กรุงเทพฯ--4 ต.ค.--สหมงคลฟิล์ม
คำว่า ‘หนังรางวัล’ คล้ายจะเป็น ‘ยาขม’ สำหรับนักดูหนังจำนวนไม่น้อย
ข้อหาหลักๆ ที่ตั้งกันไว้ก็คือ ‘หนังรางวัล’ มักจะดูยาก เข้าใจยาก หนำซ้ำยังน่าเบื่อ ไปดู ‘หนังรางวัล’ ทีไร เป็นต้องนึกเจ็บใจตัวเองที่ไม่ได้พกหมอนมาจากบ้านทุกที
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างย่อมมีข้อยกเว้น
มี ‘หนังรางวัล’ หลายเรื่อง ที่ดูง่าย เข้าใจง่าย ดูสนุก มีอารมณ์ขันผสมความน่ารักและน่าประทับใจ — ไม่แพ้ ‘หนังไม่รางวัล’ เรื่องไหนๆ ทั้งนั้น
Autumn Spring เป็นหนึ่งใน ‘หนังรางวัล’ ซึ่งเข้าข่ายที่ว่านี้
หนังเป็นผลงานกำกับของ วลาดิเมียร์ มิชาเล็ก คนทำหนังชาวเชกซึ่งโด่งดังเป็นขวัญใจนักวิจารณ์ที่ประเทศบ้านเกิด
เนื้อหาของ Autumn Spring เล่าถึง ฟานดา ชายชราวัยเฉียด 80 ที่ยังรักความสนุกสนานเหมือนเด็กๆ ไม่มีผิด ฟานดาไม่อยากคิดถึงสังขารที่กำลังร่วงโรยลงทุกขณะ และไม่ยอมคิดถึง ‘ความตาย’ ทั้งที่ก็รู้อยู่เต็มหัวใจว่ามันกำลังจะเดินทางมาถึงในอีกไม่ช้าไม่นานนี้แล้ว
ฟานดามีเพื่อนซี้อยู่คน คือ เอดา — คู่หูวัยรวมกันร่วม 200 คู่นี้ มักจะสุมหัวกันวางแผนคิดหาสารพันวิธีเพื่อหยอกเย้ากลั่นแกล้งชาวบ้านอยู่เสมอ
พฤติกรรมของฟานดาช่างขัดแย้งกับแนวคิดของคนรอบข้างยิ่งนัก
เมียของฟานดา ณ เวลานั้นหมกมุ่นครุ่นคิดอยู่แต่กับ ‘ความตาย’ นอกจากเธอจะกันเงินส่วนหนึ่งไว้เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับงานศพของตัวเองและสามีแล้ว เมื่อใดก็ตามที่พบ ‘ประกาศอำลาอาลัยแด่ผู้ที่จากไป’ ซึ่งมีข้อความคมๆ ซึ้งๆ เธอก็จะจดเก็บไว้ เผื่อว่าจะได้ใช้ข้อความเดียวกันนี้ในวาระสุดท้ายของตัวเองกับสามีบ้าง
ข้างฝ่ายลูกชายจอมแสบของฟานดา — หมอนี่กำลังอยากได้อพาร์ตเมนต์ของพ่อแม่ตัวสั่น จึงพยายามชักจูงใจบุพการีด้วยวิธีการต่างๆ นานาว่า “ไปอยู่บ้านพักคนชราดีกว่า สบายกว่ากันเยอะ” (?!)
เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อถึงวันเกิดครบรอบปีที่ 76 ของฟานดา เจ้าลูกชายก็ซื้อหลุมศพมือสองราคาแพง เป็นของขวัญให้หน้าตาเฉย!
จุดเด่นของ Autumn Spring อยู่ที่อารมณ์ประเภท ‘ขันขื่น’ ซึ่งปรากฏในหนังโดยตลอดทั้งเรื่อง
หลายครั้ง มิชาเล็กทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนจะขำกับเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า อีกความรู้สึกหนึ่งในขั้วตรงข้าม ซึ่งก็คือความหม่นเศร้าสุดจะบรรยาย กำลังเกิดขึ้นด้วยพร้อมๆ กัน
นอกจากนั้น หนังยังให้อารมณ์สะเทือนใจและความประทับใจ พร้อมกันกับที่ทำให้ผู้ชมอดจะคิดไม่ได้ว่า “พอแก่ตัวไป ชีวิตฉันจะเป็นอย่างไรหนอ?...”
ผู้ที่สมควรได้รับคำชมไปเต็มๆ สำหรับความดีความชอบทั้งหมดนั้น นอกจากตัวผู้กำกับเองแล้ว ก็คือ วลาสติมิล บรอดสกี ผู้รับบทฟานดา
บรอดสกีเป็นนักแสดงอาวุโสของสาธารณะเชกที่ทั้งฝีมือและชื่อชั้นจัดได้ว่า เข้าทำเนียบ ‘ปูชนียบุคคลแห่งวงการบันเทิง’ ที่ผ่านมา บรอดสกีได้รับบทเด่นๆ ในหนังหลายต่อหลายเรื่อง แต่เรื่องที่ดูเหมือนจะสร้างชื่อเสียงให้เขามากที่สุดก็คือ Jakob, the Liar ฉบับปี 1974 ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัล Silver Berlin Bear สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากเทศกาลหนังเบอร์ลิน
ใน Autumn Spring บรอดสกีทำให้ฟานดาเป็นคนแก่ที่น่ารัก ผู้ชมทั้งเข้าข้างและพร้อมจะให้อภัยเขา แม้ว่าบ่อยครั้งสิ่งที่เขาทำจะสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วยก็ตาม
ด้วยปัจจัยที่ถึงพร้อม ทำให้ Autumn Spring กลายเป็นหนังดังประจำเทศกาลหนังต่างๆ ทั่วโลก
ที่ประเทศบ้านเกิด หนังเป็นเจ้าของรางวัล Czech Lions ถึง 4 สาขา คือ นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม, นำหญิงยอดเยี่ยม, ประกอบชายยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
ที่เทศกาล US Comedy Arts — Autumn Spring คว้ารางวัลหนังต่างประเทศยอดเยี่ยมมาครองได้สำเร็จ
ส่วนผู้ที่ยังแคลงใจ ไม่เชื่อสนิทว่า ‘หนังยุโรป’ ที่เล่าเรื่องของ ‘คนแก่’ เรื่องนี้ จะดูง่ายและดูสนุกอย่างที่ว่ามาจริง เรามีหลักฐานมายืนยัน นั่นก็คือ
Autumn Spring ได้รับรางวัล ‘ขวัญใจผู้ชม’ จากเทศกาลหนัง 4 แห่งเป็นอย่างน้อย คือ เทศกาลหนังเซโดนา, เทศกาลหนังเซนต์ หลุยส์, เทศกาลหนังคลีฟแลนด์ และเทศกาลหนังอินดี้ที่รีโฮโบธ บีช--จบ--