กรุงเทพฯ--10 พ.ย.--IR PLUS
SYNEX ไม่หวั่นวิกฤตน้ำท่วมกระทบธุรกิจ เชื่อผลงานโค้งสุดท้ายปีนี้ยังไปได้สวย “สุพันธุ์ มงคลสุธี” ย้ำเป้ายอดขายทั้งปีนี้แตะ 2 หมื่นลบ.แน่ หลัง 9 เดือนแรกปั๊มยอดขายแล้ว 1.5 หมื่นลบ. ขณะกำไรทะลุ 303.48ลบ. เพิ่มขึ้น 38.32% จากปีก่อนที่ทำได้ 219.40ลบ. ส่งซิกมีลุ้นปันผลงามตอบแทนผู้ถือหุ้น นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการและซีอีโอ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ ระบบสารสนเทศและอุปกรณ์ไอทีรายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมไอทีมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการใช้สินค้าไอทีที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น และถึงแม้ว่าในช่วงปลายไตรมาสที่ 3ต้นไตรมาสที่ 4 จะมีปัญหาอุทกภัยเกิดขึ้นและอาจส่งผลให้ยอดขายไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ (ตุลาคม — ธันวาคม 2554) ชะลอตัวลงบ้าง แต่ยังมั่นใจว่าภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และยังเชื่อว่ายอดขายทั้งปีเป็นไปตามเป้าหมายที่ 20,000 ล้านบาท
“วิกฤตน้ำท่วมที่เกิดขึ้น บริษัทฯ ได้เตรียมพร้อมรับมืออย่างดี โดยได้ทำประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สินของบริษัทฯ เรียบร้อยแล้ว และแม้ว่าพื้นที่โดยรอบที่ตั้งสำนักงานจะมีน้ำท่วม แต่บริษัทฯ มีมาตรการป้องกันพื้นที่ทั้งในส่วนของอาคารสำนักงาน และอาคารคลังสินค้าไว้เป็นอย่างดีตามแผนมาตรการป้องกัน พร้อมยังเปิดดำเนินการได้ตามปกติ นอกจากนั้น ยังเน้นกระจายสินค้าไปยังสาขาต่างๆ ทั้ง 26 สาขาทั่วประเทศ เพื่อให้การจัดส่งสินค้าสามารถถึงมือลูกค้าได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงมั่นใจว่าอุทกภัยครั้งนี้ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อรายได้ในปี 2554 อย่างมีนัยสำคัญดังกล่าว”
นายสุพันธุ์ กล่าวอีกว่าสินค้าหลักของบริษัทฯ ยังมาจากผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ รวมถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการพิมพ์ ขณะที่สินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟน ซึ่งตลาดมีการขยายตัวอย่างโดดเด่นในขณะนี้บริษัทฯ มีสัดส่วนประมาณ 8% ของยอดขายรวม พร้อมทั้งคาดว่าในปี 2555 ตลาดสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟนดังกล่าวจะเติบโตต่อเนื่องจากปีนี้
สำหรับผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2554 (กรกฎาคม — กันยายน 2554) บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีรายได้รวม5,948.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,744.17 ล้านบาท หรือร้อยละ 41.48 จากงวดเดียวกันของปีก่อน (กรกฎาคม — กันยายน 2553) ที่มีรายได้รวม 4,204.14 ล้านบาท ขณะที่บริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวม 87.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.80 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.10และมีกำไรต่อหุ้น 0.13บาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 85.54 ล้านบาท และกำไรต่อหุ้น 0.13 บาท
ผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวได้ส่งผลประกอบการสะสมงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม — กันยายน 2554) บริษัทฯ มีรายได้รวม 15,799.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,090.76ล้านบาท หรือร้อยละ 34.93 จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 11,708.29 ล้านบาท และบริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวม 303.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84.08 ล้านบาท หรือร้อยละ 38.32 และมีกำไรต่อหุ้น 0.45 บาทจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 219.40 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.33 บาท
“ผลประกอบการ 9 เดือนแรกที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่น่าพอใจ มีกำไรสุทธิมากกว่าปีก่อนทั้งปี ฉะนั้นผลประกอบการทั้งปีนี้น่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย และคาดว่ามีโอกาสจ่ายเงินปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้นมากกว่าปีก่อนที่จ่ายในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท ซึ่งบริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ” นายสุพันธุ์ กล่าว