กรุงเทพฯ--7 ธ.ค.--Sphere-comm
มีธุรกิจไม่มากนักที่ล่วงรู้ถึงข้อนี้ ความจริงแล้ว ธุรกิจส่วนใหญ่มักจะมุ่งเน้นแต่รูปลักษณ์ที่มองเห็นได้ แต่มีการศึกษาวิจัยที่แสดงถึงความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างกลิ่นภายในสถานที่กับยอดขายที่เกิดขึ้นตามมา การทำตลาดโดยใช้กลิ่นหอมกำลังได้รับความนิยม เนื่องจากช่วยให้แบรนด์ต่างๆ โดดเด่นขึ้นมาเหนือใคร
83% ของการนำเสนอเพื่อการสร้างแบรนด์นั้นล้วนแต่เป็นภาพที่ใช้สายตาในการมองเห็น ในหนึ่งวันโดยเฉลี่ยแล้วคนเรารับข้อความที่เป็นภาพประมาณ 12,000 ข้อความ ดังนั้น ธุรกิจต่างๆ จึงไม่สามารถอาศัยสื่อที่อาศัยการมองเห็นเพียงอย่างเดียวในการสร้างความประทับใจที่ยั่งยืนนานได้ ที่จริงแล้ว 75% ของความรู้สึกและอารมณ์ในทุกวันของเรา ไม่ได้รับการกระตุ้นจากทางสายตา แต่ถูกกระตุ้นจากทางกลิ่นสัมผัส
Air Aroma เป็นบริษัททำการตลาดชั้นนำที่เริ่มบุกเบิกนำการใช้กลิ่นหอมมาใช้เพื่อให้ธุรกิจต่างๆ เริ่มรุกทำการตลาดโดยใช้กลิ่นหอมเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์โดยรวมในการสร้างแบรนด์ อันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะในประเทศไทย
คุณจอห์น แวน โรเอมเบิร์ก CEO แห่ง Air Aroma Group ยินดีมาไขความลับว่าการรับรู้ทางกลิ่นสัมผัสเป็น “การรับรู้ที่ทรงพลังที่สุดที่ก่อให้เกิดความทรงจำในระยะยาวเกี่ยวกับประสบการณ์ สถานที่ หรือผลิตภัณฑ์”
อย่างไรก็ดี การใช้กลิ่นนี้ไม่ใช่แนวความคิดใหม่แต่อย่างใด โดยมาร์เซล โพรสท์เป็นคนแรกที่สังเกตเห็นเมื่อช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็เป็นที่รู้จักกันในชื่อโพรสเชี่ยน เอฟเฟกต์ (Proustian Effect) โพรสท์สังเกตเห็นว่ากลิ่นบางอย่างทำให้เราหวนย้อนกลับไปยังอดีตและสร้างความทรงจำที่แจ่มชัดมากในความคิด
ตัวอย่างเช่น มีการทดลองชิ้นหนึ่งซึ่งทำการทดลองในร้านขายสินค้าแฟชั่น ซึ่งแสดงว่ายอดขายสามารถพุ่งขึ้นได้โดยใช้กลิ่นหอมอโรม่า มาร์ติน ลินด์สตรอม ที่ปรึกษาชั้นนำให้กับแบรนด์ระดับโลกและผู้เขียนหนังสือขายดี Buyology- Truth and Lies about what we Buy กล่าวไว้ว่า “เมื่อใช้ ‘กลิ่นหอมสไตล์ผู้หญิง’ อย่างเช่น วนิลลาในแผนกเสื้อผ้าสตรีภายในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่งแล้ว ยอดขายเสื้อผ้าสตรีทั้งหมดขยับขึ้นเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว”
บริษัทตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ต่างๆ นำการทำตลาดด้วยกลิ่นหอมมาใช้เพื่อเสริมประสบการณ์สัมผัสของลูกค้าและนำมาใช้เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ โดยทั่วไปแล้วเป็นที่ทราบกันดีว่าเซลล์ขายรถมักจะไว้ใจไม่ค่อยได้ เมื่อลูกค้าเดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่ของบริษัทจำหน่ายรถ ก็จะได้รับการต้อนรับด้วยกลิ่นหอมละมุนของชาเขียวและตะไคร้ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งกลิ่นหอมอ่อนๆ จางๆ เป็นที่รู้กันดีว่าช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ทำให้รู้สึกสบายใจ และช่วยลดอาการกระวนกระวาย กลิ่นหอมอ่อนๆ นี้จะกระตุ้นให้เราสูดหายใจลึกๆ ซึ่งจะยิ่งทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น การลดความกระวนกระวายใจของผู้ซื้อรถทำให้ผู้ซื้อเปิดใจรับฟังข้อความที่บริษัทขายรถนำเสนอและเปิดใจให้กับพนักงานขายมากยิ่งขึ้น
ส่วนงานศึกษาอีกชิ้นหนึ่งทำการทดลองในบริการขนส่งมวลชน โดยได้ทำการทดลองนี้ขึ้นเพื่อแสดงว่ากลิ่นอโรม่าจะเปลี่ยนแปลงอารมณ์ของคนเราอย่างไรบ้าง ผลการทดลองแสดงว่า ผู้หญิงจะมีความรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นเป็นอย่างมากเมื่อใช้บริการขนส่งมวลชนที่มีกลิ่นหอม ในขณะที่ผู้ชายกล่าวว่าตนเองรู้สึกสบายมากยิ่งขึ้นในระหว่างการเดินทาง
ธุรกิจวงการหนึ่งที่นำแนวความคิดเกี่ยวกับการนำกลิ่นหอมมาใช้ในการสร้างแบรนด์ก็คือธุรกิจโรงแรม เมื่อแขกได้สัมผัสกับกลิ่นหอมละมุนเมื่อก้าวย่างเข้ามาในล็อบบี้ของโรงแรม ก็จะกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนองทางอารมณ์ในทันที ซึ่งจะก่อให้เกิดความรู้สึกในเชิงบวกกับโรงแรมนั้น “เมื่อเราได้กลิ่น เราก็จะตอบสนองทางอารมณ์มากกว่าทางเหตุผล และงานวิจัยได้แสดงว่า อารมณ์ในเชิงบวกจะนำไปสู่ทัศนคติในเชิงบวก” คุณโทนี ไรท์ กรรมการผู้จัดการแห่ง Air Aroma Thailand กล่าว คนเรามีแนวโน้มที่จะรับรู้ถึงกลิ่นหอมก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนที่สังเกตเห็นถึงปัจจัยอื่นๆ จึงทำให้น้ำหอมเป็นสื่อกลางที่ดีอย่างยิ่งในการเรียกความสนใจของลูกค้าและก่อให้เกิดความประทับใจแรกพบที่ยั่งยืนนาน นอกจากนั้น กลิ่นสัมผัสเป็นการรับรู้เพียงอย่างเดียวที่ไม่สามารถ “ปิด” ได้ โดยการรับกลิ่นจะทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยกลิ่นมักจะอ่อนมากจนเราแทบไม่รู้ตัวเลยว่ามีกลิ่นนั้นอยู่
โรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งริเริ่มนำแนวความคิดการใช้กลิ่นหอมในการสร้างแบรนด์มาใช้เป็นแห่งแรกๆ คือโรงแรมเรมแบรนด์ทและทาวเวอร์ส สุขุมวิทซอย 18 “โรงแรมเรมแบรนด์ทนำเทคนิคการใช้กลิ่นหอมในการสร้างแบรนด์มาใช้กว่า 2 ปีแล้ว คุณอีริค ฮาลลิน ผู้จัดการใหญ่กล่าว “นับตั้งแต่ที่นำกลิ่นหอมมาใช้ในล็อบบี้ของเราและตามพื้นที่สาธารณะทุกแห่ง เราก็ได้รับคำชมมากมายจากแขกของเรา ความสดชื่นแปลกใหม่ของล็อบบี้ช่วยเสริมมิติใหม่ให้กับบริการอันมีชื่อเสียงเลื่องลือของเรา”
กลิ่นอโรม่าแต่ละกลิ่นก็มีผลต่อคนกลุ่มต่างๆ ในลักษณะที่แตกต่างกันออกไป โรงแรมที่ล่วงรู้ถึงข้อเท็จจริงในข้อมูลก็จะสามารถใช้กลิ่นหอมอโรม่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น กลิ่นหอมของดอกไม้ เช่น ดอกมะลิและดอกลีลาวดีก็จะดึงดูดกลุ่มตลาดคนเอเชีย ในขณะที่กลิ่นไม้หอมจะดึงดูดชาวตะวันตก นอกจากนั้น ยังมีกลิ่นหอมอโรม่าที่เย้ายวนใจสำหรับคนวัยหนุ่มสาว คนแก่ ผู้ชาย หรือผู้หญิงโดยเฉพาะอีกด้วย เมื่อนำปัจจัยเหล่านี้มารวมกัน ก็สามารถนำมาใช้เพื่อจับคู่กลิ่นหอมให้ตรงกับหลักประชากรศาสตร์ของโรงแรมมากขึ้นได้
Air Aroma มอบบริการปรุงแต่งกลิ่นหอมตามความต้องการของลูกค้า ดังนั้น บริษัทแต่ละแห่งก็จะมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง และสร้างแบรนด์ของตนเองให้เป็นเอกลักษณ์และสอดคล้องกับกลุ่มตลาดที่โรงแรมนั้นๆ ประกอบกิจการอยู่
ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่า 10 ปี Air Aroma ได้ให้บริการปรึกษาแก่บริษัทต่างๆ ที่ต้องการนำการทำตลาดด้วยกลิ่นหอมไปประยุกต์ใช้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์องค์รวมของตนเองเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ Air Aroma สามารถช่วยท่านได้โดยใช้เอสเซนเชี่ยล ออยล์บริสุทธิ์จากธรรมชาติที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือน้ำหอมที่ผสมเคล้ากันอย่างลงตัว เอสเซนเชี่ยล ออยล์ชนิดต่างๆ มีคุณสมบัติต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งจะเข้าไปย่อยสลายกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามธรรมชาติ ในขณะเดียวกันก็กระตุ้นทั้งร่างกายและจิตใจไปพร้อมกันด้วย งานวิจัยและงานวิทยาศาสตร์ที่แพร่หลายเกี่ยวกับกลิ่นอโรม่าชนิดต่างๆ นี้ ได้รับการรับรองจากเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายทั่วโลกที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้ ด้วยเทคโนโลยีกระจายลมเย็นที่จดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว Air Aroma จึงรับประกันได้ว่าท่านจะได้สัมผัสกับกลิ่นหอมที่เหมาะสม ในระดับความเข้มข้นที่เหมาะสม โดยไม่ทำให้ความหอมรัญจวนใจลดน้อยถอยลงแต่อย่างใด สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเข้าเยี่ยมชมที่ www.air-aroma.com