กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--ตลท.
ในเดือนตุลาคม 2554 มาตรการแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรปเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจลงทุนในตลาดทุนโลก ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของไทยได้รับผลกระทบรุนแรงจากปัญหาอุทกภัยภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือนตุลาคม ผลการประชุมผู้นำยุโรปที่เริ่มมีกรอบการแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจชัดเจนขึ้น และตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนทั่วโลกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดทุนทั่วโลกดีขึ้นจากเดือนกันยายน 2554 ทำให้ผู้ลงทุนต่างประเทศกลับเข้ามาซื้อสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทยที่ 30,837 ล้านบาท หลังขายสุทธิต่อเนื่อง 2 เดือน
ด้านมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) ของ SET อยู่ที่ 7,986,717 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.46% จากสิ้นเดือนก่อนหน้า เช่นเดียวกับ SET Index ที่ปิดที่ 974.75 จุด เพิ่มขึ้น 6.39% จากสิ้นเดือนก่อนหน้า รวมทั้งดัชนีหลักทรัพย์รายกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งส่วนใหญ่ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและกลุ่มทรัพยากร
ในเดือนตุลาคม 2554 มูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยรายวันรวมของ SET และ mai ลดลง 2.82% จากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ 26,043 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยรายวันของ SET และ mai ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2554 อยู่ที่ 30,983 ล้านบาท ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 29,066 ล้านบาท
สรุปตัวเลขที่สำคัญ
ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย
? ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2554 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET Index) ปิดที่ 974.75 จุด เพิ่มขึ้น 6.39% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน รวมทั้งดัชนีหลักทรัพย์รายกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งส่วนใหญ่ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและกลุ่มทรัพยากร อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2553 SET Index ลดลง 5.62% ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ในภูมิภาค
? market capitalization ของ SET อยู่ที่ 7,986,717 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.46% จากสิ้นเดือนกันยายนขณะที่ของ mai อยู่ที่ 66,006 ล้านบาท ลดลง 0.35% จากสิ้นเดือนก่อนหน้า
? Forward P/E ratio ณ สิ้นเดือนตุลาคม ของ SET อยู่ที่ 11.21 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 10.35 เท่า ณ สิ้นเดือนก่อนหน้า ขณะที่ mai อยู่ที่ 8.63 เท่า ลดลงจาก 8.77 เท่า ในส่วนของ market dividend yield ของ SET ยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับภูมิภาคโดยอยู่ที่ระดับ 4.13% ขณะที่ mai อยู่ที่ 3.73%
? ในเดือนตุลาคม 2554 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยรายวันรวมของ SET และ mai อยู่ที่ 26,043 ล้านบาท ลดลง 2.82% จากเดือนก่อน และลดลง 24.61% จากเดือนตุลาคม 2553 อย่างไรก็ตาม มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยรายวันของ SET และ mai ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2554 อยู่ที่ 30,983 ล้านบาท สูงกว่ามูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยรายวันของ SET และ mai ในปี 2553 ซึ่งอยู่ที่ 29,066 ล้านบาท
? ในเดือนตุลาคม 2554 ผู้ลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ทุกแห่งในภูมิภาค สำหรับตลาดหลักทรัพย์ไทย ผู้ลงทุนต่างประเทศกลับเข้ามาซื้อสุทธิ 30,837 ล้านบาท หลังขายสุทธิต่อเนื่อง 2 เดือน อย่างไรก็ตาม ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2554 ผู้ลงทุนต่างประเทศยังมีสถานะขายสุทธิที่ 4,786 ล้านบาท
? เดือนตุลาคม 2554 ผู้ลงทุนลงทุนในหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ 10 อันดับแรก (SET10) เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ขณะที่เมื่อแยกตามหมวดธุรกิจ การซื้อขายหลักทรัพย์ในกลุ่มธนาคารและหมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์มีสัดส่วนปรับเพิ่มขึ้น สวนทางกับหมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ปรับลดลงค่อนข้างมาก
? บริษัทจดทะเบียนระดมทุนในรูปตราสารทุนมูลค่า 314 ล้านบาท โดยเป็นการระดมทุนในตลาดรองเท่านั้นจาก บมจ. แกรนด์ คาแนล แลนด์ (GLAND) 296 ล้านบาท และ บมจ. ผลิตภัณฑ์ตราเพชร (DRT) 18 ล้านบาท
ภาวะตลาดอนุพันธ์
? ในเดือนตุลาคม 2554 ตลาดอนุพันธ์มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 50,531 สัญญา ลดลง 20.79% จากเดือนก่อนหน้า โดยปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันทั้งของ SET50 Index options และ gold futures ต่างปรับลดลง ขณะที่ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของ SET50 Index futures สูงสุดนับตั้งแต่เริ่มซื้อขายที่ 29,321 สัญญา
? นอกจากนี้ ตลาดอนุพันธ์มีผลิตภัณฑ์ใหม่คือ oil futures เริ่มซื้อขาย 17 ตุลาคม 2554 โดยมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 263 สัญญา
ผู้สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.set.or.th/setresearch หรือสอบถาม S-E-T Call Center โทร. 0 2229 2222