กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--คต.
นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่สหภาพยุโรปได้ประกาศระเบียบ Cosmetic Directive 76/768/EEC เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2519 กำหนดมาตรการและหลักเกณฑ์เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้ใช้เครื่องสำอาง โดยการระบุส่วนผสมหรือสารเคมีต้องห้าม การจำกัดปริมาณของส่วนผสมหรือสารเคมีบางประเภท หรือกำหนดเงื่อนไข/ข้อจำกัดในการใช้ส่วนผสมหรือสารเคมีบางชนิด รวมถึงการกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการระบุข้อมูลและการปิดฉลากสินค้านั้น
ล่าสุดคณะกรรมาธิการยุโรปได้ประกาศ Council Directive 2011/84/EU ลงวันที่ 20 กันยายน 2554 เพื่อแก้ไข Annex III ของระเบียบดังกล่าวข้างต้น สาระสำคัญดังนี้
1. ผลิตภัณฑ์ที่ใช้เพื่ออนามัยของช่องปากหรือฟัน อนุญาตให้มีปริมาณสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ เข้มข้นสูงสุดไม่เกิน 0.1%
2. ผลิตภัณฑ์ฟอกฟันขาวและฟอกสีฟัน อนุญาตให้มีปริมาณสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ได้มากกว่า 0.1% แต่ไม่เกิน 6%
นายสุรศักดิ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ระเบียบดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้วันที่ 17 พฤศจิกายน 2554 โดยประเทศสมาชิกอียูจะต้องนำไปกำหนดเป็นกฎหมายภายในประเทศของตนภายในวันที่ 30 ตุลาคม 2555 ทั้งนี้ ไทยส่งออกสินค้าประเภทสิ่งปรุงแต่งที่ใช้เพื่ออนามัยของช่องปากและฟันไปอียู มูลค่าเฉลี่ย 41 ล้านบาทต่อปี (ปี 2551 — 2553) ปี 2554 (ม.ค. — ก.ย.) ส่งออกมูลค่า 82 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 74 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ที่มา : สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศฯ ณ กรุงบรัสเซลล์