กรุงเทพฯ--11 ก.พ.--บีโอไอ
นิคอน ผู้ผลิตกล้องถ่ายรูปรายใหญ่ของโลกขยายการลงทุนเปิดโรงงานแห่งที่ 4 ในไทย เพื่อใช้เป็นฐานการผลิตกล้องดิจิตอลนอกญี่ปุ่นเป็นแห่งแรก ตั้งเป้าส่งออกกล้อง-เลนส์ 2.4 ล้านตัวในปี 47 และจะมีการจ้างแรงงานไทยเพิ่มกว่า 2,000 คน
นายพินิจ จารุสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผย ภายหลังเข้าเยี่ยมชมโรงงานของ บริษัท นิคอน (ประเทศไทย) จำกัด วันนี้( 11 กุมภาพันธ์ 2547) ว่า บริษัท นิคอน (ประเทศไทย) จำกัด ได้มีการขยายการลงทุนเพิ่มอีก 500 ล้านบาท โดยเปิดโรงงานใหม่เป็นแห่งที่ 4 ในประเทศไทย เพื่อผลิตกล้องดิจิตอล เลนส์ซูม และชิ้นส่วนกึ่งสำเร็จรูป เพื่อการส่งออกไปยุโรปและญี่ปุ่น โดยจะมีการจ้างแรงงานเพิ่มกว่า 2, 000 คน
"การผลิตกล้องของบริษัทนิคอล ต้องใช้แรงงานฝืมือเป็นส่วนใหญ่ เพราะงานหลายอย่างมีความละเอียดอ่อน ใช้เครื่องจักรไม่ได้ ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมาจึงมีการจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและขณะนี้มีความต้องการแรงงานเพิ่มอีกกว่า 2,000 คน จากปัจจุบันที่มีการจ้างงานอยู่ถึง 5,000 คนแนายพินิจ กล่าว
นายสมพงษ์ วนาภา เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กล่าวว่า บีโอไอได้ให้การสนับสนุนบริษัทมาอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 13 ปีที่ผ่านมา บีโอไอ ได้ให้การส่งเสริมการลงทุนแก่ บริษัท นิคอน มาแล้ว 3 โครงการ คือในปี 2539 ปี 2544 และ ปี 2546 รวมเงินลงทุนทั้งสิ้นมากถึง 2,700 ล้านบาท สำหรับการลงทุนเปิดโรงงานแห่งที่ 4 เพื่อผลิตกล้องดิจิตอลในครั้งนี้ นับเป็นการผลิตที่เป็นไปตามแนวโน้มความต้องการของตลาด เนื่องจากปัจจุบันกล้องดิจิตอลกำลังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
"โรงงานแห่งนี้ถือเป็นโรงงานผลิตกล้องดิจิตอลแห่งแรก ที่นิคอนย้ายฐานการผลิตออกมานอกประเทศญี่ปุ่น และเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังเป็นโรงงานแห่งเดียวที่มีการผลิตทั้งเลนส์ และกล้องถ่ายรูป ตลอดจนมีการฝึกอบรมเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีจากนิคอนประเทศญี่ปุ่นให้แก่แรงงานไทยอีกด้วย" นายสมพงษ์ กล่าว
ด้าน นาย โชอิจิโร่ โยชิดะ ประธานบริหารกลุ่มบริษัทนิคอน ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า สำหรับโรงงานแห่งใหม่นี้ จะผลิตกล้องดิจิตอล SLR รุ่น D 70 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด และยังมีการผลิต Standard Interchangeable Lens ที่ใช้กับกล้องรุ่นนี้ด้วย
นายโยชิดะ กล่าวเพิ่มเติมว่า มีความมั่นใจอย่างยิ่งในการเพิ่มการลงทุนในประเทศไทย เนื่องจากที่ผ่านมานั้นธุรกิจของบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2546 สามารถส่งออกกล้องถ่ายรูปได้มากถึง 7 แสนตัว และ เลนส์สำหรับกล้องถ่ายรูป 5 แสนตัว สำหรับในปี 2547 คาดว่าจะสามารถส่งออกกล้องถ่ายรูป และกล้องดิจิตอลได้มากถึง 1.2 ล้านตัว และเลนส์สำหรับกล้องถ่ายรูปอีก 1.2 ล้านตัว เพิ่มขึ้นจากปี 2546 ถึง 3 เท่า
สำหรับธุรกิจของบริษัท นิคอน นั้น แบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ Imaging Business Group, Semiconductor & Inspection Group และ Instrument Group โดย บริษัท นิคอน (ประเทศไทย) ที่เปิดดำเนินการในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2533 ถือเป็นบริษัทลูกด้าน Imaging Business Group ที่ใหญ่ที่สุด โดยมียอดขายมากถึงร้อยละ 60 ของยอดขายของบริษัทในเครือทั้งหมด--จบ--
-รก-