กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--ฮอลิเดย์ อินน์
ฮอลิเดย์ อินน์ แบรนด์โรงแรมดังในเครือไอเอชจี จับมือ 3 โรงแรมดังในเครือ ได้แก่ ฮอลิเดย์ อินน์ รีเจ้นท์ บีช ชะอำ, ฮอลิเดย์ อินน์ เชียงใหม่ และฮอลิเดย์ อินน์ กรุงเทพฯ สีลม เปิดแพ็คเกจประชุมสุดพิเศษรองรับการขยายตัวของธุรกิจไมซ์ในประเทศ ในคอนเซ็ปต์ SEA SUN CITY ชูจุดเด่นของโรงแรมในเครือที่ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศไทย พร้อมนำเสนอสิ่งอำนวยความสะดวกครบสูตร ทั้งห้องจัดประชุมสัมมนาในรูปแบบต่างๆ และห้องพักที่เพียบพร้อมด้วยความสบาย ตั้งเป้ารับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ
มร. มาร์ค ฟลาวเออร์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ ประจำภาคพื้นเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยถึงการเปิดตัวแพ็คเกจการประชุม SEA SUN CITY ในครั้งนี้ว่า ฮอลิเดย์ อินน์ ถือเป็นแบรนด์ที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในด้านการให้บริการห้องพัก ในกลุ่มนักท่องเที่ยว รวมถึงกลุ่มนักธุรกิจที่เดินทางมาร่วมทริปพิเศษไม่ว่าจะเป็นการประชุมทางธุรกิจ การสัมมนา หรือ Incentive Trip ซึ่งด้วยความพร้อมของฮอลิเดย์ อินน์ ภายหลังจากการปรับโฉมใหม่ของโรงแรมต่างๆ ในเครือ ทำให้เรามีความพร้อมในการรองรับลูกค้าในกลุ่มไมซ์ มากขึ้น ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะเป็นการจัดการประชุมในรูปแบบต่างๆ และห้องพักที่เพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบาย พร้อมแพ็คเกจการท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
อีกทั้งจุดเด่นของฮอลิเดย์ อินน์ ที่ตั้งอยู่ในเมืองสำคัญที่มีแหล่งท่องเที่ยวดึงดูดใจ อาทิ ชะอำ,เชียงใหม่, สีลม ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าในกลุ่มไมซ์ เนื่องจากลูกค้าในกลุ่มนี้ จะเน้นการเดินทางเพื่อธุรกิจควบคู่ไปกับการพักผ่อน โดยเชื่อมั่นว่าภายหลังจากการเปิดตัวแคมเปญ SEA SUN CITY จะได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างมาก และสามารถทำรายได้เฉพาะในสายธุรกิจ MICE ได้สูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา
“สำหรับการเปิดแคมเปญใหม่ SEA SUN CITY มีที่มาจากความโดดเด่นของที่พักของทั้ง 3 แห่งในเครือ ฮอลิเดย์ อินน์ ได้แก่ ฮอลิเดย์ อินน์ รีเจ้นท์ บีช ชะอำ ที่โดดเด่นด้วยที่พักริมทะเลติดหาดชะอำที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังไม่ไกลจากกรุงเทพ ซึ่งมีห้องพักถึง 560 ห้อง พร้อมด้วยห้องฟังค์ชั่นสำหรับจัดการประชุมสัมมนาถึง 19 ห้อง รองรับผู้เข้าร่วมประชุมสูงสุดถึง 2,000 คน, ฮอลิเดย์ อินน์ เชียงใหม่ ที่โดดเด่นด้วยที่พักสุดหรูริมแม่น้ำแม่ปิง จ.เชียงใหม่ ที่ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ธรรมชาติ และการ ช็อปปิ้งที่สำคัญของประเทศไทย ซึ่งมีห้องพักถึง 526 ห้อง พร้อมด้วยห้องฟังค์ชั่นสำหรับจัดการประชุมสัมมนาจำนวน 15 ห้อง ที่สามารถรองรับผู้ร่วมงานได้มากสุดถึง 1,000 คน และฮอลิเดย์ อินน์ กรุงเทพฯ สีลม ที่โดดเด่นด้วยบรรยากาศของแสงสีในยามค่ำคืนและชีวิตชีวาของกรุงเทพ ใกล้ย่านธุรกิจและแหล่งบันเทิงยามค่ำคืน อีกทั้งการเดินทางที่สะดวก ซึ่งมีห้องพักถึง 700 ห้อง พร้อมด้วยห้องฟังค์ชั่นสำหรับจัดการประชุมสัมมนาจำนวน 10 ห้อง ที่สามารถรองรับผู้ร่วมงานได้มากสุดถึง 850 คน พร้อมด้วยอุปกรณ์มัลติมีเดียครบครัน เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้าในทุกรูปแบบ” มร. มาร์ค ฟลาวเออร์ กล่าวเพิ่มเติม
อนึ่ง โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เป็นหนึ่งในเครือโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุ๊ป (ไอเอชจี) เป็นกลุ่มโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ให้บริการทั้งในรูปแบบ แฟรนไชส์ เช่าซื้อ การบริหารจัดการหรือครอบครองโรงแรม มากกว่า 4,500 แห่ง และมีจำนวนห้องพักมากกว่า 650,000 ห้อง ใน 100 ประเทศทั่วโลก ผ่านบริษัทสาขาหลากหลาย อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเทล กรุ๊ป ยังเป็นเจ้าของแบรนด์โรงแรมที่เป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับหลากหลายแบรนด์ ซึ่งรวมถึงโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล แอนด์ รีสอร์ต โรงแรมอินดิโก โรงแรมคราวน์ พลาซา แอนด์ รีสอร์ต โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ รีสอร์ต โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส โรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท และ โรงแรมแคนเดิลวู้ด สวีท นอกจากนี้ ไอเอชจี ยังบริหารจัดการ “Priority Club Rewards” ซึ่งนับเป็นโปรแกรมสมาชิกที่ใหญ่ที่สุดในธุรกิจโรงแรม ด้วยสมาชิกมากกว่า 52 ล้านคนทั่วโลก ไอเอชจี มีโรงแรมอยู่ในระหว่างการพัฒนามากกว่า 1,200 โรงแรม คาดว่าจะเกิดการสร้างงานมากถึง 160,000 ตำแหน่งทั่วโลก ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า