กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส
Price Movement
ราคาทองคำปิดเพิ่มขึ้น 4.90 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 1,725.10 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปิดบวกขึ้นได้เมื่อค่าเงิน USD อ่อนค่าลงเล็กน้อย จากการที่ธนาคารกลางยุโรปเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลของอิตาลีและสเปน
Key Points in Gold Market
- ราคาทองคำปิดเพิ่มขึ้น 4.90 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,711.40 — 1,738.50 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากการที่ธนาคารกลางยุโรปเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลของอิตาลีและสเปนทำให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรของทั้ง 2 ประเทศปรับตัวลดลง และทำให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ราคาทองคำในสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลดลงมากที่สูดนับตั้งแต่เดือนก.ย. โดยเป็นผลจากความกังวลว่า ประเทศในยูโรโซนจะประสบปัญหาการขาดสภาพคล่อง และอาจมีผลต่อระบบการเงินและธนาคารพาณิชย์ทั้งในยูโรโซน สหรัฐ และเอเชีย ทำให้นักลงทุนหันมาถือเงินดอลล่าร์และขายสินทรัพย์เสี่ยงรวมทั้งสินค้าโภคภัณฑ์ ส่วนปัจจัยบวกในวันศุกร์ นอกจากค่าเงิน USD อ่อนค่าลงแล้ว จากการประกาศของสภาทองคำโลก หรือ WGC ว่าธนาคารกลางของประเทศต่างๆเข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้น 150 ตัน สำหรับในสัปดาห์นี้คาดว่า มีแนวรับบริเวณ 1,700 / 1,686 ส่วนแนวต้านคาดว่าที่บริเวณ 1,740 / 1,754 ถ้าดูกราฟในรายสัปดาห์ยังส่งสัญญาณลบ เมื่อ stochastic ตัดลง และ MACD ปรับตัวลดลง ซึ่งทำให้ราคามีแนวโน้มอ่อนตัวลงมาที่แนวรับ 1,700 / 1,686 ได้ แต่การอ่อนตัวลงของราคาทองคำ จะทำให้มีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น สำหรับนักลงทุนระยะยาวที่จะทยอยซื้อทองคำสะสมเมื่อราคาปรับลดลง คาดการณ์แนวรับหลักในระยะ 4 สัปดาห์ที่บริเวณ 1,636 คาดว่า เมื่อถึงแนวรับแต่ละระดับจะมีแรงดีดตัวขึ้น โดยเฉพาะแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,686 / 1,636 นักลงทุนอาจเข้าซื้อเก็งกำไรได้ และสะสมในระยะยาวได้
- ความเคลื่อนไหวของราคาทองคำของราคาทองคำในเช้าวันนี้เคลื่อนไหวระหว่าง 1,715 — 1,720 USDต่อออนซ์ โดยมีแนวรับในระดับวันบริเวณ 1,709 — 1,711 ส่วนแนวรับถัดไปเป็นแนวรับทางจิตวิทยาบริเวณ 1,700 ส่วนแนวต้านมีที่บริเวณ 1,730 คำแนะนำ นักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 1,700 — 1,730 โดยเข้าเปิด Long บริเวณ แนวรับ และปิดทำกำไรเมื่อถึงแนวต้าน เมื่อวันศุกร์กองทุน SPDR เข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้น 3.63 ตันเป็นการเข้าซื้อในช่วงราคาปรับลดลง
- ปัจจัยลบที่กดดันราคาทองคำในช่วงนี้ คือ การแข็งค่าของเงิน USD และการขาดสภาพคล่องของประเทศในยูโรโซน ส่วนปัจจัยบวก ได้แก่ การคาดการณ์ว่าสหรัฐ อังกฤษ และธนาคารกลางยุโรปจะเพิ่มการอัดฉีดสภาพคล่องให้กับระบบการเงิน เช่น การใช้มาตรการ QE ส่วนปัญหาวิกฤตหนี้ของยูโรโซน และการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำของสหรัฐยังเป็นปัจจัยบวกในระยะยาวสำหรับทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ส่วนในระยะสั้นการแข็งค่าของเงิน USD ทีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาทองคำหลุดแนวรับ อาจลงมาที่ระดับ 1,700 / 1,686
- ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปรับเพิ่มขึ้น 25.43 จุดหรือ 0.22% แต่ตลาดหุ้นในเอเชียและยุโรปปรับร่วงลงเประมาณ 1 — 2% โดยเฉพาะตลาดหุ้นเกาหลีใต้และไต้หวัน ส่วนราคาน้ำมันดิบ Nymex ปรับลดลง 1.41 USDต่อบาร์เรลปิดที่ 97.41 USDต่อบาร์เรล โดยนักลงทุนยังกังวลว่า มาตรการเข้าช่วยเหลืออิตาลี และสเปนของธนาคารกลางยุโรป และ IMF จะประสบความสำเร็จหรือไม่ ทำให้นักลงทุนเทขาย หลังจากราคาขึ้นไปทดสอบบริเวณ 100 USDต่อบาร์เรล
- ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันจันทร์ ดัชนีการผลิตเขตมิดเวสต์เดือนต.ค.ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค. วันอังคาร ตัวเลข GDP ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3/2011 วันพุธ รายได้ส่วนบุคคลเดือนต.ค. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค.ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนพ.ย. วันพฤหัสและวันศุกร์ไม่มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ เนื่องจากหน่วยงานราชการปิด เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
- ราคาโลหะเงินปิดเพิ่มขึ้น 2.92 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 32.42 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 30.93 — 32.60 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ขายโลหะเงินออก 68.08 ตัน เหลือถือโลหะเงินจำนวน 9,715.63 ตัน วันนี้คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 33.4/ 33.8 USDต่อออนซ์ และแนวรับบริเวณ 30.9/30.5 USDต่อออนซ์ แนะนำ Trading ในกรอบ 30.5— 33.8 USDต่อออนซ์
- SPDR ซื้อทองคำเพิ่มขึ้น 3.6 ตันถือทองคำจำนวน 1,293.09 ตัน
Technical Analysis:
++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,709 1,700 1,686 แนวต้านที่ 1,730 1,740 ภาพกราฟราย 240 นาที มีแรงขายที่บริเวณ 1,725 เส้นค่าเฉลี่ย 10 (MA 10) แนะนำทยอยสะสม
เมื่อราคาอ่อนตัวที่บริเวณแนวรับ 1,709 / 1,700 / 1,686 โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 1,730 / 1,740
++ ราคาโลหะเงินมีแนวรับที่ 30.9 30.5 แนวต้านที่ 33.4 33.8 ภาพกราฟราย 240 นาที ราคาเคลื่อนไหวในกรอบ 30.5 — 33.8 แนะนำ Trading ในกรอบ