กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงผลการหารือถึงการแก้ไขปัญหากรณีข้อเรียกร้องของประชาชน จ.นนทบุรี ขอให้กทม.เปิดประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนาเพิ่มเติมจาก 50 ซม. เป็น 1 เมตร และให้รื้อแนวกระสอบทรายริมคลองมหาสวัสดิ์ฝั่งกทม. เพื่อให้การระบายน้ำจากคลองมหาสวัสดิ์ด้าน จ.นนทบุรี สะดวกยิ่งขึ้น ลดความเดือดร้อนของประชาชน
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า กทม.ตระหนักเสมอว่าประชาชนจังหวัดนนทบุรีและปทุมธานีเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วมมาเป็นเวลานาน และกทม.พร้อมที่จะหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อหาวิธีที่จะลดความเดือดร้อนของประชาชน เช่นเดียวกับการแก้ไขปัญหาบริเวณคลองหกวาสายล่างซึ่งประสบความสำเร็จด้วย โดยกทม.พร้อมจะเจรจาบนพื้นที่ของเหตุและผล รวมถึงหาทางออกร่วมกัน โดยเมื่อวันที่ 21 พ.ย.54 มีการประชุมหารือร่วมกับ ศปภ. จ.นนทบุรี โดยตัวแทนกทม.ร่วมประชุมด้วย มีข้อสรุปอย่างเป็นทางการว่า 1. ขอให้กทม.เปิดประตูระบายน้ำคลองขุนศรีบุรีรักษ์ คลองควาย และคลองซอย โดยพิจารณาเปิดในลักษณะขั้นบันไดจาก 50 ซม. เป็น 75 ซม. โดยจะใช้เวลประเมินผลกระทบภายใน 48 ชั่วโมง หากไม่กระทบต่อทุกฝ่าย กทม.จะพิจารณาเปิดเพิ่มอีกครั้ง ในส่วนของคลองทวีวัฒนา จะเปิดที่ 50 ซม.เหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง 2. เปิดเพิ่มประตูระบายน้ำคลองบางพลัด คลองบางอ้อ และคลองบางบำหรุ โดยคลองบางพลัด และคลองบางอ้อ จะเปิดเพิ่มเป็น 70 ซม. และคลองบางบำหรุ จะให้เปิดเพิ่มภายหลังจากซ่อมแซมและนำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้ง ซี่งอาจให้เวลา 2 วัน ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นตรงกันว่า การเพิ่มประตูในพื้นที่เหล่านี้จะขึ้นอยู่กับขีดความสามารถและประสิทธิภาพเครื่องสุบน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองต่างๆ
ทั้งนี้ ในช่วงเช้าวันนี้ 22 พ.ย. กทม.ได้ลงนามในหนังสือถึงผู้ว่าราชการจ.นนทบุรี เพื่อยืนยันข้อตกลงตามที่ร้องขอ นอกจากนี้ จะประสานกับกรมชลประทาน เพื่อช่วยระบายน้ำคลองมหาสวัสดิ์ให้เร็วขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตามเพื่อลดผลกระทบของประชาชนจังหวัดนนทบุรี กทม.ได้พิจารณาลดช่วงเวลาการประเมินสถานการณ์ภายหลังจากเปิดประตูระบายน้ำคลอง 3 สาย ได้แก่ คลองขุนศรีบุรีรักษ์ คลองควาย และคลองซอย จาก 48 ชั่วโมง เป็น 24 ชั่วโมงหรือประมาณเช้าวันพรุ่งนี้ เพื่อเร่งประเมินสถานการณ์โดยคำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนชาวนนทบุรีเป็นที่ตั้ง ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปผลกาปรระชุมร่วมกับศปภ.