กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--ปตท.
ราคาน้ำมันเฉลี่ย สัปดาห์ที่ 14 - 18 พ.ย. 54 น้ำมันดิบดูไบ (Dubai) ลดลง 0.18 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ระดับ 110.95 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล น้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ลดลง 3.60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 110.35 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตาม น้ำมันดิบเวสท์ เท็กซัสฯ (WTI) เพิ่มขึ้น 2.34 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลอยู่ที่ 99.31 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล นอกจากนี้ ราคาเฉลี่ยน้ำมันเบนซิน 95 ลดลง 5.74 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 111.97 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตาม น้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 0.49 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 131.44 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคา ได้แก่
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงลบ
- ลิเบียกลับมาดำเนินการผลิตน้ำมันดิบ โดย Arabian Gulf Oil Co. (Agoco) รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจาก 5 แหล่ง ปัจจุบันอยู่ที่ 266,000 บาร์เรลต่อวัน และภายในต้นปี 55 จะเพิ่มสู่ระดับ 400,000 บาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบีย ปัจจุบันอยู่ที่ 500,000 บาร์เรลต่อวัน และภายในต้นปี 56 จะเพิ่มเป็น 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ ลิเบียเห็นว่า สมาชิกกลุ่ม OPEC อื่นๆ ควรปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ ในการประชุมวันที่ 14 ธ.ค. 54 เนื่องจากลิเบียกลับมาผลิตได้แล้ว
- Oil Movements รายงานปริมาณส่งออกน้ำมันดิบทางเรือของกลุ่ม OPEC-10 (ไม่รวมแองโกลา และเอกวาดอร์) เฉลี่ยสี่สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 ธ.ค. 54 จะเพิ่มขึ้น 850,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ระดับ 23.48 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- รัฐบาลสเปนระดมทุนจากตลาดได้ต่ำกว่าเป้าหมาย ซึ่งกำหนดไว้ที่ 4 พันล้านยูโร โดยการประมูลขายพันธบัตรอายุ 10 ปี มูลค่าอยู่ที่ 3.6 พันล้านยูโร (4.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของสเปนรายงานอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ในไตรมาส 3/54 ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า อยู่ที่ระดับ 0.8%
- สำนักงานสถิติแห่งชาติของอิตาลี (ISTAT) เปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าอุตสาหกรรม (Industrial Orders) ปรับตัวลดลง 8.3% ในเดือน ก.ย. 54
- กระทรวงการคลังกรีซรายงานยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาล ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 54 เพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อน อยู่ที่ระดับ 2.01 หมื่นล้านยูโร (2.72 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ)
- ธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England: BOE) คาดว่า GDP จะยังคงชะลอตัวจนถึงกลางปี 55 และปรับลดคาดการณ์ อัตราการเติบโตในปี 55 อยู่ที่ระดับต่ำกว่า 1% และปี 56 เติบโต 2.5%
ปัจจัยที่ผลกระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงบวก
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (Energy Information Administration: EIA) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 11 พ.ย. 54 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 1.1 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 337.0 ล้านบาร์เรล
- บริษัท Enbridge ของแคนาดามีแผนใช้ท่อ Seaway (ขนาด 350,000 บาร์เรลต่อวัน) ขนส่งน้ำมันดิบจาก Cushing, Oklahoma ไปยัง Freeport, Texas และโรงกลั่นใน Gulf Coast ของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 2/55 หลังเข้าซื้อหุ้น บ.ConocoPhilips โดยในระยะเริ่มต้นจะขนส่งได้ 150,000 บาร์เรลต่อวัน และคาดว่าในปี 2556 จะเพิ่มปริมาณการขนส่งได้ถึง 400,000 บาร์เรลต่อวัน
- สำนักงานสถิติแห่งชาติของไนจีเรีย (National Bureau of Statistics) รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในไตรมาส 3/54 ลดลงจากไตรมาสก่อน 4% อยู่ที่ 2.36 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากท่อขนส่งถูกก่อวินาศกรรม
- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve: Fed) รายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) ในเดือน ต.ค. 54 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.7% ขณะที่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index: CPI) ในเดือน ต.ค. 54 ลดลง 0.1% จากเดือนก่อน
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 12 พ.ย. 54 ลดลงลดลงจากสัปดาห์ก่อน 5,000 ราย อยู่ที่ 388,000 ราย ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน และ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือน ต.ค. 54 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.5% (M-O-M) อยู่ที่ 3.97 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5
แนวโน้มราคาน้ำมัน ในสัปดาห์นี้ (21-25 พ.ย. 54)
ราคาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดซื้อขายล่วงหน้าปรับตัวลดลงในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบเพื่อทำกำไรหลังราคาปรับตัวสูงขึ้นช่วงต้นสัปดาห์ ก่อนที่สัญญาส่งมอบเดือน ธ.ค. 54 จะหมดอายุลงในวันที่ 18 ธ.ค. 54 และ นักลงทุนกังวลต่อการแก้ไขวิกฤตหนี้สาธารณะของสหภาพยุโรป อาทิ เยอรมนีและฝรั่งเศสมีแนวคิดแตกต่างกันต่อปริมาณการเข้าซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ทั้งนี้ ประธาน ECB เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปจะเข้าสู่ภาวะถดถอยขั้นต้นภายในสิ้นปี 54 อย่างไรก็ตาม อิรักปรับเพิ่มราคา Official Selling Price (OSP) น้ำมันดิบ Basra Light ที่ขายลูกค้าเอเชีย ในเดือน ธ.ค. 54 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.15 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบ Oman และ Dubai +1.80 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และ นักวิเคราะห์ประเมินเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มขยายตัว หลังข้อมูลทางเศรษฐกิจออกมาแข็งแกร่งเกินคาด โดย JP Morgan และ Morgan Stanley ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในไตรมาส 4/54 จากเดิม 2.5% และ 3% มาอยู่ที่ 3% และ 3.5% ตามลำดับ ให้จับตามอง ยอดขายบ้านมือสองเดือน ต.ค. 54 ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในกลางสัปดาห์ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อราคาน้ำมัน