CHOW คาดเข้าเทรดใน mai ธ.ค.นี้ หลัง ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่งเสนอขาย IPO 200 ล้านหุ้น

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 23, 2011 15:38 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--IR PLUS บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) เล็งเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 200 ล้านหุ้น หลัง ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่งแล้ว คาดจดทะเบียนใน mai ไม่เกินกลางธันวาคมนี้ หวังระดมทุนเป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับการเติบโตของธุรกิจเหล็กต้นน้ำ มั่นใจปีนี้รายได้ทะลุ 5,000 ล้านบาท หลัง 9 เดือนปั๊มรายได้แล้วถึง 85% แถมมีออเดอร์รอส่งมอบแล้วถึงสิ้นปี ส่วนปีหน้าเชื่อโตต่อเนื่อง ตามความต้องการใช้เหล็กและการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขวางขึ้น นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Billet) รายใหญ่ของประเทศที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) ที่ 1 บาทต่อหุ้น หลังจากที่ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) เพื่อขอเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2554ที่ผ่านมา บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว(Billet) รายใหญ่ของประเทศที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยผลิตภัณฑ์เหล็กต้นน้ำของบริษัทฯ ลูกค้าสามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เหล็กต่อเนื่องเพื่อการก่อสร้างได้หลายชนิด เช่น เหล็กเส้นกลม (Round Bar) และเหล็กข้ออ้อย (Deformed Bar) ซึ่งจะนำไปใช้เป็นวัสดุก่อสร้างหลักในอุตสาหกรรมการก่อสร้างต่างๆ เช่น การก่อสร้างบ้าน อาคารพาณิชย์ สะพาน เขื่อน ทางยกระดับ และอาคารสูง เป็นต้น ปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 800 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 800,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และมีทุนชำระแล้วจำนวน 600 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 600,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และหลังจากเสนอขายหุ้นIPO จำนวน 200 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นหุ้นในส่วนที่ยังไม่ได้เรียกชำระจำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท จะทำให้บริษัทฯ มีทุนชำระแล้วจำนวน 800 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเปิดเสนอขายหุ้นได้ในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ และคาดว่าจะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ประมาณกลางเดือนธันวาคม 2554 โดยมี บริษัท ทริปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ รองรับการเติบโตของธุรกิจเหล็ก ที่คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการขับเคลื่อนโครงการเมกะโปรเจ็คต่างๆ ของภาครัฐ และการขยายฐานลูกค้าเข้าไปทดแทนตลาดของเหล็กนำเข้า จากที่ประเทศไทยยังเป็นผู้นำเข้าสุทธิ Billet ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้เปรียบด้านต้นทุนการขนส่ง การส่งมอบให้กับลูกค้าได้ตรงเวลา ลูกค้าสามารถบริหารจัดการ inventory ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องสั่งสินค้าล็อตใหญ่เหมือนการนำเข้า อีกทั้งมีการทำการตลาดกับลูกค้ารายใหม่เพิ่มเติม นอกเหนือจากยอดการสั่งซื้อของลูกค้าเก่าที่คาดว่าจะสูงขึ้นเช่นกัน "การระดมทุนครั้งนี้ก็เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ เพราะจะทำให้การขยายธุรกิจคล่องตัวยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันจะทำให้ต้นทุนทางการเงินต่ำลง สะท้อนให้อัตรากำไรสุทธิปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นด้วย ซึ่งภายหลังการขายหุ้นเพิ่มทุนจะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของครอบครัว จิรธรรมศิริ ลดลงจาก84.5% เหลือ63.4% เพื่อเปิดทางให้นักลงทุนทั่วไปได้มีโอกาสเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทฯ ได้โดยตรง" นายอนาวิลกล่าว สำหรับผลประกอบการในปี 2554 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตประมาณ 30% จากปีก่อนที่ทำได้ จำนวน 3,893 ล้านบาท มาอยู่ที่ระดับสูงกว่า 5,000 ล้านบาท และเพียง 9 เดือนแรกของปีบริษัทฯ ทำได้แล้วถึง 4,254.18 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 85.08 ของเป้าหมายดังกล่าว จึงมั่นใจว่าจนถึงสิ้นปีจะผลักดันรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ แม้ว่าในปีนี้ประเทศไทยจะมีอุทกภัยครั้งใหญ่ เนื่องจากอุทกภัยดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบกับคำสั่งซื้อ และการส่งมอบสินค้า โดยบริษัทฯ สามารถส่งมอบได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้น ยังมีคำสั่งซื้อใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติมด้วย โดยขณะนี้มีคำสั่งซื้อรอการส่งมอบต่อเนื่องถึงเดือนธันวาคมแล้ว ส่วนปี 2555 เชื่อว่าธุรกิจเหล็กจะยังขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2554 จากการขับเคลื่อนโครงการเมกะโปรเจ็คต่างๆ ของภาครัฐ ขณะเดียวกันภายหลังสถานการณ์อุทกภัย ยังก่อให้เกิดความต้องการใช้เหล็กเพื่อฟื้นฟู ซ่อมแซมโครงสร้างต่างๆ เช่น ที่อยู่อาศัย อาคารพาณิชย์ สะพาน เขื่อน และทางยกระดับ เพิ่มขึ้นซึ่งเอื้อต่อการเติบโตของยอดขายเหล็กแท่งยาว (Steel Billet) ของบริษัทฯ ให้เพิ่มสูงขึ้นในทิศทางเดียวกัน ด้านนางสาวปิ่นมณี เมฆมัณฑนา กรรมการผู้จัดการบริษัท ทริปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ กล่าวว่า บริษัทฯ มั่นใจว่าธุรกิจของ เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ ยังมีโอกาสเติบโตอีกมากจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงความต้องการใช้เหล็กในโครงการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับบริษัทฯ เดินหน้าขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเข้าไปทดแทนตลาดนำเข้า ที่ได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นอย่างดี จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสนับสนุนการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต ซึ่งสะท้อนได้จากผลการดำเนินงานในรอบ 9 เดือน ที่เติบโตอย่างโดดเด่นดังกล่าว ทำให้มั่นใจว่า หุ้นเพิ่มทุนของบริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ IR PLUS : คุณศุภวรรณ วราภรณ์ (จ๋า) โทร. 02 — 541 — 4011 ต่อ 320 อีเมลล์ : supawan@irplus.in.th บริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด คุณอรอนงค์ ภัทรเวชกุล (ฟ้า) 02-248-7967-8 E-mail : orn_tabo@hotmail.com , c_mastermind@hotmail.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ