กรุงเทพฯ--1 ธ.ค.--พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค
พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เร่งฟื้นฟูโครงการ และช่วยเหลือลูกบ้านหลังน้ำลด ประสานงานภาครัฐและสถาบันการเงินในเรื่องมาตรการช่วยเหลือ ร่วมมือพันธมิตร จัดหาผู้รับเหมาและวัสดุราคาพิเศษ พร้อมเตรียมแผนป้องกันในระยะยาวทั้ง ระบบป้องกันระดับโครงการ รั้วบ้าน และตัวบ้าน
นายชายนิด โง้วศิริมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าโดยภาพรวมแล้ว สถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อบ้านจำนวน 1 ล้านหน่วยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยเป็นบ้านจัดสรร 549,888 หน่วย แบ่งเป็นแนวราบ 461,664 หน่วย และห้องชุด 88,224 หน่วย (ข้อมูลจาก AREA) ในส่วนผลกระทบต่อบริษัท มีโครงการที่ได้รับผลกระทบ รวม 9 โครงการ ซึ่งมีผลกับมูลค่า Backlog ที่เตรียมจะโอนกรรมสิทธิ์ ประมาณ 250 ล้านบาท ในส่วนของผลกระทบต่อยอดขายนั้น คาดว่ายอดพรีเซลส์ในไตรมาสที่ 4 จะเหลือประมาณ 3,000 ล้านบาท จากที่ตั้งเป้าไว้ 4,500 ล้านบาท โดยประมาณการยอดพรีเซลส์ ปี 2554 จะอยู่ที่ 11,000 ล้านบาท
“ยอดขายในไตรมาส 4 ชะลอตัวแต่ไม่ได้หดหาย เนื่องจากยังมีฐานลูกค้าอยู่ แต่จะชะลอการตัดสินใจออกไปอย่างน้อย 2-3 เดือน อย่างไรก็ดี รัฐควรมีมาตรการช่วยเหลือผู้บริโภค แบ่งเบาภาระในช่วงหลังน้ำท่วม เช่น หักลดหย่อนภาษีเงินซ่อมแซมบ้าน รวมทั้งมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ และกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เช่น การลดหย่อนภาษีธุรกิจเฉพาะ ยกเว้นค่าธรรมเนียมโอนฯและจดจำนอง การลดหย่อนเงินต้นซื้อบ้าน เป็นต้น”
นอกจากนี้ ทางภาครัฐควรเร่งจัดทำแนวทางป้องกัน ไม่ว่าจะเป็น การสร้างระบบเตือนภัยล่วงหน้า การขยายคลอง และทำคันกั้นน้ำถาวรในจุดเสี่ยง มีการก่อสร้างฟลัดเวย์ที่ช่วยในการระบายน้ำลงสู่ทะเล และที่สำคัญ ควรพิจารณาเรื่องการทำเขื่อนกั้นน้ำแนวแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อเนื่องจากกรุงเทพฯถึงปทุมธานี และการสร้างระบบระบายน้ำในจังหวัดนนทบุรีและปทุมธานี ให้มีประสิทธิภาพทัดเทียมกับกรุงเทพฯ
สำหรับภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัยหลังอุทกภัยนั้น นายวสันต์ ศรีรัตนพงษ์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ กลุ่มพัฒนาธุรกิจ เปิดเผยว่า ตลาดบ้านในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลกว่า 80% ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนี้ ยกเว้นในโซนตะวันออก เช่น รามคำแหง พระรามเก้า ศรีนครินทร์ สุวรรณภูมิ บางนา เทพารักษ์ และโซนตะวันตก เช่น พระราม 2 ราชพฤกษ์บางส่วน โดยตลาดที่ได้รับผลกระทบมาก คือ บ้านระดับราคา 1-5 ล้าน ซึ่งจะส่งผลดีกับคอนโดระดับ 1-5 ล้าน โดยเฉพาะคอนโดบนแนวรถไฟฟ้า ตลาดบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์จะชะลอตัว ในช่วงปลายปีนี้ จนถึงไตรมาส 1 ของปีหน้า และคาดว่าตลาดจะกลับมาสดใสในช่วงหลังจากนั้น โดยในปี 2555 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 10%
“ทั้งนี้ โครงการที่ไม่มีน้ำท่วมหรือท่วมไม่สูง จะฟื้นตัวได้เร็วกว่าและกลับมาทำตลาดได้ก่อน ส่วนโครงการที่มีน้ำท่วมแต่ฟื้นฟูได้เร็ว ก็จะสามารถกลับมาได้ โดยเฉพาะโครงการตามแนวรถไฟฟ้า โครงการติดถนนใหญ่ และโครงการของผู้ประกอบการที่ให้ความช่วยเหลือให้กับลูกบ้าน ซึ่ง พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เรามีมาตรการช่วยเหลือตั้งแต่ระหว่างน้ำท่วม อาทิ การจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือจากส่วนกลาง จัดคอนโดเมโทร พาร์ค สาทร ให้เป็นที่พักชั่วคราว บริการเรือและรถเข้าออกโครงการ มีถุงยังชีพ อาหาร ยารักษาโรค ส้วมกระดาษ จัดเรือลาดตระเวณ มาตรการรักษาความปลอดภัย มีการนำถุงบิ๊กแบ็กมาทำแนวกั้นน้ำเพื่อระบายน้ำออกจากโครงการ ตลอดจน อัพเดทสถานการณ์ในช่องทางออนไลน์เต็มรูปแบบ และ ศูนย์คอลเซ็นเตอร์ ตลอด 24 ช.ม.”
ในส่วนของมาตรการช่วยเหลือลูกบ้านหลังน้ำลด บริษัทฯ ได้จัดศูนย์ช่วยเหลือ Welcome Home Center มีการถ่ายรูปบ้านให้ทุกหลังเพื่อใช้ในการประกอบเอกสาร เป็นตัวแทนประสานการรับความช่วยเหลือจากภาครัฐ จัดทำเอกสารแนะนำการตรวจสอบและข้อควรระวังก่อนเข้าบ้าน การตรวจสอบระบบไฟฟ้า ประปา สุขาภิบาล ให้ใช้งานได้ การทำความสะอาดบ้านเบื้องต้น และ ยกเว้นค่าสาธารณูปโภค 3 เดือน นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นตัวแทนประสานงานกับธนาคารกรุงไทย ธนชาติ ออมสิน และ กรุงศรีอยุธยา ในการผ่อนผัน พักชำระหนี้ และลดหย่อนดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อและซ่อมแซมบ้าน และได้รับความร่วมมือจาก เอสซีจี ในการจัดหาผู้รับเหมาและวัสดุก่อสร้างในราคาพิเศษ ตลอดจน ยังได้จัดเตรียมสินค้าวัสดุในราคาพิเศษจากซัพพลายเออร์อื่นๆ เช่น ปั๊มน้ำ วอลเปเปอร์ เฟอร์นิเจอร์ ให้กับลูกบ้านอีกด้วย
สำหรับ มาตรการป้องกันโครงการในระยะยาว นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต รองประธานเจ้าหน้าที่ กลุ่มพัฒนาธุรกิจ กล่าวว่า ได้ออกแบบการป้องกันใน 3 ระดับ ได้แก่ (1) ระบบป้องกันระดับโครงการ จะมีการถมดินให้ระดับพื้นในโครงการสูงกว่าถนนภายนอก 0.3 เมตร ยกเนินบริเวณทางเข้าให้สูงกว่าระดับถนนภายนอก 1.1 เมตร ติดตั้งสถานีสูบน้ำ จัดทำประตูเปิดปิดบ่อพักสาธารณะ และจัดทำรั้วโครงการให้ป้องกันน้ำเข้าทั้งบนผิวดินและใต้ดิน ซึ่งหากมีน้ำท่วมสูง 1 เมตร น้ำจะไม่เข้าในโครงการ (2) ระบบป้องกันระดับรั้วบ้าน โดยการเพิ่มเสาเหล็กสำหรับติดตั้งแผ่นป้องกันน้ำ ซึ่งจำลองแบบมาจากสถานีรถไฟฟ้า และ (3) ระบบป้องกันระดับตัวบ้าน จะมีการถมดินระดับที่จอดรถให้สูงกว่าระดับถนน 0.5 เมตร และระดับพื้นบ้านให้สูงกว่าระดับถนน 1.1 เมตร หากมีน้ำท่วมสูง 1 เมตร น้ำก็จะไม่เข้าภายในตัวบ้าน ซึ่งจะช่วยลดความเสียหายได้ นอกจากนี้ ยังมีการทำช่องปิดบ่อพัก และวาล์วปิดเปิดท่อระบายน้ำก่อนลงบ่อพัก เพื่อป้องกันน้ำจากภายนอกเข้ามาภายในบ้านทางบ่อพัก รวมทั้ง การปรับจุดติดตั้งสวิทซ์ ปลั๊ก และตู้ไฟฟ้า ให้สูงขึ้นเพื่อความปลอดภัยอีกด้วย