ภาพข่าวรวมพลังเด็กศิลป์จิตอาสารับใช้สังคม

ข่าวทั่วไป Monday November 28, 2011 17:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 พ.ย.--มูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ “ศิลปะ” ไม่เพียงเป็นสิ่งสะท้อนความรู้สึกนึกคิดและตัวตนของศิลปิน อีกทางหนึ่งศิลปินยังต่อยอดศิลปะเพื่อรับใช้สังคมได้อีกด้วย ... แนวคิดข้างต้นจึงเป็นที่มาของนักเรียนศิลปะกลุ่มหนึ่งซึ่งได้รับทุนการศึกษาจากกองทุน “ถวัลย์ — ไทยพาณิชย์” ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาซึ่งได้นัดรวมตัวกัน จุดประสงค์เพื่อทำความรู้จักและรวมกลุ่มสานเครือข่ายนำความรู้ความสามารถด้านศิลปะของตนออกรับใช้สังคม งานนี้มีมูลนิธิสยามกัมมาจลรับหน้าที่ผู้ใหญ่ใจดีเอื้ออำนวยให้เกิดการพบปะกัน และมีพี่ๆ จากเครือข่ายพุทธิกาจัดกระบวนการกิจกรรม เพิ่มสาระ และเติมสีสันการเรียนรู้ให้มากยิ่งขึ้น กิจกรรมเริ่มจากการแนะนำตัว ทำความรู้จัก และสันทนาการละลายพฤติกรรมกันของเพื่อนพ้องต่างสถาบัน ได้แก่ มหาวิทยาลัยศิลปากร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตเพาะช่าง เป็นการอุ่นเครื่องก่อนเข้าสู่กิจกรรม “กระดาษแทนใจ” กิจกรรมนี้น้องๆ ได้รับโจทย์ให้ถ่ายทอดความเป็นตัวเองผ่านการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะไม่จำกัดรูปแบบด้วยกระดาษขาว 1 แผ่น จากนั้นจึงนำเสนอผลงานในวงใหญ่ให้เพื่อนๆ ได้มีโอกาสทำความรู้จักตัวเอง เมื่อนำเสนอครบทุกคนแล้วจึงนำผลงานทุกชิ้นมาจัดวางเป็นศิลปะชิ้นใหญ่แสดงพลังสร้างสรรค์ของกลุ่ม ถัดมาในช่วงบ่าย น้องๆ ยังได้รู้จักเพื่อนจากสถาบันเดียวกันแต่อาจไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเพิ่มมากขึ้น พี่ๆ เครือข่ายพุทธิกาได้ขอให้น้องขีดเขียนผลงานศิลป์ที่ถนัดอีกครั้งในกิจกรรม “สายธารศิลปะ” กิจกรรมนี้พวกเขาจะได้ทบทวนชีวิตของตนเองวาดลงบนกระดาษ และผลัดกันแบ่งปันเรื่องราวกับเพื่อนๆ ในกลุ่มย่อย เรื่องเล่าที่นำมาแบ่งปันในช่วงนี้ เช่น เพราะเหตุใดจึงสนใจเรียนศิลปะ จุดเปลี่ยนในชีวิตที่สำคัญคืออะไร การพัฒนาฝึกฝนตนเองทำได้อย่างไร มีใครเป็นแรงหนุนที่ทำให้มีวันนี้ ผลงานที่ภาคภูมิใจคืออะไร ผ่านสถานการณ์หรือปัญหามาได้อย่างไร จะนำทุนที่ได้รับไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างไร มีความประทับใจอะไรบ้างบนเส้นทางศิลปะ และความฝันอันสูงสุดบนเส้นทางสายนี้ของน้องๆ คืออะไร ก่อนปิดท้ายกิจกรรมทั้งหมดด้วยการมานั่งล้อมวงกันเพื่อหาแนวทางรวมกลุ่มสานเครือข่าย และแชร์มุมมองที่อยากทำเพื่อสังคมร่วมกันในวาระและโอกาสต่อไป ... “หวัง” ประพัฒน์ ชื่นพาณิชย์กิจ นักศึกษาคณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ ชั้นปี 4 มหาวิทยาลัยศิลปากร สะท้อนว่า กิจกรรมครั้งนี้ทำให้พวกเขาได้มาทำความรู้จัก ได้แบ่งปัน และได้รับฟังเรื่องราวชีวิต ตลอดจนถึงประสบการณ์อื่นๆ กับเพื่อนนักเรียนศิลปะที่มีทั้งความเหมือนและความแตกต่างกันกับตนเอง ซึ่งเราสามารถนำมันย้อนกลับมาทบทวน ทำความรู้จักตนเอง และส่งผลให้เรามีความเข้าใจโลก ธรรมชาติ และธรรมะมากยิ่งขึ้น ขณะที่การรวมกลุ่มทำงานเพื่อสังคม อาจเริ่มต้นจากสิ่งที่เรามีความรู้ความสามารถก่อนเป็นลำดับแรก จากนั้นจึงค่อยๆ ขยับขยายสู่สิ่งอื่นที่ยิ่งใหญ่ขึ้น “ตอนนี้สังคมของเรามีปัญหามากมาย เราก็รู้ๆ กันอยู่ หากเราไม่ทำอะไรเลย มันก็จะดิ่งลงๆ พวกเราเป็นนักศึกษาศิลปะอยากให้คิดเสมอว่าศิลปะได้ให้อะไรกับเราเยอะเลย แต่เราได้ให้อะไรกับมันบ้างหรือเปล่า การมาพบกันวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้พวกเราได้รู้จักการแบ่งปัน ไม่ใช่การทำเพื่อตัวเอง อาจเริ่มจากที่ตัวเองก่อนซึ่งเราต้องมีสัจจะกับมัน แล้ววันหนึ่งมันก็จะเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนและมีพลังมากขึ้น” โอ๋ “ยุทธนา แยมสูงเนิน” นักเรียนศิลปะชั้นปี 3 จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตเพาะช่าง เสริมความคิดเห็นของหวังว่า กิจกรรมครั้งนี้ยังทำให้พวกเขาได้มาพบปะกันกับเพื่อนที่มีใจรักศิลปะเหมือนกันจากหลายสถาบัน แม้บางคนมีอายุไล่เลี่ยกัน บ้างอายุมากกว่า และบ้างอายุน้อยกว่า แต่ทั้งหมดก็สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและมุมมองกันได้ เกิดเป็นความสัมพันธ์กันของเพื่อนพ้องต่างสถาบันที่สามารถรวมกันเป็นกลุ่มก้อนเพื่อแบ่งปันความคิดดีๆ และเพื่อทำสิ่งดีๆ นั้นให้กับสังคม ส่วน แป๋ว “คีตภัทร นาควันดี” นิสิตชั้นปีที่ 3 ภาควิชาดุริยางคศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพิ่มเติมว่า รู้สึกประทับใจกับการมาพบกันครั้งนี้เพราะเป็นกิจกรรมที่ดี เป็นการเปิดประสบการณ์การเรียนรู้ซึ่งและกัน โดยอยากให้มีการจัดกิจกรรมพบกันอีกในอนาคตซึ่งจะไม่ได้เป็นเพียงการพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน แต่ได้นำศิลปะไปทำงานจิตอาสาให้กับสังคมด้วย ไม่แน่ว่านี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ของเด็กศิลป์จิตอาสารับใช้สังคมกลุ่มนี้ก็เป็นได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ