กรุงเทพฯ--16 พ.ย.--สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
สภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร (สอท.สค.) ร่วมมือกับ ผู้ประกอบการธุรกิจ จ.สมุทรสาคร ทีมอาสาฝ่าน้ำท่วม ภาคประชาคม กลุ่มเกษตรกร และผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำ ทำโครงการ “รวมใจชาวไทย พาน้องน้ำกลับบ้าน” ด้วยแผนปฏิบัติการ “น้ำวิ่งเร็ว รถก็วิ่งได้” เพื่อปกป้องถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นถนนสายสำคัญสายสุดท้ายของการคมนาคมจากส่วนกลางไปยังภาคใต้ ให้ทำการคมนาคมได้ตามปรกติ และป้องกันหรือบรรเทาปัญหาน้ำที่กำลังจะท่วมใน จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นจังหวัดสุดท้ายที่จะต้องรองรับมวลน้ำจำนวนมหาศาล ด้วยการทำให้น้ำไหลลงทะเลโดยเร็วที่สุด เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายแก่ธุรกิจอุตสาหกรรม เกษตรกรรม ประชาชนจังหวัดสมุทรสาครเอง และยังช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในบริเวณพื้นที่ด้านตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมด ซึ่งมีปริมาณน้ำท่วมขังอยู่ประมาณ 70 %
นายอภิชิต ประสพรัตน์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ตัวแทนของกลุ่มได้กล่าวถึงมหาวิกฤติอุทกภัย 2554 นี้ว่า ได้รวบรวมกลุ่มเอกชนผู้มีจิตอาสาและทีมอาสาฝ่าน้ำท่วม รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำ เพื่อกำหนดแนวทางในการรับมือวิกฤติการณ์ดังกล่าวที่จะส่งผลกระทบต่อจังหวัด ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าจังหวัดสมุทรสาครต้องเป็นจังหวัดสุดท้ายที่จะต้องรองรับมวลน้ำมหาศาลที่จะต้องไหลเอ่อท่วมทั้งจังหวัดสมุทรสาครก่อนไหลสู่ทะเล และสมุทรสาครเองยังเป็นแหล่งผลิตอาหารสำคัญของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรม หรือแหล่งเกษตรกรรม
“จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ชาวจังหวัดสมุทรสาครทั้งภาคธุรกิจและภาคประชาชน ต่างรับทราบสถานการณ์เป็นอย่างดี และเตรียมการแก้ปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ด้วยการไม่ยอมรับชะตากรรมที่จะเกิดขึ้น แต่จะเป็นการกำหนดวิธีการที่จะรอดพ้นจากปัญหาด้วยการจัดการน้ำอย่างถูกต้องและทันที อันเป้าหมายสำคัญของการรวมตัวกันจัดทำโครงการฉุกเฉิน “รวมใจชาวไทย พาน้องน้ำกลับบ้าน” ด้วยแผนปฏิบัติการ “น้ำวิ่งเร็ว รถก็วิ่งได้”
แผนปฏิบัติการ “น้ำวิ่งเร็ว รถก็วิ่งได้” มีการปฎิบัติดังนี้
1.การเร่งเพิ่มการระบายน้ำสู่พื้นที่โครงการแก้มลิง สนามชัย-มหาชัย เพื่อระบายน้ำสู่ทะเลให้เร็วที่สุด
2.การเร่งเพิ่มการระบายน้ำสู่คลองสายต่าง ๆ ในแนวคลองเหนือ-ใต้ เพื่อเชื่อมต่อระบบระบายน้ำ และหากมีสิ่งกีดขวางต้องดำเนินการปรับปรุงโดยเร่งด่วน
3.การสร้างเส้นทางน้ำหลาก (Flood Way) เพื่อช่วยเสริมการระบายน้ำเพิ่มจากระบบคลองอีกช่องทางหนึ่ง โดยการนำร่องด้วยเส้นทางถนนพุทธสาคร ระบายน้ำสู่คลองภาษีเจริญ เพื่อร่นระยะการเดินทางของน้ำจากคลองทวีวัฒนาสู่สถานีสูบน้ำที่กระทุ่มแบน
4.การปกป้องถนนพระราม 2 ให้สัญจรได้ตามปรกติ ไม่ให้เกิดน้ำท่วมหลากข้ามที่ส่งผลต่อการปิดการจราจร โดยใช้ท่อระบายน้ำวางเหนือพื้นถนนบริเวณจุดต่ำ และเสริมพื้นถนนให้สามารถคมนาคมได้สะดวกดังเดิม หากปริมาณน้ำหลากมาก ให้เสริมการระบายด้วยเครื่องสูบน้ำเพื่อเพิ่มปริมาณการระบายน้ำ
ผลลัพธ์ที่คาดว่าจะได้จากแผนปฏิบัติงานในครั้งนี้
1. ทำให้ จ.สมุทรสาคร น้ำไม่ท่วม หรือน้ำท่วมน้อยที่สุด หรือน้ำแห้งเร็วที่สุด
2. ทำให้ถนนพระราม 2 ทำการสัญจรได้ตามปรกติ
3. บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่อาศัยอยู่ทางตอนกลางของประเทศ ด้วยการระบายน้ำที่ท่วมขังทางเหนือของจังหวัด ให้ไหลลงทะเลได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม เวลาของเราเหลือน้อย การบริหารจัดการดังกล่าว จำเป็นต้องกระทำโดยเร่งด่วนที่สุด และได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศรวมถึงการประชาสัมพันธ์เพื่อขอรับความช่วยเหลือ ซึ่งสิ่งที่มึความจำเป็น ประกอบด้วย
1) เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ จำนวนไม่น้อยกว่า 1,500 เครื่อง เพื่อผลักดันน้ำส่งเป็นทอดๆ ไปตามลำคลองหลักและคลองสาขาต่าง ๆ ใน จ.สมุทรสาคร
2) อาสาสมัคร ที่มีความรู้ด้านเครื่องยนต์ เช่นนักศึกษาอาชีวะหรือผู้มีประสบการณ์ด้านเครื่องยนต์ เพื่อดูแลรักษาเครื่องสูบน้ำให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
3) เงินบริจาค เพื่อสนับสนุน เช่น ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อเติมเครื่องสูบน้ำ และค่าเสบียงอาหารสำหรับทีมงานอาสาสมัคร ฯลฯ
4) ความร่วมมือจากชุมชนที่อาจได้รับผลกระทบ รวมถึงการประสานความเข้าใจเพื่อป้องกันปัญหาความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นเช่นในพื้นที่อื่นๆ
สุดท้ายทีมงานได้กล่าวไว้ว่า “ในแผนปฏิบัติการ “น้ำวิ่งเร็ว รถก็วิ่งได้” นี้เป็นสิ่งที่เน้นถึงการป้องกันปัญหาและแก้ปัญหาที่ต้นเหตุเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย และจะทำให้ประเทศไทยฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะปรกติได้เร็วที่สุด ทีมงานตระหนักดีว่า การเยียวยาผู้ประสพภัยยังคงต้องกระทำอยู่ แต่หากเราสามารถป้องกันความเสียหายได้ การเยียวยาก็จะทำได้ง่ายกว่า หรือไม่ต้องทำเลย ดังนั้น จึงใคร่ขอความเข้าใจ จากทุกหน่วยงานและจากชาวไทยผู้ใจบุญทุกคน ได้โปรดอนุเคราะห์แบ่งการบริจาคมาเน้นในส่วนของการป้องกันน้ำท่วม โดยการเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลให้เร็วที่สุด หากการปฎิบัติการแก้ปัญหาน้ำท่วมของกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจและสภาอุตสาหกรรม จ.สมุทรสาครครั้งนี้ประสพความสำเร็จ เท่ากับว่าท่านได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือคนไทยทั้งประเทศให้พ้นจากความเดือดร้อนซึ่งเป็นบุญกุศลอันใหญ่หลวง อนาคตของชาติอยู่ที่ความร่วมมือของท่านทุกคนแล้ว ท่านจะปล่อยให้ปัญหาน้ำท่วมนี้เป็นเหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วหรือ”
ผู้สนใจสามารถร่วมบริจาค อุปกรณ์ หรือ สมัครเป็นอาสาสมัคร ได้ที่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จ.สมุทรสาคร โทร. 081-716-1575 , 086-324-8024 , 086-3354154, (034)870-923
บัญชีรับเงินบริจาค ชื่อบัญชี “สภาอุตสาหกรรมจ.สมุทรสาคร” ธ.ทหารไทย สาขาสมุทรสาคร เลขที่ 376-2-16125-9 หากต้องการใบเสร็จ โปรดส่งใบ pay in เขียนชื่อที่อยู่ และส่ง fax (034)870-923