กรุงเทพฯ--24 พ.ย.--ทริสเรทติ้ง
ทริสเรทติ้งมองอุปสงค์ที่อยู่อาศัยชะลอตัว ประกอบกับความไม่แน่นอนของพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงหลังวิกฤติอุทกภัยเพิ่มความเสี่ยงผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่มีภาระหนี้สูงและมีสัดส่วนโครงการแนวราบจำนวนมาก ส่งผลให้แนวโน้มอันดับเครดิตของผู้ประกอบการ 4 ราย ได้แก่ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ถูกปรับเป็น “Negative” หรือ “ลบ” จากเดิม “Stable” หรือ “คงที่”
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด กล่าววันนี้ว่า ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยคาดว่าจะลดลงอย่างมากในไตรมาสที่ 4 ของปี 2554 และจะยังคงได้รับแรงกดดันต่อเนื่องจนถึงครึ่งแรกของปี 2555 โดยทริสเรทติ้งเชื่อว่าความต้องการที่อยู่อาศัยแนวราบในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมสูงอาจชะลอตัวต่อเนื่องจนถึงครึ่งหลังของปี 2555 ในขณะที่ผลประกอบการของตลาดคอนโดมิเนียมน่าจะฟื้นตัวกลับมาได้ค่อนข้างเร็วในปี 2555
ทริสเรทติ้งคาดว่าความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยและจำนวนหน่วยเหลือขายของโครงการแนวราบในพื้นที่น้ำท่วมจะอยู่ในภาวะที่ความต้องการซื้อหดตัวลงและจำนวนหน่วยเหลือขายเพิ่มสูงขึ้นต่อไปอีกระยะหนึ่ง ทริสเรทติ้งคาดว่าผู้ซื้อบ้านจำนวนหนึ่งจะชะลอการซื้อหรือโอนที่อยู่อาศัยออกไป และจำนวนที่อยู่อาศัยเหลือขายยังคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นจากจำนวนบ้านที่เพิ่มมากขึ้นในตลาดบ้านมือสอง
ทริสเรทติ้งประเมินผลกระทบภายหลังวิกฤติอุทกภัยที่มีต่อผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ 13 รายที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตโดยพิจารณาจากสัดส่วนประเภทของสินค้า ทำเลที่ตั้งโครงการ เและความแข็งแกร่งทางการเงิน โดยผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบมากจะเป็นผู้ประกอบการที่มีภาระหนี้สูง และมีสัดส่วนโครงการแนวราบจำนวนมาก ผู้ประกอบการหลายรายต้องเผชิญกับความท้าทายจากหน่วยที่อยู่อาศัยเหลือขายที่เกินกว่าความต้องการซื้อ ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคที่ไม่แน่นอน และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์น้ำท่วม โดยผู้ประกอบการจะต้องปรับทิศทางธุรกิจประกอบกับฟื้นฟูความเชื่อมั่นของผู้บริโภคให้กลับคืนมา
ในการนี้ ทริสเรทติ้งได้ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ 4 ราย ได้แก่ บริษัทปริญสิริ บริษัทพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท และบริษัทควอลิตี้ เฮ้าส์เป็น “Negative” หรือ “ลบ” จาก “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ แนวโน้มอันดับเครดิตจะถูกปรับกลับมาเป็น “Stable” หรือ “คงที่” ได้หากผู้ประกอบการแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและมีรายได้ที่เติบโตโดยที่ยังคงรักษาภาระหนี้ไม่ให้ปรับเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากผู้ประกอบการต้องใช้เวลานานกว่าที่คาดในการสร้างสถานะทางการเงินให้กลับไปแข็งแกร่งดังเดิม ทริสเรทติ้งมองความเสี่ยงสำหรับผู้ประกอบการ 9 รายที่เหลือว่าจะปรับเพิ่มสูงขึ้นเพียงในระยะสั้น โดยที่ความเสี่ยงดังกล่าวยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับอันดับเครดิตที่ผู้ประกอบการแต่ละรายได้รับอยู่ในปัจจุบัน
โปรดดูรายละเอียดของอันดับเครดิตและแนวโน้มอันดับเครดิตของผู้ประกอบการที่อยู่อาศัย 13 บริษัทที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตในตารางด้านล่าง
ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตโดยทริสเรทติ้ง ณ วันที่ 24 พ.ย. 2554
ผู้ประกอบการ อันดับเครดิตองค์กร แนวโน้มอันดับเครดิต (เดิม) แนวโน้มอันดับเครดิต (ใหม่)
1. บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (QH) A- Stable Negative
2. บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (Noble) BBB+ Stable Stable
3. บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) (PRIN) BBB- Stable Negative
4. บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) (PF) BBB- Negative* Negative
5. บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) (PS) A Stable Negative
6. บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) (MK) BBB+ Stable Stable
7. บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) (UV) BBB Stable Stable
8. บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) BBB Positive Positive
9. บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH) A Stable Stable
10. บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) (SPALI) A- Stable Stable
11. บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) BBB+ Stable Stable
12. บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (AP) A- Stable Stable
13. บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SC) BBB+ Stable Stable
* เปลี่ยนแนวโน้มจาก “Stable” เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2554
ที่มา: ทริสเรทติ้ง