กรุงเทพฯ--29 พ.ย.--ธนาคารเอชเอสบีซี
โดย มร.เฟรเดอริก นิวมานน์
หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเซีย
ประเด็นหลัก:
- ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (อาทิ เหตุการณ์น้ำท่วมในออสเตรเลีย การเกิดสึนามิในญี่ปุ่น) มีผลกระทบในทางลบอย่างมากต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่โดยปกติมักจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
- ประเทศไทยเองก็น่าจะมีแนวโน้มที่คล้ายกัน ดรรชนีตัวสำคัญ เช่น การผลิตภาคอุตสาหกรรมและการส่งออกจะติดลบอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม เราคาดว่า ภาคการผลิตจะฟื้นตัวกลับคืนมาได้ในช่วงต้นปีพ.ศ 2555
- ที่ผ่านมา ภาคการท่องเที่ยวได้แสดงว่ามีความยืดหยุ่นต่อสภาวะการณ์ตกใจที่มีผลในทางลบ และสามารถช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวในครั้งนี้ได้เช่นกัน
- องค์ประกอบที่สำคัญต่อการเติบโต น่าจะเป็นการใช้จ่ายของรัฐบาล การใช้จ่ายของภาครัฐที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จะนำไปสู่การเติบโตของจีดีพีตัวจริงร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้วในช่วงต่อไป ทั้งนี้ ยังมีขอบเขตที่รัฐบาลไทยจะสามารถเพิ่มการใช้จ่ายได้ เนื่องจากระดับของภาวะหนี้ในปัจจุบันยังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
- นโยบายด้านการเงินจะมีบทบาทต่อการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้ เราคาดว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยจะลดอัตราดอกเบี้ยลงราวร้อยละ 0.25 ในไตรมาสที่ 4 ปี 2554 อัตราเงินเฟ้ออาจสูงขึ้นได้ในระยะสั้น แต่ไม่นานก็จะลดลง
- ภาพรวมทั่วโลกยังคงเป็นความท้าทายอยู่ เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาฟื้นตัวอย่างน่าผิดหวัง ขณะเดียวกัน ยุโรปก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่มาก
- เราคาดว่า จีดีพีของประเทศไทยจะเติบโตที่อัตราร้อยละ 1.7 ในปีพ.ศ 2554 แต่จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 4.5 ในปีพ.ศ.2555 คาดว่าการเติบโตจะลดลงอย่างมากในไตรมาสที่ 4 ของปี 2554 (ติดลบร้อยละ -5.0 ไตรมาสต่อไตรมาส) แต่จะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในไตรมาสที่ 1 ของปีพ.ศ.2555