กรุงเทพฯ--22 ม.ค.--กระทรวงพลังงาน
รัฐเดินหน้าโครงการป้องกันและปราบปรามน้ำมันเถื่อนอย่างต่อเนื่องสรรพาสามิตเตรียมงบประมาณ 41 ล้านบาท ซื้อ Marker เติมในดีเซลที่ส่งออกและขายชาวประมง ชี้จะช่วยให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น และสร้างระบบการค้าที่เป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการ
ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2547 กรมสรรพาสามิตได้รับอนุมัติงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียม (น้ำมันเถื่อน) จำนวน 53.06 ล้านบาท โดยงบประมาณจำนวน 41 ล้านบาท จะใช้ในโครงการป้องกันการลักลอบนำน้ำมันส่งออกกลับเข้ามาในราชอาณาจักร ด้วยการเติมสาร Marker ในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่ส่งออกและน้ำมันดีเซลที่นำไปจำหน่ายให้แก่ชาวประมงในเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักรไทย
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าว เพื่อช่วยเพิ่มความเข้มงวดและรัดกุมในการควบคุม ตรวจสอบไม่ให้มีการกระทำผิดเกิดขึ้น รวมทั้งช่วยจัดเตรียมสาร Marker ให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ประกอบกิจการค้าน้ำมันที่มีการส่งออกฯ และผู้ประกอบการค้าน้ำมันที่ขอนำ น้ำมันไปจำหน่ายให้แก่ชาวประมงในเขตต่อเนื่อง (Tanker)
อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวต่อว่า ในการดำเนินมาตรการนี้ จะทำให้ภาครัฐสามารถจัดเก็บภาษีน้ำมัน และผลิตภัณฑ์น้ำมันได้ตรงตามเป้าหมาย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งช่วยป้องกันไม่ให้มีการนำน้ำมันดีเซลที่ส่งออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งได้รับการยกเว้นหรือคืนภาษี นำกลับมาใช้หรือจำหน่ายภายในประเทศหรือแจ้งส่งออกเท็จ หรือน้ำมันที่แจ้งว่านำไปจำหน่ายให้แก่ชาวประมงในเขตต่อเนื่อง แล้วนำกลับมาจำหน่ายภายในประเทศ
"แม้ตัวเลขการกระทำความผิดจะลดน้อยลง แต่ภาครัฐก็ยังเห็นความจำเป็นในการดูแลอย่างเข้มงวด เพื่อสกัดกั้นขบวนผู้ค้าน้ำมันที่ทุจริต หรือผู้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวให้น้อยลง หรือหมดไปในที่สุด ซึ่งจะส่งผลดีต่อประเทศในการมีรายได้เพิ่มขึ้น และสร้างระบบการค้าที่เป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการค้าน้ำมันที่สุจริต ตลอดจนช่วยเหลือให้ชาวประมงได้ใช้น้ำมันที่มีคุณภาพ ราคาถูก และถูกต้องตามกฎหมาย"--จบ--
-นห-