กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศผลอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 7,000 ล้านบาทของ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” พร้อมทั้งประกาศคงผลอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทที่ระดับ “A” เช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปใช้ชำระคืนหนี้และขยายกิจการในอนาคต อันดับเครดิตของบริษัทสะท้อนสถานะผู้นำในธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนของไทยที่มีคณะแพทย์และผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูง ตลอดจนความพร้อมด้านบุคลากรทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ และสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากการแข่งขันที่รุนแรงทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงข้อจำกัดจากการมีโรงพยาบาลหลักเพียงแห่งเดียว และแนวโน้มภาระหนี้ที่อาจเพิ่มขึ้นจากการลงทุนในอนาคต ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายที่บริษัทจะสามารถรักษาสถานะผู้นำในธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนในประเทศได้ โดยชื่อเสียงที่ดีและการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพน่าจะช่วยให้บริษัทสามารถสรรหาบุคลากรทางการแพทย์และดึงดูดผู้ป่วยระดับบนต่อไปได้ นอกจากนี้ แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการที่บริษัทจะต้องรักษาอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนให้อยู่ในระดับไม่เกินกว่า 50% เป็นระยะเวลาที่ต่อเนื่อง
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ดำเนินกิจการโรงพยาบาลภายใต้ชื่อ “โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล” ในกรุงเทพฯ โดยรายได้จากโรงพยาบาลดังกล่าวคิดเป็น 95% ของรายได้รวมของบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จัดเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของประเทศและในภูมิภาคเอเซีย โดยโรงพยาบาลมีความสามารถในการให้บริการผู้ป่วยนอก 3,900 คนต่อวัน และมีเตียงสำหรับรองรับผู้ป่วยในทั้งหมด 512 เตียง บริษัทมีรายได้จากผู้ป่วยต่างประเทศประมาณ 60% ของรายได้รวม ส่วนรายได้จากกลุ่มผู้ป่วยที่ชำระเงินเองคิดเป็นประมาณ 70% ของรายได้รวม การบริหารจัดการของบริษัทดำเนินงานโดยคณะผู้บริหารที่มีความสามารถและประสบการณ์ที่ยาวนาน โดยโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์นับเป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงและมีผลงานทางการแพทย์ที่เป็นที่ยอมรับมานานกว่า 30 ปี บริษัทเน้นกลุ่มลูกค้าผู้ป่วยชาวไทยที่มีรายได้ในระดับสูงและกลุ่มผู้ป่วยชาวต่างประเทศโดยใช้กลยุทธ์สร้างความแตกต่างด้านบริการและคุณภาพ บริษัทมีโครงสร้างรายได้ต่อผู้ป่วยในระดับสูง ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักหนึ่งที่ทำให้บริษัทมีโอกาสคัดเลือกและรักษาบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่มีความรู้ความสามารถสูงเอาไว้ได้
ความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทในฐานะศูนย์กลางการให้บริการทางการแพทย์ในภูมิภาคเอเซียมาจากการที่บริษัทเป็นผู้บุกเบิกตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical Tourism) รวมทั้งการได้รับประโยชน์จากการประหยัดจากขนาด (Economies of Scale) และการมีเครือข่ายที่กว้างขวางในการรับย้ายผู้ป่วย นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับประโยชน์จากการที่ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีและมีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเป็นจุดหมายที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ค่ารักษาพยาบาลของประเทศไทยยังอยู่ในระดับที่แข่งขันได้เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วในภูมิภาค
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า อุตสาหกรรมโรงพยาบาลในเอเชียซึ่งรวมถึงในประเทศไทยอยู่ในระยะของการควบรวมกิจการ โรงพยาบาลหลายแห่งรวมกิจการเพื่อขยายขนาดและเพิ่มบริการทางการแพทย์ให้ครอบคลุมกว้างขวางยิ่งขึ้น บริษัทที่ประกอบกิจการโรงพยาบาลขนาดเล็กและบริษัทที่มีโรงพยาบาลหลักเพียงแห่งเดียวดังเช่นในกรณีของบริษัทโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ต้องเผชิญกับความท้าทายจากคู่แข่งที่มีศักยภายทางการเงินที่เข้มแข็งและมีเครือข่ายโรงพยาบาลที่ครอบคลุมในหลายพื้นที่
บริษัทโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์มีฐานะทางการเงินที่เข้มแข็ง โดยมีรายได้ที่เติบโตในระดับน่าพอใจในช่วงปีที่ผ่านมา รายได้ต่อผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นช่วยลดผลกระทบจากจำนวนผู้ป่วยที่ชะลอตัวในช่วงที่มีความวุ่นวายทางการเมือง อัตราส่วนกำไรและกระแสเงินสดของบริษัทน่าจะอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพต่อไปในระยะปานกลาง ภาระหนี้ของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาจากการลงทุนสร้างอาคารผู้ป่วยนอกและการปรับปรุงห้องผู้ป่วยใน รวมทั้งการซื้อหุ้น 24.99% ของ บริษัท บางกอนเชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) อันเป็นผลทำให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทปรับตัวสูงขึ้นจาก 20.1% ในปี 2553 มาอยู่ที่ 44.05% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2554 ทั้งนี้ อันดับเครดิตของบริษัทยังสะท้อนถึงภาระหนี้ที่อาจเพิ่มขึ้นจากการลงทุนขยายธุรกิจของบริษัทในอนาคตด้วย ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) (BH)
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 7,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2564 A
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่)