กรุงเทพฯ--30 ม.ค.--กทม.
เมื่อวานนี้ (29 ม.ค.47) เวลา 10.00 น. ที่ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า เขตจตุจักร นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดกิจกรรม “การให้บริการเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน” โอกาสนี้นางณฐนนท ทวีสิน ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นผู้แทนกรุงเทพมหานครลงนามในข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการจัดตั้ง “ศูนย์บริการร่วม” ระหว่างกรุงเทพมหานคร การไฟฟ้านครหลวง การกระปานครหลวง บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.)
การจัดตั้ง “ศูนย์บริการร่วม” เป็นความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร การไฟฟ้านครหลวง การกระปานครหลวง บริษัท ทศท. คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ โดยมีที่มาจากพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545 ที่บัญญัติให้การบริหารราชการและการปฏิบัติหน้าที่ของส่วนราชการต้องใช้วิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี จากนั้นได้มีการตราเป็นพระราช-กฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546 กำหนดให้ส่วนราชการระดับกระทรวง จังหวัดและอำเภอ จัดให้มีศูนย์บริการร่วมเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เพื่อให้ประชาชนสามารถติดต่อสอบถาม ขอทราบข้อมูล ขออนุญาต หรืออนุมัติในเรื่องต่างๆ โดยติดต่อเจ้าหน้าที่ ณ ศูนย์บริการร่วมเพียงแห่งเดียว และในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 พ.ย.46 ได้เห็นชอบกับเงื่อนไขการปฏิบัติตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวตามข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบ ราชการ โดยมีเงื่อนไขที่สำคัญคือให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อให้การขอติดตั้งไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ การขออนุญาตสร้างบ้านและขอเลขที่บ้านเป็นบริการแบบเบ็ดเสร็จ
สำหรับรูปแบบของศูนย์บริการร่วม ประชาชนสามารถติดต่อยื่นคำขออนุญาตติดตั้งไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ขออนุญาตสร้างบ้านและขอเลขที่บ้าน ที่ศูนย์บริการร่วม ในคราวเดียวกัน จากนั้นศูนย์ฯ จะประสานส่งเอกสารให้กับหน่วยงานเจ้าของเรื่องดำเนินการ และเป็นตัวแทนของผู้ขอใช้บริการติดตามความคืบหน้าของการดำเนินงานตามคำขอ และศูนย์ฯ จะแจ้งความคืบหน้าแก่ ผู้ขออนุญาตโดยตรงเมื่อมีการถามจากผู้ขอใช้บริการ ซึ่งการให้บริการแก่ประชาชนดังกล่าวจะสามารถลดขั้นตอนและระยะเวลาการปฏิบัติราชการ สร้างความพึงพอใจให้ประชาชน โดยจะเปิดศูนย์บริการร่วมนำร่อง ณ สำนักงานเขตบางเขน และคาดว่าจะสามารถกระจายให้บริการทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ภายในสิ้นปี 2547 นี้
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวในระหว่างการอภิปรายเรื่อง “ศูนย์บริการร่วม” ว่า กรุงเทพมหานครเป็นหน่วยงานบริการประชาชนซึ่งจำเป็นต้องมีการพัฒนาการบริการตามแนวทางปฏิรูประบบราชการควบคู่ไปกับหน่วยงานราชการอื่นในลักษณะการบูรณาการร่วมกัน และในขณะนี้กรุงเทพฯ ได้ดำเนินการให้บริการประชาชนในลักษณะจุดเดียวเบ็ดเสร็จ ONE STOP SERVICE แล้ว ตั้งแต่ต้นปี 2545 จนถึงขณะนี้สามารถเปิดให้บริการได้ทั้งหมด 31 เขต ซึ่งในปีนี้จะเปิดให้บริการเพิ่มอีก 6 เขต ทั้งนี้เพื่อเป้าหมายสูงสุดคือประโยชน์สุขของประชาชน--จบ--
-นห-