กรุงเทพฯ--25 พ.ย.--ท่าอากาศยานไทย
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. โดย ว่าที่ เรืออากาศโท อนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.แถลงข่าว “ทอท.กับการป้องกันน้ำท่วมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและแผนการฟื้นฟูท่าอากาศยานดอนเมือง” ณ ห้องประชุม AOB 1 ชั้น 5 อาคารสำนักงานท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (AOB)
ว่าที่ เรืออากาศโท อนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดอุทกภัยในพื้นที่ต่างๆ ของ กทม.ซึ่ง ทอท.ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ คือ ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) และสำนักงานใหญ่มีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ และสายการบินที่ ทดม.รวมทั้งพนักงานต้องย้ายมาให้บริการและทำงานที่ ทสภ.นั้น สำหรับการป้องกันน้ำท่วม ทสภ. นั้น ทสภ.มีความมั่นใจว่า จะไม่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนี้อย่างแน่นอน เนื่องจาก ทสภ.ได้มีการออกแบบระบบป้องกันน้ำท่วมไว้อย่างดี ประกอบด้วย เขื่อนดินที่มีฐานเขื่อนกว้าง 37 เมตร ความสูง 3.5 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางความยาวล้อมรอบพื้นที่ท่าอากาศยาน 23.5 กิโลเมตร ภายในพื้นที่ท่าอากาศยานมีระบบระบายน้ำและอ่างเก็บน้ำที่สามารถรองรับน้ำฝนได้ 4 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีสถานีระบายน้ำอยู่ด้านทิศใต้ จำนวน 2 สถานี ซึ่งมีศักยภาพในการระบายน้ำได้ 1 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เขื่อนดินได้มีการออกแบบและก่อสร้างตามหลักวิศวกรรมมาตั้งแต่ปี 2538 แล้วเสร็จในปี 2542 ซึ่งเขื่อนดินมีความแข็งแรงและมั่นคงในการป้องกันน้ำหลากได้เป็นอย่างดีตามมาตรฐานที่ออกแบบไว้ และขณะนี้ ทสภ.เปิดให้บริการตามปกติ
สำหรับ ทดม.ซึ่งได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนี้โดยตรง และมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ที่รับผิดชอบประมาณ 3,000 ไร่ ทำให้ทางวิ่ง ทางขับ ลานจอดอากาศยาน ระบบไฟฟ้าสนามบิน ระบบไฟฟ้าแรงสูงที่จ่ายไฟให้แก่ระบบไฟฟ้าสนามบิน เครื่องช่วยการเดินอากาศ ทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก รวมถึงอาคารผู้โดยสาร อาคารสำนักงานท่าอากาศยานดอนเมือง และอาคารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการการบิน ระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการชำรุดเสียหาย ไม่สามารถให้บริการได้นั้น ทอท.ได้จัดทำแผนฟื้นฟู ทดม.เป็นการเร่งด่วน โดยแบ่งงานเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ใช้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ขั้นคือ ขั้นที่ 1 เป็นการฟื้นฟูทางวิ่ง ทางขับ ระบบไฟฟ้าสนามบิน ระบบไฟฟ้ากำลังที่จ่ายให้กับระบบไฟฟ้าสนามบินและเครื่องช่วยการเดินอากาศ ของฝั่งตะวันออก (ด้านกองทัพอากาศ) ให้สามารถใช้งานได้อย่างเร่งด่วน เพื่อให้อากาศยานของส่วนราชการ ทางการทหารตลอดจนสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของรัฐบาลเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล อีกทั้งสามารถรองรับภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่จำเป็นต้องใช้อากาศยานในการอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงาน ซึ่งภายใต้แผนงานนี้มีการดำเนินงาน 5 ขั้นตอน ได้แก่ การล้างทำความสะอาดคราบต่างๆ การซ่อมแซมรันเวย์และทางขับด้านตะวันออก การฟื้นฟูไฟทางวิ่งทางขับ การฟื้นฟูระบบไฟฟ้ากำลังหรือพาวเวอร์ ซัพพลาย และการซ่อมแซมเครื่องสูบน้ำ รวมทั้งการตรวจสอบก่อนเปิดใช้สนามบิน
ว่าที่ เรืออากาศโท อนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการดังกล่าวใช้งบประมาณ 489.2 ล้านบาท โดยได้รับอนุมัติจาก ครม.แล้ว ซึ่งการฟื้นฟูทางวิ่งฝั่งตะวันออกจะแล้วเสร็จและคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในสิ้นเดือนมกราคม 2555 โดยเป็นการเปิดให้อากาศยานของหน่วยราชการก่อน อย่างไรก็ตามต้องได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากกรมการบินพลเรือนก่อนเปิดใช้งาน สำหรับการฟื้นฟูระยะที่ 1 ขั้นที่ 2 ทอท.ต้องจัดสรรงบประมาณ 445 ล้านบาท เป็นการฟื้นฟูอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 เพื่อให้สามารถเปิดใช้บริการเชิงพาณิชย์ได้และสำนักงานใหญ่ ทอท. ส่วนแผนการฟื้นฟูระยะที่ 2 เป็นการฟื้นฟูในส่วนของทางวิ่งฝั่งตะวันตกและอาคารอื่นๆ เช่น อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ อาคารคลังสินค้า เพื่อรองรับการเปิดให้เอกชนเข้ามาประกอบการใน 5 โครงการที่ ทอท.วางไว้เดิม อาทิ ศูนย์แสดงสินค้า การซ่อมเครื่องบินลำตัวแคบ เป็นต้น ซึ่งต้องขอความชัดเจนจากรัฐบาลอีกครั้ง นอกจากนี้ ทอท.จะหารือกับผู้ประกอบการต่างๆ เพื่อหามาตรการในการช่วยเหลือต่อไป
สำหรับการเปิดให้บริการ ทดม.อย่างเต็มรูปแบบจะต้องรอให้น้ำลดลงได้ทั้งหมด ขณะนี้มีการระบายน้ำออกผ่านทางคูคลองรอบสนามบินราว 3 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน หาก กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการบริหารจัดการน้ำทางด้านเหนือเข้าสู่ระบบคูคลองได้เพิ่มขึ้น ทอท.อาจพิจารณาการสูบน้ำออกในจุดที่ท่วมขังเพื่อให้สนามบินกลับมาใช้บริการได้เร็วที่สุด
สำนักสื่อสารองค์กร
โทรศัพท์ 0 2132 2170-3
โทรสาร 0 2132 2123
Email aotpr@airportthai.co.th