กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--พีซีเอส
พีซีเอส เผยนิคมอุตสาหกรรม หมู่บ้านจัดสรร หน่วยงานราชการ เตรียมแผนฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย คาด จะทำให้แนวโน้มความต้องการพนักงานรักษาความปลอดภัยและการฟื้นฟูอย่างเป็นระบบเพิ่มขึ้น พร้อมจับมือพันธมิตร แตกไลน์บริการฟื้นฟูอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร (PCS Recovery Service) ครั้งแรกในประเทศไทย และเปิดสายให้คำปรึกษาจัดการหลังน้ำลด เพื่อตอกย้ำภาพบริการทีเอฟเอ็มและผู้นำดูแลอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร
นายธนา ถิรมนัส กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอพเพอร์ตี้ แคร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ พีซีเอส ผู้ให้บริการด้านการดูแลอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร กล่าวว่า ปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้สร้างความเสียหายในวงกว้าง ทำให้ภาคเอกชนโดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรม โรงงาน หมู่บ้านจัดสรร ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และหน่วยงานราชการ มีความต้องการหน่วยงานที่จะเข้ามาฟื้นฟูอสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สินอย่างเร่งด่วนและเป็นระบบมากขึ้น เพื่อลดความเสียหายที่เกิดขึ้นและสามารถเดินหน้าธุรกิจได้โดยเร็วที่สุด
โดยที่ผ่านมาศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ประเมินแนวโน้มความสูญเสียทางเศรษฐกิจว่า กรณีความเสียหายเลวร้ายและอาจใช้เวลาถึงเดือนธันวาคมกว่าจะระบายน้ำออกได้ทั้งหมด จะสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจกว่า 3.3 แสนล้านบาท โดยภาคอุตสาหกรรมได้รับความเสียหายหนักสุด 1.71 — 2.34 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 70% ของความเสียหายทั้งหมด ซึ่งการประเมินดังกล่าวสอดคล้องกับลูกค้าหลักของพีซีเอส ที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม โรงงาน ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าและหมู่บ้านจัดสรร ต่างเข้ามาปรึกษาและแสดงความต้องการให้มีหน่วยงานที่มีผู้เชี่ยวชาญในการฟื้นฟูเข้าไปจัดการหลังน้ำลด
“นิคมอุตสาหกรรมซึ่งได้รับผลกระทบหลักจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้มากที่สุด ได้เข้ามาปรึกษาและร้องขอกำลังคนกลุ่มพนักงานรักษาความปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากไม่มั่นใจต่อสถานการณ์น้ำท่วมและด้านความปลอดภัยในช่วงอุทกภัย ขณะที่โรงงานหลายแห่งต้องการการฟื้นฟูที่รวดเร็ว เพราะการฟื้นตัวช้ามีผลในแง่เศรษฐกิจ และจะกระทบต่อรายได้จำนวนมหาศาล ซึ่งการฟื้นฟูแบบมืออาชีพจะช่วยลดความสูญเสียหลังจากที่โรงงานหยุดการผลิต อีกทั้งภาคเอกชนพร้อมจะใช้จ่ายเพื่อการฟื้นฟูที่มีระบบอีกด้วย” นายธนากล่าว
ทั้งนี้ พีซีเอส จึงร่วมกับพันธมิตรภาคธุรกิจในหลายประเภท แตกไลน์บริการฟื้นฟูอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร (PCS Recovery Service) ครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อรองรับความต้องการและตอกย้ำการปรับองค์กรสู่การบริการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร (ทีเอฟเอ็ม) โดยจะเป็นการให้คำปรึกษาและจัดการฟื้นฟูอสังหาริมทรัพย์และเครื่องจักรต่างๆ ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมอย่างครบวงจร ประกอบด้วย การประเมินความเสียหาย , การกำหนดแผนฟื้นฟู , การกำหนดงบประมาณ และการทำงานควบคู่กับลูกค้า ซึ่งการให้บริการเบื้องต้น จะมีทั้งการก่อสร้าง การซ่อมแซม การทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคต่างๆ และการรักษาความปลอดภัย ภายใต้การให้บริการของบริษัทในเครือ ได้แก่ พีซีเอส ผู้ให้บริการในส่วนของแม่บ้าน พนักงานทำความสะอาด พนักงานรักษาความปลอดภัย และคนสวน , โคมิน เอเชีย ผู้ให้บริการงานระบบ ประปา และไฟฟ้า และแคนนอน ไฮยีน ผู้ให้บริการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรค,แคนนอน เพส ผู้ให้บริการกำจัดแมลง
สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักยังเป็นกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม, นิคมอุตสาหกรรม, เจ้าของธุรกิจต่างๆ, ศูนย์การค้า, โครงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเก่าของพีซีเอส โดยปัจจุบันมีกลุ่มโรงงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศได้รับผลกระทบมากกว่า 700-800 รายทั่วประเทศ โดยมากกว่า 100 ราย เป็นลูกค้าของพีซีเอส รองลงมา คือ กลุ่มผู้บริโภคทั่วไป ซึ่งถือเป็นการขยายตลาดรองดังกล่าวให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น
ขณะที่แผนการตลาดนั้นพีซีเอส จะนำร่องโดยการให้ความรู้และเป็นที่ปรึกษาในการฟื้นฟูอสังหาริมทรัพย์หลังน้ำลดแก่องค์กรหรือบุคคลทั่วไปที่ต้องการความช่วยเหลือฟื้นฟู ผ่านสายด่วน 02-8009011รวมทั้งประชาสัมพันธ์ด้านการบริการ และทำการตลาดตรงไปยังกลุ่มเป้าหมายโรงงานอุตสาหกรรมและหน่วยงานภาคเอกชนต่างๆ
นายธนา กล่าวต่อว่า หลายประเทศทั่วโลกมีการให้บริการฟื้นฟูอสังหาริมทรัพย์หลังจากภัยพิบัติ ซึ่งได้รับการยอมรับและเป็นที่ต้องการของหน่วยงานชั้นนำทั่วโลก เช่น จากเหตุการณ์วินาศกรรม 11 ก.ย.2544 ในสหรัฐอเมริกา หรือเหตุการณ์พายุถล่มหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา จึงมั่นใจว่าบริการใหม่ของพีซีเอสจะเป็นที่ตอบรับจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไปในประเทศไทยเช่นกัน
สำหรับเหตุการณ์ที่ผ่านมาพีซีเอสสูญเสียรายได้ เนื่องจากต้องหยุดให้บริการในหลายพื้นที่ประสบภัยโดยเฉพาะโรงงาน นิคมอุตสาหกรรม โครงการหมู่บ้านจัดสรร สูญเสียรายได้ประมาณเดือนละ 10 ล้านบาท (ต.ค.-พ.ย.) คาดว่าการแตกไลน์ธุรกิจใหม่จะสามารถสร้างรายได้ชดเชยและรักษายอดรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้ ราว 4,000 ล้านบาท เติบโตจากปี2553 ราว 8%
พีซีเอสร่วมฟื้นฟูสถานที่ราชการหลังน้ำลด
อย่างไรก็ตามเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมไทย หลังจากประสบปัญหาอุทกภัยร้ายแรง พีซีเอส ได้จัดแคมเปญ “พีซีเอส จิตอาสา” ออกให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูหน่วยงานราชการที่ได้รับผลกระทบและความเสียหายจากภัยน้ำท่วม เช่น ศาลาว่าการจังหวัดอยุธยา และจะขยายสู่สถาบันการศึกษาอย่างต่อเนื่องหลังจากนี้ โดยจะให้คำปรึกษา แนะนำบุคลากรที่อยู่ในพื้นที่เพื่อช่วยบริหารจัดการพื้นที่ และส่งพนักงานพีซีเอสเข้าไปช่วยเหลือฟื้นฟู นอกจากนี้ยังจะช่วยจัดหางานสำหรับผู้ประสบภัยและได้รับผลกระทบจากการจ้างงานอีกด้วย