กรุงเทพฯ--2 ธ.ค.--บีเอ็มดับเบิลยู
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยประกาศเปิดตัวรถยนต์ BMW 640i Coupe (ราคา 8,599,000 บาท) และ BMW 520d Touring (ราคา 4,999,000 บาท) และ MINI Cooper S Coupe ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 28 พร้อมทั้งจัดแสดงรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิทั้งหมดกว่า 20 รุ่น รวมถึง BMW ซีรี่ย์ 3, BMW ซีรี่ย์ 5, BMW ซีรี่ส์ 7 และ BMW X1, X3 รุ่นประกอบในประเทศ รวมถึงรถยนต์รุ่นนำเข้า เช่น BMW 325i Coupe Sport Edition และ BMW X6 xDrive30d นอกจากนี้นยังมีข้อเสนอทางการเงินจาก บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย พิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อรถในงานนี้ด้วย
ไฮไลท์ผลิตภัณฑ์ใหม่
BMW 640i Coupe
เครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตร 320 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,300-4,500 รอบสุดยอดแห่งสมรรถนะ ด้วยเทคโนโลยี EfficientDynamics
BMW 640i Coupe (ราคาเริ่มต้นที่ 8,599,000 บาท) มาพร้อมเครื่องยนต์แบบ 6 สูบ ความจุ 3.0 ลิตร ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมน้ำหนักเบาพร้อมด้วยเทคโนโลยีอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผันและเทคโนโลยีระบบฉีดน้ำมันด้วยหัวฉีด Piezo สามารถผลิตแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรที่รอบเครื่องยนต์ 1,300-4,500 รอบและกำลังสูงสุด 320 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8HP Sports Automatic 8 สปีด มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลาเพียง 5.4 วินาที อีกทั้งยังมีความประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยอดเยี่ยม BMW 525d มีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 13.2 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 177 กรัมต่อกิโลเมตร ตามมาตรฐานการวัดค่าเฉลี่ย EU
BMW 640i Coupe เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ ทั้งด้านความปลอดภัยและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ยกตัวอย่างเช่น ระบบไฟหน้าแบบ Bi-Xenon พร้อมด้วยระบบ Headlight Beam-throw Control ที่ทำหน้าที่ปรับลำแสงของไฟหน้าตามระดับความเร็ว ในขณะที่ระบบ Adaptive LED Headlights ทำหน้าที่ปรับมุมการส่องสว่างตามการหักเลี้ยวของพวงมาลัย ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ยามค่ำคืน, ระบบรักษาเสถียรภาพ DSC Dynamic Stability Control พร้อมฟังก์ชั่นระบบ Driving Experience Control ที่สามารถให้ผู้ขับขี่เลือกโหมดในการขับขี่ได้ทั้งแบบ Comfort, Sport, Sport+ และ Eco Pro เพียงปลายนิ้วสัมผัส
นอกจากนี้ระบบ BMW Head-Up Display ยังได้รับการพัฒนาอีกขั้น เพื่อการแสดงผลที่ชัดเจนและอ่านได้ง่าย โดยที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนนมามองที่หน้าปัดรถยนต์อีกต่อไป ข้อมูลที่สำคัญ เช่น ความเร็ว ระดับน้ำมัน หรือแม้แต่เส้นทางที่ปรากฏจาก BMW Navigation จะได้รับการถ่ายทอดลงตามระดับสายตาของผู้ขับขี่ เพื่อการเดินทางที่ปลอดภัยสูงสุด
ส่วนในด้านของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพิ่มความสบาย BMW 640i ก็มีให้อย่างครบครัน ยกตัวอย่างเช่นระบบ Comfort Access ที่สามารถเปิด-ปิดล็อคและสตาร์ทรถเพียงแค่พกกุญแจไว้, ระบบนำทาง BMW Navigation System Professional ที่มีฮาร์ดดิสก์สำรองไว้ให้สำหรับเก็บข้อมูลไฟล์เพลง mp3, ระบบ Bluetooth เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ และระบบเครื่องเสียงไฮไฟ พร้อม TV function
BMW 520d Touring Sport
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูง 2.0 ลิตร 184 แรงม้า แรงบิด 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,900-2,750 รอบบรรทัดฐานแห่งสมรรถนะ ความประหยัดน้ำมัน และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
BMW 520d Touring Sport (ราคา 4,999,000) มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Advanced Diesel ขนาด 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร ผลิตจากวัสดุอลูนิเนียมน้ำหนักเบาพร้อมด้วยเทคโนโลยีอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผันและเทคโนโลยีระบบฉีดน้ำมันด้วยหัวฉีดแม่เหล็กไฟฟ้า สามารถผลิตแรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตรที่รอบเครื่องยนต์ 1,900-2,750 รอบ และกำลังสูงสุด 184 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียรตอัตโนมัติ 8HP 8 สปีด มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลาเพียง 8.3 วินาที อีกทั้งยังมีความประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยอดเยี่ยม BMW 520d Touring Sport มีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 19.9 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 139 กรัมต่อกิโลเมตร ตามมาตรฐานการวัดค่าเฉลี่ย EU
BMW 520d Touring Sport มาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ ทั้งด้านความการดีไซน์ในรูปลักษณ์ที่คงความเป็นสปอร์ตทัวริ่ง โดยได้รับการตกแต่งด้วยชุดแต่ง M Sport Package ที่มาพร้อมกับล้อ M Alloy Wheel Double Spoke 18” พร้อมยางรันแฟลท เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในทุกรูปแบบของการขับขี่ นอกจากนี้ อุปกรณ์เพื่อความสะดวกอื่นๆ เช่นระบบ Comfort Access ที่สามารถเปิด-ปิด สตาร์ทรถ และล็อครถ เพียงแค่พกกุญแจไว้, ระบบ Ambient Light ที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศการขับขี่ยามค่ำคืน, ระบบปรับอากาศแบบ climate Control พร้อมระบบกรองอากาศ Microfiber และ Active Carbon Filter, ระบบ Bluetooth เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ และระบบความคุมสั่งการ iDrive เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทำให้ BMW 520d Touring Sport รุ่นนี้ มีความเป็นเอกลักษณ์สำหรับการใช้งานในทุกรูปแบบของการขับขี่
MINI Cooper S Coupe
เครื่องยนต์ 4 สูบ 1.6 ลิตร 184 แรงม้า แรงบิด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-5,000 รอบ บรรทัดฐานแห่งสมรรถนะ ความประหยัดน้ำมัน และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เครื่องยนต์ของ MINI Cooper S Coupe ได้มีการผนวกรวมระบบอัดอากาศ Twin-Scroll Turbo และระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VALVETRONIC เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งต่างก็เป็นสุดยอดเทคโนโลยีระบบป้อนอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์ จึงเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ของ MINI Cooper S ซึ่งเป็นสุดยอดอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ทั้งในแง่ของสมรรถนะ ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน และการลดการคายไอเสีย
เทคโนโลยีระบบอัดอากาศ Twin-Scroll Turbo ใช้หลักการแบ่งทางเดินไอเสียเป็นสองช่อง โดยทั้งสองช่องจะทำงานสอดประสานกัน สร้างแรงดันของไอเสียให้อยู่ในระดับ สูงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่รอบค่ำ เพื่อป้อนเป็นพลังงานขับเคลื่อนใบพัดของระบบเทอร์โบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบ Twin-Scroll Turbo จึงเป็นระบบเทอร์โบเดี่ยวที่สามารถให้กำลังอัดอากาศสูงและต่อเนื่องเสมือนกับใช้ระบบเทอร์โบคู่ ซึ่งนอกจากจะมีขนาดกะทัดรัดซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับรถขนาดเล็กอย่างมินิแล้ว ยังเป็นการประหยัดพลังงานโดยเฉพาะในเรื่องของระบบหล่อเย็นของเทอร์โบอีกด้วย ส่วนระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VALVETRONIC ซึ่งมีความสามารถกำหนดระยะเปิด-ปิดและระยะเวลาการเปิดวาล์วอากาศได้แปรผันต่อเนื่องตลอดทุกช่วงรอบตามความต้องการของเครื่องยนต์ทำให้สามารถป้อนอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด การทำงานของทั้งสองระบบดังกล่าวอย่างควบคู่กัน จะส่งผลให้เครื่องยนต์สามารถผลิตกำลังตอบสนองความต้องการในทุกรูปแบบการขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ผลลัพธ์ที่ได้คือ MINI Cooper S Coupe ที่มีประสิทธิภาพทั้งในด้านสมรรถนะการขับขี่และประสิทธิภาพความประหยัดน้ำมันและลดการคายไอเสีย ด้วยระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด MINI Cooper S Coupe พร้อมเครื่องยนต์ที่มีกำลังสูงสุด 184 แรงม้านี้ สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 7.1 วินาที และสามารถทำอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยได้ที่ 15.6 กิโลเมตรต่อลิตร อีกทั้งค่าเฉลี่ยอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ต่ำเพียง 149 กรัมต่อกิโลเมตร ตามมาตรฐานการวัดค่าเฉลี่ย EU
ไฮไลท์ในรุ่นอื่นๆ
BMW X6 xDrive30d ราคา 6,699,000 บาท: เครื่องยนต์ดีเซลแบบ 6 สูบแถวเรียง พร้อมด้วยเทคโนโลยี EfficientDynamics ที่เหนือชั้น ขนาด 3.0 ลิตร พร้อมด้วยเทคโนโลยีอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผันและเทคโนโลยีระบบฉีดน้ำมันด้วยหัวฉีด Piezo สามารถผลิตแรงบิด 540 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบและกำลังสูงสุด 218 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียรติอัตโนมัติ 8 สปีด มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลา 8.1 วินาที อัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 13.6 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ เพียง 195 กรัมต่อกิโลเมตร
BMW X1 sDrive20d Highline ราคาเริ่มต้นที่ 2,799,000 บาท: ภายใต้คอนเซ็ปต์ครอสโอเวอร์ที่ผสมผสานความสปอร์ตและความล้ำสมัยได้อย่างลงตัว BMW X1 ได้รวมเอาคุณสมบัติที่โดดเด่นของรถยนต์อเนกประสงค์ (เช่น ความบึกบึน ความสูงใต้ท้องรถ และตำแหน่งนั่งขับสูง) ผนวกรวมเข้ากับคุณสมบัติของรถยนต์แบบสปอร์ตซาลูน (เช่น โอเวอร์แฮงค์สั้น ฐานล้อยาว) ได้อย่างสมบูรณ์แบบ BMW X1 sDrive20d Highline มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลแบบ 4 สูบ 16 วาล์ว 177 แรงม้า พร้อมด้วยเทคโนโลยีอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผัน มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลา 8.3 วินาที และมีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 16.4 กิโลเมตรต่อลิตร รวมทั้งอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 160 กรัมต่อกิโลเมตร
BMW 320d Sport ราคา 2,999,000 บาท: ด้วยระบบพวงมาลัย Servotronic แปรผันตามความเร็วของการขับขี่ พร้อมการตกแต่งแบบ Editon Exclusive ที่มาพร้อมกับชุดแต่ง M Sports Package ทำให้ BMW 320d Sport มีความปราดเปรียวและโฉบเฉี่ยวในสไตล์สปอร์ตหรู และด้วยเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลเจนเนอเรชั่นล่าสุดพร้อมเทอร์โบแปรผันแบบ 4 สูบ 16 วาล์ว 184 แรงม้า ที่สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 7.6 วินาที แต่คงความประหยัดน้ำมันได้อย่างเป็นเลิศด้วยอัตราการประหยัดน้ำมัน 18.9 กิโลเมตรต่อลิตร และมีอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 140 กรัมต่อกิโลเมตร
BMW 525d ราคา 4,399,000 บาท: คาร์แรคเตอร์ของรถยนต์ซาลูนระดับผู้บริหาร BMW ซีรี่ย์ 5 ใหม่ ที่เน้นความหรูหรา สะดวกสบาย แฝงความสปอร์ตและปราดเปรียวอย่างเหนือชั้น ถูกสะท้อนผ่านการออกแบบอย่างลงตัว โดดเด่นทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน พร้อมกับเทคโนโลยีระบบไฟส่องสว่างและไฟ LED เพื่อสร้างภาพลักษณ์ยามค่ำคืน ให้ผู้พบเห็นได้สัมผัสถึงหรูหราแฝงความสปอร์ตคมคายได้อย่างลงตัว ดีไซน์ระบบไฟหน้าที่ผสมผสานระหว่างระบบไฟ LED และไฟหน้าแบบไบ-ซีนอน พร้อมกับพื้นผิวโค้งเว้า สร้างแสงเงาที่สง่างามอย่างแตกต่าง BMW 525d มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลแบบ 6 สูบ 204 แรงม้า มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลา 7.2 วินาที มีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 16.4 กิโลเมตรต่อลิตร และมาพร้อมกับระบบชาร์จไฟแบตเตอรี่อัตโนมัติจากการเบรค (Brake Energy Regeneration)
BMW 523i Highline ราคา 4,249,000 บาท: โดดเด่นทั้งในด้านดีไซน์ที่สง่างาม เทคโนโลยีที่เหนือชั้น BMW ซีรี่ส์ 5 ใหม่ ได้รับรางวัลดีไซน์ระดับโลกถึงสองรางวัล ได้แก่ รางวัล Red Dot Design Award 2010 และ รางวัล Auto Bild Best Design Award 2010 มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง ความจุ 2.5 ลิตร สามารถผลิตกำลังสูงสุดถึง 204 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตรที่ 2,750-3,000 รอบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 8.5 วินาที อัตราการประหยัดน้ำมัน 12.5 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 187 กรัมต่อกิโลเมตร พร้อมระบบ Brake Energy Re-generation ที่นำพลังงานที่สูญเสียขณะเบรก แปรรูปกลับมาเป็นพลังงานไฟฟ้าสะสมไว้ในแบตเตอรี่ เพื่อเป็นการลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ ทั้งหมดนี้เพื่อสมรรถนะที่สูงขึ้นประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ดีขึ้น นอกจากนั้น BMW 523i ใหม่ ยังสามารถใช้พลังงานทางเลือกก๊าซโซฮอล์ E20 ได้ด้วย
BMW 730Li ราคาเริ่มต้นที่ 7,299,000 บาท: ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความบันเทิงที่มาพร้อมกับจอและฟังก์ชั่นโทรทัศน์ขนาด 8.8” สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง 2 ตำแหน่ง ผนวกกับเบาะนั่งแบบ Comfort seats พร้อมฟังก์ชั่นนวดผ่อนคลาย และโต๊ะทำงานส่วนตัว BMW Individual Folding Table สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ทำให้ BMW 730Li มีความเป็นสุดยอดยนตรกรรมแห่งผู้นำอย่างแท้จริง ด้วยเครื่องยนต์เบนซินแบบ 6 สูบแถวเรียง 24 วาวล์ ความจุ 3.0 ลิตร สามารถผลิตกำลังสูงสุดได้ 218 แรงม้าที่ 6,600 รอบ และแรงบิดสูงสุด 300 นิวตัน-เมตรที่ 2,600-3,000 รอบ พรั่งพร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย BMW Night Vision พร้อมระบบตรวจจับวัตถุในที่มืด ผ่านการทำงานของกล้องอินฟาเรด เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยเป็นเยี่ยม
BMW X3 xDrive20d Highline ราคา 3,599,000 บาท: เครื่องยนต์ Advanced Diesel แบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยีระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผัน สามารถผลิตกำลังสูงสุด 184 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,750 รอบ ถ่ายทอดกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8HP 8 สปีด ให้อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 8.5 วินาที และด้วยเทคโนโลยี MBW Efficient Dynamics ซึ่งรวมถึงระบบเครื่องยนต์แบบ Advanced Diesel, ระบบ Brake Energy Re-Generation, ระบบวิศวกรรมโครงสร้างตัวถัง Lightweight Engineering และระบบปั๊มน้ำและปั๊มน้ำมันเครื่องแบบ On-demand ทำให้ BMW X3 xDrive20d มีค่าเฉลี่ยอัตราการประหยัดน้ำมันถึง 17.9 กิโลเมตรต่อลิตรและค่าเฉลี่ยการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 147 กรัมต่อกิโลเมตร ซึ่งเป็นค่าที่ดีที่สุดในเซ็กเมนท์รถอเนกประสงค์ขับเคลื่อนสี่ล้อ
แคมเปญจ์พิเศษ
Motor Expo 2011
เพิ่มระยะเวลาความคุ้มครองการดูแลรักษารถยนต์สำหรับลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ
- BMW Service Inclusive (BSI) แคมเปญจ์ เพิ่มระยะเวลาให้ถึง 6 ปี/120,000 กม.* สำหรับลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยู
- MINI No Fear แคมเปญจ์ แถมประกันภัยชั้น 1 สูงสุดถึง 3 ปี* สำหรับลูกค้ามินิ
*สำหรับลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูและมินิที่จองรถในงาน Motor Expo 2011 และรับรถภายในธันวาคม 2554 นี้เท่านั้น