กรุงเทพฯ--23 ม.ค.--กทม.
เมื่อวันที่ 21 ม.ค.47 ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 1 (ครั้งที่ 3) ประจำปี 2547 นางผุสดี วงศ์กำแหง สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตราชเทวี และคณะ ได้เสนอญัตติ เรื่อง ขอให้กรุงเทพมหานครจัดสรรงบประมาณเป็นค่าตอบแทนครูอาสาสมัครสอนภาษาจีน (MANDARIN) ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร สืบเนื่องจากกรุงเทพมหานครได้มีนโยบายส่งเสริมการเรียน การสอนภาษาจีน ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร โดยมีการแลกเปลี่ยนครูสอนภาษาจีนของนครคุนหมิง และครูสอนภาษาไทยของกรุงเทพมหานคร รวมทั้งส่งครูของกรุงเทพมหานครไปเรียนภาษาจีนที่นครคุนหมิง แต่ทั้งสองวิธีดังกล่าวก็ยังไม่สามารถผลิตครูให้เพียงพอสำหรับการเรียนการสอนภาษาจีนทั้ง 431 โรงเรียนได้ในเวลา อันรวดเร็ว ทั้งนี้ในปัจจุบันกทม.มีครูอาสาสมัครช่วยสอนภาษาจีนอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการศึกษา มีส่วนสำคัญในการขยายโอกาสการเรียนการสอนภาษาจีนของนักเรียนกทม.ในหลายโรงเรียน จึงขอให้กรุงเทพมหานครจัดสรรค่าตอบแทนแก่ครูอาสาสมัครสอนภาษาจีนเหล่านี้ ตามความเหมาะสม เพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาจีนในโรงเรียนกทม.ให้ทั่วถึงและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ด้านนายชัยวุฒิ จริยวิโรจน์สกุล สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตบางกะปิ ได้เสนอญัตติ เรื่อง ขอให้กรุงเทพมหานครประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจร เนื่องจากกรุงเทพมหานครมีพื้นที่ 1,568.737 ตร.กม. มีประชากรตามหลักฐานทะเบียนราษฎร 5,782,159 คน นอกจากนี้ยังมีประชากรแฝงอีกหลายล้านคน ส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด ซึ่งจากสถิติ ณ วันที่ 31 ธ.ค.44 มีรถที่จดทะเบียนในกรุงเทพมหานครทั้งสิ้น 4,464,158 คัน และรถที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 30 ก.ย. 45 อีก 318,151 คัน รวมทั้งสิ้น 4,782,309 คัน ทั้งนี้ยังไม่รวมรถที่จดทะเบียนในปี 2546 ซึ่งมียอดขายถึงปัจจุบันมากกว่าสี่แสนคัน จะเห็นได้ว่าปัญหาการจราจรที่เกิดจากปริมาณรถที่เพิ่มมากขึ้น ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการก่อสร้างถนนเพิ่มให้เพียงพอ อีกทั้งการจราจรติดขัดเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือขอบข่ายอำนาจหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร กล่าวคือ มีหน่วยงานที่มีหน้าที่พิจารณาวางแผนแก้ไขปัญหาด้านจราจร คือ สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) สังกัดกระทรวงคมนาคม และสำนักงานตำรวจ แห่งชาติ ดังนั้น จึงขอให้กรุงเทพมหานครประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาจราจร เช่น กำหนดให้ผู้ที่จะซื้อรถต้องมีสถานที่จอดรถ เพื่อจำกัดปริมาณรถในกรุงเทพมหานครในทางอ้อมอีกทางหนึ่ง เป็นต้น
นอกจากนี้นายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตบางรัก ได้เสนอญัตติ เรื่อง ขอให้กรุงเทพมหานครจัดระเบียบทางเท้าให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย เนื่องจากปัจจุบันมีการติดตั้งตู้โทรศัพท์สาธารณะและป้ายโฆษณาตามจุดต่างๆ บนทางเท้าเป็นจำนวนมาก บางแห่งติดตั้งโดยไม่พิจารณาถึงความเหมาะสม กีดขวางเส้นทางสัญจรไปมาของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบางแห่งติดตั้งบริเวณทางแยกซึ่งบดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นของผู้ขับขี่ยวดยาน ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จนเป็นเหตุให้เกิดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมาก ดังนั้นจึงขอให้กรุงเทพมหานครจัดระเบียบการติดตั้งป้ายบริเวณทางเท้าให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยและปลอดภัย
ทั้งนี้ที่ประชุมสภากทม.ได้มีมติเห็นชอบทั้ง 3 ญัตติดังกล่าวและจะนำเสนอฝ่ายบริหารเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป--จบ--
-นห-