่วไป Thursday November 10, 2011 11:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 พ.ย.--หอการค้าไทย นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยร่วมกับหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ ได้กำหนดจัดสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 29 ขึ้น ในระหว่างวันที่ 9 — 11 ธันวาคม 2554ณ โรงแรมสตาร์ จังหวัดระยอง โดยในช่วงที่ หอการค้าไทย และหอการค้าจังหวัดระยอง กำลังเตรียมงานกันอยู่ ได้มีกระแสข่าวออกมามากมาย ว่าในภาวะวิกฤติน้ำท่วมหลายจังหวัด รวมทั้งกรุงเทพฯ ด้วยนั้น การจัดสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ จะยังคงดำเนินการอยู่หรือไม่ คณะกรรมการหอการค้าไทย และหอการค้าจังหวัด รวมทั้งจังหวัดเจ้าภาพได้มีการหารือกันแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า “งานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 29 จะต้องเดินหน้าต่อไป” โดยมีความเห็นว่าไม่ว่าจะเกิดวิกฤติอะไรขึ้นก็ตาม หอการค้าในฐานะผู้นำภาคธุรกิจเอกชน จะต้องนำพาเศรษฐกิจของประเทศฝ่าวิกฤติไปให้ได้ นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า การจัดสัมมนาในปีนี้ หอการค้าไทยจึงจัดให้เป็นเวทีแห่งการฝ่าวิกฤติ และการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง จะมีการระดมความคิดจากนักวิชาการ และภาคธุรกิจทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคอย่างครบถ้วน เพื่อให้เวทีสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศในครั้งนี้ มีทางออกให้กับวิกฤติ และมีคำตอบในการแก้ปัญหาในเชิงยุทธศาสตร์ให้กับประเทศไทยในอนาคตต่อไป สำหรับภาพรวมของการจัดสัมมนา ในวันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม 2554 จะมีการประกาศความสำเร็จโครงการ “ปลูกมันสำปะหลัง 1 ไร่ 1 แสน” และจะมีการสัมมนา “CSR ด้วยหัวใจ ใคร ๆ ก็ทำได้” วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม 2554 จะเป็นการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “รวมพลังขับเคลื่อนอย่างยั่งยืน”และพิธีมอบรางวัลหอการค้ายอดเยี่ยม และวันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม 2554 จะเป็นการสรุปผลสัมมนาฯ เสนอต่อนายกรัฐมนตรี นายวิชัย อัศรัสกร กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทย กล่าวว่า การสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศในครั้งนี้ มีความสำคัญและมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดขึ้น เพราะจะเป็นเวทีที่ภาคเอกชนและภาคราชการ ประกอบด้วย ประธานหอการค้าจังหวัด เลขาธิการหอการค้าจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ จะได้มาร่วมสัมมนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ในช่วงที่เป็นวิกฤติเศรษฐกิจครั้งสำคัญของประเทศ และยังอยู่ในช่วงที่ประชาชนและผู้ประกอบการกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ซึ่งเวทีนี้จะเป็นเวทีแรกที่ภาครัฐและภาคเอกชนจากทั่วประเทศ จะได้มาร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศ หลังจากที่หลายจังหวัดยังสับสนและยังขาดความชัดเจนในการแก้ไขปัญหา นายวิชัย กล่าวว่า การสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “รวมพลังขับเคลื่อนอย่างยั่งยืน” ได้มีการแบ่งกลุ่มสัมมนาเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มที่ 1 เรื่อง “ต่อต้านคอร์รัปชั่น สร้างสรรค์ประเทศไทย” การเกิดวิกฤติน้ำท่วมในครั้งนี้ มีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างมหาศาล ซึ่งภาครัฐได้มีการประเมินค่าของความเสียหายค่อนข้างสูง และรัฐบาลได้เตรียมการจัดตั้งงบประมาณในการเยียวยา ฟื้นฟู และการวางแผนป้องกันในระยะยาวหลายแสนล้านบาท ซึ่งภาคธุรกิจเอกชนรู้สึกเป็นห่วง ในเรื่องของการบริหารจัดการงบประมาณดังกล่าว ให้มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ รวมทั้งความโปร่งใสในการใช้งบประมาณ สามารถตรวจสอบได้ และไม่มีปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น กลุ่มที่ 2 เรื่อง “ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ หลังวิกฤติน้ำท่วม” ปัญหาวิกฤติน้ำท่วม ในปี 2554 นับว่าเป็นปัญหาที่รุนแรงกว่าทุกครั้ง และเป็นปัญหาในเชิงยุทธศาสตร์ในด้านการวางแผนเศรษฐกิจของประเทศซึ่งปัญหานี้เป็นปัญหาเรื้อรังยาวนาน ขาดการวางแผนและบูรณาการอย่างเป็นระบบ จะต้องมีการวางผังเมืองของประเทศอย่างถูกต้อง นอกจากนั้น การบริหารจัดการที่ไม่เป็นระบบ ได้ส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งซ้ำซากรุนแรงขึ้นทุกปี กลุ่มที่ 3 เรื่อง “ลดความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจและสังคมสู่ความยั่งยืน” ผลกระทบในวิกฤติน้ำท่วมครั้งนี้สร้างความเดือดร้อนอย่างหนักให้กับกลุ่มคนหลักๆ 3 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มผู้ใช้แรงงานต้องตกงาน จำนวนมาก (700,000 คน) 2. กลุ่มเกษตรกรที่พืชผลการเกษตรเสียหาย และ3. กลุ่มธุรกิจ SMEs ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มนี้ ต้องได้รับการดูแล เยียวยา ฟื้นฟู เป็นกรณีพิเศษ ถ้าไม่ดูแลอย่าง ใกล้ชิดจะทำให้ช่องว่างของความเหลื่อมล้ำในสังคมแตกต่างกันมากขึ้น และจะเป็นปัญหาต่อไปในอนาคต สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ ไม่น่าเป็นห่วงมากนัก เนื่องจากสามารถเอาตัวรอดได้ เพราะมีทุนเพียงพอ และมีระบบป้องกันความเสี่ยง เช่น การประกันภัยไว้ นายวิรัตน์ ศิริสกุลงาม ประธานหอการค้าจังหวัดระยอง กล่าวว่า หอการค้าจังหวัดระยอง ได้รับคัดเลือกจากหอการค้าไทยและหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ ให้เป็นเจ้าภาพทางด้านสถานที่ในการจัดสัมมนาฯ ครั้งที่ 29 ซึ่งขณะนี้มีความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพด้านสถานที่ในการจัดสัมมนา โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งประชาชนจังหวัดระยอง เพื่อให้การจัดงานมีความสมบูรณ์มากที่สุด สำหรับงานเลี้ยงต้อนรับผู้เข้าร่วมสัมมนา จะจัดขึ้นที่ท่าเรือ ไออาร์พีซี และจะได้ชมเรือจักรีนฤเบศร์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวเรือจักรีนฤเบศร์จะปฏิบัติภารกิจซ้อมแผนฉุกเฉินในการขจัดคราบน้ำมันที่ไหลลงสู่ทะเลร่วมกับท่าเรือไออาร์พีซี พร้อมกับได้ชิมอาหารเลิศรสที่ขึ้นชื่อในภาคตะวันออก ด้านการท่องเที่ยวและสันทนาการ ได้มีการจัดโปรแกรมการท่องเที่ยวในจังหวัดระยอง 3 เส้นทาง คือ เส้นทางที่ 1 ท่องเที่ยวทะเล ซึ่งรวมถึงชายหาดสวยงามของจังหวัดระยองและเกาะเสม็ด เส้นทางที่ 2 การท่องเที่ยวเชิงเกษตร สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ และสวนผลไม้ที่มีชื่อเสียง และเส้นทางที่ 3 ท่องเที่ยวโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเส้นทางใหม่ของจังหวัด ชมการผลิตสินค้าที่ได้มาจากโรงงานปิโตรเคมี ผลิตภัณฑ์ก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทย รวมทั้งกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้าจากถ่านหิน อย่างไรก็ตาม เส้นทางท่องเที่ยวดังกล่าว ทางหอการค้าจังหวัดระยองได้จัดขึ้นเพื่อมอบให้กับผู้เข้าร่วมสัมมนาโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ