กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต
บมจ. ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต (SCBLIFE) โชว์ผลงาน 10 เดือนแรก ขยายตัวแข็งแกร่ง สวนทางตลาดประกันชีวิตซบเซาจากผลกระทบของวิกฤติอุทกภัย เบี้ยประกันรับปีแรก 9,870 ล้านบาท เติบโต 24% ด้านเบี้ยรับรวมแตะ 24,510 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เผยเร่งปั๊มเบี้ยเต็มพิกัด หวังกำลังซื้อกลับคืนหลังน้ำลด เล็งสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษี ช่วยหนุนเบี้ยโค้งสุดท้าย
นายวิพล วรเสาหฤท กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต หรือ (SCBLIFE) เปิดเผยว่า แม้ว่าธุรกิจประกันชีวิตโดยรวมจะประสบกับความยากลำบาก และเผชิญความท้าทายเนื่องจากผล กระทบจากวิกฤติอุทกภัย ผลการดำเนินงานของ SCBLIFE ในช่วง10 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม — ตุลาคม) ยังขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยช่องทางการขายหลัก สามารถรับมือกับวิกฤติครั้งนี้ให้ผ่านพ้นไปได้ และในภาพรวมทั้งบริษัทยังรักษาการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยบริษัทมีเบี้ยปีแรกจากทุกช่องทางการขายทั้งสิ้น 9,870 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 24% สูงกว่าเป้าเดิมที่ตั้งไว้ 17% มีเบี้ยรับปีต่อไป 15,695 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% และทำให้เบี้ยรับรวมเพิ่มเป็น 24,510 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% สูงกว่าอัตราเติบโตเฉลี่ยของทั้งธุรกิจซึ่งอยู่ที่ 13% เกือบ 100% และจากสถิติสมาคมประกันชีวิตไทย ณ เดือนกันยายน SCBLIFE มีส่วนแบ่งตลาดในด้านเบี้ยรับรวม 10.4% และ 9.3% ในด้านเบี้ยปีแรก
เขากล่าวเสริมว่า “ผลงานที่มีอัตราเติบโตถึง 2 หลัก นับว่าโดดเด่น และเป็นผลงานที่น่าพอใจมาก ซึ่งปัจจัยหลักเกิดจากการขยายตัวที่เข้มแข็งของช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ ซึ่งเติบโตถึง 22% ด้วยเบี้ยปีแรกกว่า 8,100 ล้านบาท ขณะที่ช่องทางประกันชีวิตธุรกิจเฉพาะ มีการเติบโตก้าวกระโดดถึง 96% โดยเฉพาะประกันกลุ่ม การตลาดองค์กร ขณะที่ช่องทางใหม่ คือ การขายผ่านสาขาของเทสโก้ โลตัส ซึ่งเริ่มเปิดขายเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่าน ก็เป็นไปในทิศทางที่ดี สามารถทำเบี้ยปีแรกกว่า 62 ล้านบาท
นายวิพล เผยถึงแผนงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในเขตกรุงเทพเริ่มคลี่คลาย และระดับน้ำในหลายพื้นที่ได้ลดลงตามลำดับ SCBLIFE คาดหวังว่าตลาดโดยรวมจะเริ่มฟื้นตัวบ้าง แม้ว่าอัตราเติบโตจะชะลอตัวกว่าเป้าหมายเดิม เนื่องจากกำลังซื้อลดลง เพราะประชาชนส่วนใหญ่ จำเป็นต้องสำรองเงินเพื่อซ่อมแซมบ้าน ที่พัก และทรัพย์สินที่เสียหาย และระมัดระวังในการบริหารค่าใช้จ่ายให้ให้รอบคอบมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม SCBLIFE จะเดินหน้าขยายตลาดในทุกช่องทางการขายให้ได้มากที่สุด และเชื่อว่าวิกฤติอุทกภัย ซึ่งป็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน จะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคเห็นความ สำคัญของประกันชีวิต เพื่อสร้างหลักประกันและความคุ้มครองชีวิตเพื่อลดความเสี่ยงให้กับตนเอง และครอบครัว ขณะเดียวกัน ในช่วงใกล้สิ้นปีนี้บริษัทจะขยายการขายไปสู่กลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการสิทธิประโยชน์การลดหย่อนภาษี และไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติน้ำท่วม ซึ่งประกันชีวิตยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบ แทนที่คุ้มค่า และจูงใจ ควบคู่กับความคุ้มครองชีวิต
อนึ่ง SCBLIFE ได้ออกมาตรการช่วยเหลือ และเยียวยาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ถือกรมธรรม์ที่ได้รับผล กระทบจากวิกฤติอุทกภัย โดยฝ่ายขายในทุกช่องทาง ได้เร่งลงพื้นที่พบปะลูกค้า ส่วนฝ่ายบริการลูกค้า ก็ได้โทรเยี่ยมเยียน ให้กำลังใจ และให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ถือกรมธรรม์อย่างเร่งด่วน ข้อมูล ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน มีผู้ถือกรมธรรม์ 309 ราย ขอใช้สิทธิ์ผ่อนผันการชำระเบี้ยประกัน และมีผู้ถือกรมธรรม์ 3 ราย เสียชีวิตจากวิกฤติน้ำท่วม คิดเป็นทุนประกันทั้งสิ้น 1.1 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับสินทรัพย์รวมของบริษัทในครึ่งปีแรกของปีนี้ ซึ่งมียอดรวมกว่า 81,336 ล้านบาท และเงินสำรองประกันชีวิตกว่า 70,209 ล้านบาท โดยบริษัทได้เร่งดำเนินการจ่ายสินไหมมรณกรรมเพื่อบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้รับประโยชน์
ขณะเดียวกัน จิตอาสาพนักงาน และตัวแทนขายของบริษัท ก็ได้ร่วมใจกันลงพื้นที่ นำอาหารปรุงสำเร็จ น้ำดื่ม และถุงยังชีพ มอบให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ อาทิ บางใหญ่ บางบังทอง นนทบุรี ปทุมธานี ตลิ่งชัน พุทธมณฑล เพชรเกษม บางแค เป็นต้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแบ่งปันน้ำใจช่วยเหลือชุมชนในยามยาก