กรุงเทพฯ--25 พ.ย.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยผลการประชุมสรุปสถานการณ์น้ำและการแก้ไขปัญหากรุงเทพฯ ซึ่งมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทมหานคร เป็นประธานการประชุม โดยในวันนี้ ระดับน้ำทะเลหนุนเมื่อเวลา 07.52 น. อยู่ระดับ +1.22 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาในเวลาเดียวกันสูงที่ระดับ 2.22 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และน้ำทะเลจะหนุนสูงอีกครั้งในเวลา 16.31 น. ที่ระดับ +1.18 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนน้ำที่อ.บางไทร 3.28 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ลดลงจากเมื่อวาน 8 ซม.
ในส่วนของน้ำทุ่งดอนเมือง คลองหกวาสายล่างที่ประตูระบายน้ำคลองสอง และคลองมหาสวัสดิ์ที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา ลดระดับลง 2-3 ซม. ระดับน้ำในคลองสายต่างๆ ยังมีระดับสูงและล้นตลิ่ง ส่วนคลองสายหลัก ระดับน้ำลดลง 2-5 ซม. ได้แก่ คลองแสนแสบ คลองประเวศบุรีรมย์ คลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากร คลองบางเขนช่วงใกล้คลองบางบัว และคลองบางซื่อ ขณะเดียวกันคลองช่วงบนทั้งหมดฝั่งธนบุรี เริ่มลดลง 1- 2 ซม.
สำหรับสถานการณ์น้ำด้านพื้นที่ตะวันตก นั้น กทม.ได้ระดมเครื่องสูบน้ำจำนวนมากเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ ซึ่งทำให้หลายพื้นที่ด้านตะวันตกระดับน้ำลดลงและบางแห่งแห้งจนเกือบเป็นปกติ แต่ภายหลังจากที่กทม.เปิดประตูระบายน้ำ 3 แห่งตามข้อเรียกร้องของชาวนนทบุรี ได้แก่ คลองขุนศรีบุรีรักษ์ คลองควาย และคลองซอย ที่ระดับ 1 เมตร แม้ระดับในคลองมหาสวัสดิ์จะลดลง 3 ซม. แต่ส่งผลกระทบให้พื้นที่แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา โดยเฉพาะหมู่บ้านและชุมชนในซอยย่อย มีระดับน้ำเพิ่มขึ้น 5-10 ซม. ซึ่งจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ กทม.จะติดตั้งเครื่องสูบน้ำคลองศาลเจ้าและคลองสวนแดน เพื่อเร่งระบายน้ำในบริเวณถนนทุ่งมังกร และถนนฉิมพลี และเพิ่มการสูบน้ำบริเวณคลองทวีวัฒนาตัดเพชรเกษม เพื่อลงคลองภาษีเจริญให้เร็วขึ้น
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กทม. มอบหมายให้สำนักการระบายน้ำ สำนักงานเขตทวีวัฒนา หนองแขม และภาษีเจริญ สำรวจพื้นที่ภายในชุมชนและหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นจากการเปิดประตูระบายน้ำ ทั้ง 3 แห่ง รวมถึงประตูระบายน้ำฉิมพลี ตลอดจนติดตามอิทธิพลของระดับน้ำทะเลหนุนสูงที่อาจส่งผลกระทบให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และฝั่งตะวันตกด้วย