ไลอ้อนปรับกลยุทธ์ เปิดตัว Free&Free เซรั่มบำรุงผม สินค้ายอดนิยมอันดับ 1 ในญี่ปุ่น สร้างนวัตกรรมใหม่รุกตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม

ข่าวทั่วไป Wednesday February 11, 2004 08:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 ก.พ.--โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์
ไลอ้อน รุกตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม เปิดตัวเซรั่มบำรุงผม Free&Free เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทย หวังครองแชมป์อันดับ 1 ในตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมพร้อมทุ่มงบโฆษณาประชาสัมพันธ์กว่า 40 ล้านบาท คาดยอดขายทะลุเป้า 60 ล้านบาท ส่งผลตลาดแฮร์แคร์โตอีกประมาณ 10-20 %
นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตเซรั่มบำรุงผม Free&Free กล่าวถึงการทำตลาดแฮร์แคร์ว่า ทางบริษัทฯได้แนะนำผลิตภัณฑ์ Free&Free ออกมาสู่ตลาดในเดือนกรกฎาคมปี 46 โดยทดลองวางผลิตภัณฑ์ และเปิดให้ผู้ที่สนใจทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ โดยไม่ได้ทำการโฆษณา เพื่อสำรวจการตอบสนองของผู้บริโภคที่มีต่อแพ็กเกจ และคุณภาพของผลิตภัณฑ์เมื่อได้ทดลองใช้ ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะสีสันของแพ็กเกจที่สะดุดตา และผู้บริโภคส่วนใหญ่มีความพอใจกับสินค้าเมื่อได้ลองใช้ โดยผลิตภัณฑ์มี 2 รูปแบบ คือ ขวดสีเขียว เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเส้นผมมากเป็นพิเศษ เกิดจากการทำสีผม ไดร์ ดัด หรือย้อมสีผมด้วยสารเคมี ขวดสีแดง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเส้นผมที่เกิดจากมลภาวะแสงแดด ฝุ่น หรือควันเสีย มีให้เลือก 2 ชนิดคือ ชนิดเจล ใช้หลังสระ ขณะผมหมาดไม่ต้องล้างออก เพื่อบำรุงเส้นผม ชนิดน้ำ(สเปรย์) ใช้ขณะผมแห้ง ก่อนจัดทรง หรือใช้เมื่อรู้สึกว่าผมแห้งกระด้าง ขาดความชุ่มชื้น เซรั่มบำรุงเส้นผม Free&Free จึงนับเป็นผลิตภัณฑ์รายแรกชนิดไม่ต้องล้างออก (Leave On) ที่ช่วยบำรุงเส้นผมให้ดีขึ้น เพราะผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ในตลาดจะเป็นซิลิโคน ออยล์ที่เมื่อทาแล้วจะรู้สึกมัน และลื่น โดยเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีจากร้านค้า และลูกค้า ซึ่งจะช่วยผลักดันให้สามารถมีส่วนแบ่งทางการตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม 20-50 % จากมูลค่าตลาดรวมทั้งสิ้น 200 กว่าล้านบาทในปีนี้อย่างแน่นอน
กลยุทธ์การตลาดของ Free&Free มุ่งเน้นที่การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของสินค้าให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงสุด โดยใช้โฆษณาครบทุกสื่อ ทั้งหนังสือพิมพ์ นิตยสาร ทีวี วิทยุ โรงภาพยนตร์ บิลบอร์ด และมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งการออกบูธสาธิต และให้คำแนะนำการใช้ผลิตภัณฑ์ รวมทั้งเปิดให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสทดลองใช้, การจัดกลุ่ม Boom Gang ออกไปตระเวนเต้นเชียร์ลีดเดอร์ตามจุดต่างๆ พร้อมแจกสินค้าตัวอย่าง และ การจัดเคาน์เตอร์ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายทางบริษัทคาดว่าจะวางผลิตภัณฑ์ในร้านสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านทำผมซาลอนต่างๆ โดยบริษัทฯได้เตรียมงบสำหรับใช้ในการทำตลาดของ Free&Freeในปี 47 ไว้ที่ประมาณ 60 ล้านบาท
ปัจจุบันตลาดของผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมชนิดไม่ต้องล้างออก (Leave - On) ยังไม่ใหญ่มากนัก และยังไม่มีคู่แข่งในตลาดนี้อย่างแท้จริง เนื่องจากเซรั่มบำรุงผม Free&Free เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพต่างจากผลิตภัณฑ์ในกลุ่มแฮร์แคร์ทั่วไป ตรงที่ Free&Free เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องเส้นผมอย่างแท้จริงด้วยส่วนผสมสารสกัดจากธรรมชาติ DGA กว่า 500 ชนิด ทำให้รู้สึกได้ ทันทีว่าผมนุ่มสลวยเมื่อลองใช้ครั้งแรก ซึ่งผลการค้นคว้าเป็นลิขสิทธิ์ของฝ่ายวิจัยพัฒนาของบริษัท ไลอ้อน ประเทศญี่ปุ่น
"Free&Free เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมที่ได้รับความนิยมอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันประเทศไทยเป็นประเทศที่ 2 ที่ทำการตลาดกับผลิตภัณฑ์นี้ โดยบริษัทได้ทำการผลิตเอง ที่โรงงานสาขาศรีราชา หลังนำเข้าสินค้าล็อตแรกมาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนธันวาคม ที่ผ่านมาโดยบริษัทมองว่าหากได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ก็จะทำการส่งออกไปยังประเทศในอาเซียน" นายบุญฤทธิ์ กล่าว
สำหรับรายได้ของบริษัทฯในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 4,400 ล้านบาท มีอัตราเติบโตคิดเป็นเงิน ประมาณ 3 % หรือคิดเป็นปริมาณ 10 % ซึ่งส่งผลมาจากสินค้ามีราคาถูก ทั้งนี้บริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้ของสินค้าด้านความงามที่ยังไม่สูงมากนัก แบ่งเป็น Personal Care ซึ่งรวม Skin Care กับ Hair Care ที่มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 25 % Household ไม่นับรวมตลาดผงซักฟอกประมาณ 15 % ผงซักฟอกประมาณ 35 % และกลุ่ม Oral Care ประมาณ 25 % โดยกลุ่ม Personnel Care นับเป็นกลุ่มที่มี จุดคุ้มทุนดีที่สุด ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนการผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกอยู่ที่ประมาณ 15 % ของกำลังการผลิตโดยรวม
ด้านนโยบายการทำตลาดคอนซูเมอร์ของบริษัทฯ ในปี 47 ยังแข่งขันในตลาดสินค้าอุปโภค และบริโภคเหมือนเช่นที่ผ่านมา โดยเน้นที่ประสิทธิภาพของสินค้ามากขึ้น และจะเลือกนำสินค้าที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามา เพื่อสร้างตลาดเฉพาะกลุ่มสินค้ามากขึ้น โดยขณะนี้ทางบริษัทฯยังไม่มีนโยบายการลดราคาสินค้าให้ถูกลง เพื่อให้สอดรับกับการแข่งขันในตลาดสินค้าอุปโภค และบริโภคที่มี ความรุนแรงมากขึ้น เนื่องมาจากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้นในปีนี้ เพราะวัตถุดิบ ค่าแรงมีราคาสูงขึ้น เพราะฉะนั้นจะพยายามลดต้นทุนเพื่อป้องกันการเกิดค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป จนส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าได้ และพยายามเลือกสินค้าที่จะตอบสนองความต้องการให้ตรงกับกลุ่มผู้บริโภคมากที่สุด
รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์
(อุมา พลอยบุตร์, ชื่นกมล สุขโข, อัญชลี เชื้อน้อย)
โทรศัพท์ 0-2691-6302-4 หรือ 0-2274-4782โทรสาร 0-2691-6305--จบ--
-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ