กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--Frost & Sullivan
ดร. มนธ์สินี กีรติไกรนนท์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก ได้เปิดเผยว่า บริษัท ฟรอสต์ฯ ได้ทำการสำรวจประจำปีเพื่อวิเคราะห์ถึงแนวโน้มและเทรนด์ของเทคโนโลยี ที่จะเข้ามามีบทบาทที่สำคัญในประเทศภายในประเทศในปีหน้าและต่อไปในอนาคต ดังนี้
Communication — Smart Cloud and wireless intelligence
ในด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร ปี 2012 นี้ คลาวด์ คอมพิวติ้ง จะมีบทบาทสำคัญ และเป็นตัวหลักในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจอุตสาหกรรมไอซีที โดยส่งผลให้ทีโมเดลธุรกิจในรูปแบบใหม่ จากการนำศักยภาพของเทคโนโลยี คอมพิวติ้งมาให้บริการในรูปแบบต่างๆเพื่อการใช้งานและการเข้าถึงในรูปแบบที่หลากหลาย ซึ่งทำให้การใช้งานไอทีสามารถนำมาจัดจำหน่ายแบบ ‘Utility model’ เหมือนกับการใช้งานไฟฟ้าและประปา ซึ่งสามารถเข้าถึงได้โดยง่ายและคิดค่าบริการตามการใช้งานจริง โดยเรียกโมเดลประเภทนี้ ว่า IT as a Service
ก่อนหน้านี้ ได้มีการจำกัดประเภทของคลาวด์ ไว้ออกเป็น 3 แบบ คือ Software as a Service (SaaS), Platform as a Service (PaaS), Infrastructure as a Service (IaaS) แต่ภายในระยะเวลาอันใกล้ การให้บริการแบบครบวงจร หรือ “Anything as a Service (XaaS)” จะเข้ามาแทนที่ เพราะมีผู้ให้บริการจากหลากหลายธุรกิจเข้ามา ในขณะที่เทคโนโลยี ก็เอื้ออำนวยให้เกิดความยืดหยุ่น ทำให้ผู้ให้บริการไม่ต้องยึดติดกับรูปแบบธุรกิจแบบใดแบบหนึ่ง นอกจากนี้ คลาวด์ คอมพิวติ้ง จะส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินธุรกิจ ทั้งในภาคไอซีทีและภาคอื่นๆ ดังต่อไปนี้
- ทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆมากขึ้น โดยสามารถลดระดับอุปสรรคในการเข้าตลาด (Entry Barriers) ดังนั้นจะมีบริษัทหน้าใหม่เกิดขึ้นพร้อมกับนำเอานวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาใช้ในการแข่งขันกับบริษัทที่เป็นเจ้าตลาด และมีหลายกรณีศึกษาในต่างประเทศที่บริษัทเล็กๆเหล่านี้ ประสบความสำเร็จ โดยการเขย่าขวัญและแย่งส่วนแบ่งการตลาดไปจากบริษัทใหญ่ๆอย่างเหลือเชื่อ
- ตลาดกลุ่มธุรกิจจะเป็น segment หลัก ที่บรรดากลุ่มผู้ให้บริการทางสื่ออินเตอร์เน็ทซึ่งเคยเน้นแค่กลุ่มลูกค้าบุคคล ต้องการที่จะขยายไป ดังนั้นจะเห็นได้จากบรรดาบริษัทที่เรียกว่าเป็น Consumer Internet Companies เช่น Amazon, Google, Apple, Facebook เหล่านี้ ต่างล้วนขยายธรกิจไปสู่ Enterprise Market มากขึ้น ในประเทศไทยก็เช่นกัน กลุ่มเวปไซด์ออนไลน์ เช่น Pantip, Sanook, Tarad ก็ขยายตัวเข้าไปในกลุ่มธุรกิจมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- การสื่อสารร่วมมือกัน (Collaboration) เช่น การรวม Social Networking เข้าไว้ด้วยกันก็ดี หรือ การพัฒนาระบบ United Communications ที่รวมภาพและเสียง เอาไว้ก็ดี ตลอดจนการอำนวยความสะดวกต่อความต้องการที่ไม่หยุดอยู่กับที่ (Mobility) ล้วนเป็นประเด็นสำคัญ ที่ทำให้ธุรกิจสามารถได้เปรียบคู่แข่ง
อัตราการเติบโตของคลาวด์คอมพิวติ้งในปีหน้า จะเพิ่มขึ้นในปีนี้อย่างรวดเร็ว จาก32% เป็น 50% สืบเนื่องจากความต้องการในการลดภาระการลงทุนอุปกรณ์และการใช้งานในส่วนของการแบคอัพข้อมูลเพื่อรองรับกรณีเกิดภัยธรรมชาติ ตลอดจนสาเหตุจากการพัฒนาประสิทธิภาพของเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลได้มากขึ้น
Technology — Innovative technology for future
เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่อยู่บนฐาน หรือ Platform เหล่านี้ จะมีบทบาทที่สำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ และกำลังเป็นที่สนใจอย่างมากจากนักลงทุน เพื่อการนำมาพัฒนาและเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตในอนาคตอันใกล้
- Nanomaterials: วัสดุต่างๆที่ใช้เทคโนโลยีนาโน
นาโนเทคโนโลยี เป็นเรื่องที่อยู่ในแลปมาหลายปี แต่ในปัจจุบันเริ่มเห็นการพัฒนาอย่างเป็นรูปเป็นร่าง และการนำมาใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อิเล็กโทรนิค ยานยนต์ การบิน พลังงาน อาหารและยา โดยการนำวัสดุประเภทนาโน มาใช้ในแอพพลิเคชั่นหลากหลายรูปแบบ ตัวอย่างคือ กราฟีน (Graphene) หรือแผ่นโครงสร้างคาร์บอนที่มีความหนาเพียง 1 อะตอม โดยมีความสามารถที่โดดเด่นได้ดีในการนำไฟฟ้าความถี่สูง และมีความยืดหยุ่นในตัวมากกว่าท่อนาโนคาร์บอน (Carbon Nanotubes) จึงได้ถูกนำมาใช้ในอุปกรณ์ต่างๆ เช่นหน้าจอแบบสัมผัส (Touch-screen Light Panel) ระบบตรวจจับและเซนเซอร์ก๊าซ ตลอดจนระบบพลังงานแสงอาทิตย์ และในอนาคตยังมีแผนพัฒนาในมีน้ำหนักเบาขึ้นเพื่อนำไปใช้ในภาคดาวเทียมและอวกาศอีกด้วย
- Advanced Batteries and Energy Storage: ถ่านพลังงานสูง
เนื่องจากมีความต้องการในการใช้พลังงานในราคาต่อหน่วยที่ถูกลง จึงทำให้เกิดการคิดค้นพัฒนาระบบการเก็บสำรองพลังงานไฟฟ้า ให้ได้ประสิทธิภาพที่ยาวนานขึ้น อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมายังมีปัจจัยเรื่องราคาสูงเป็นประเด็นสำคัญ ทำให้การพัฒนาต้องเน้นถึงความคุ้มค่าเป็นหลัก สิ่งที่เป็นตัวผลักดันให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องคือ ระบบรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันได้มีตลาดรถไฮบริดเปิดตัวนำทางไปก่อน แต่ในสายตาผู้บริโภคส่วนใหญ่ ยังไม่เห็นความคุ้มทุนที่ชัดเจนนัก แต่อย่างไรก็ดี ก็เป็นแนวทางของ Platform ในการพัฒนาต่อไปในอนาคตอันใกล้ หากสามารถตอบโจทย์เรื่องของความคุ้มทุนได้ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์
- Green IT
ในด้านที่เกี่ยวกับระบบสารสนเทศ ก็มีแรงผลักดันจากเทคโนโลยีประเภท Green IT เนื่องจากมีความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในอุตสาหกรรมนี้ ทำให้ผู้บริหารระดับสูงเริ่มมองหาทางเลือกในการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ โดยใช้พลังงานน้อยลง โดยให้ความสำคัญในการใช้งาน Data Center เป็นอันดับต้น เนื่องจากที่ผ่านมา ดาต้าเซนเตอร์หลายแห่งมีการบริโภคพลังงานอย่างมหาศาล และการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของธุรกิจนี้ ต้องสอดคล้องกับแนวทางการนำเอา Green IT มาประยุกต์ ปัจจุบันดาต้าเซ็นเตอร์หลักๆ ในประเทศไทย มีความจุที่เกือบเต็มกำลัง และมีความต้องการในการขยายเพิ่มขึ้นอีกในปีหน้า ดังนั้น สภาพแวดล้อมของดาต้าเซ็นเตอร์ จึงเป็นปัจจัยหลัก ที่ต้องปรับเปลี่ยน เพื่อการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
- Solar Cells or Photovoltaic Technology
ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ และระบบ PV เป็นเทคโนโลยีหลักในการนำพลังงานกลับมาใช้งาน โดยทุกฝ่ายต่างเล็งเห็นความสำคัญ และพัฒนาให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของระบบ PV ซึ่งตลาดต่างให้ความสนใจ โดยเฉพาะการพัฒนาในยุคหลัง ซึ่งเน้นในเรื่อง CIGs (Copper Indium Gallium diSelenide) ซึ่งเป็นระบบพลังงานแสงอาทิตย์แบบแผ่นฟิล์มบาง ( Thin Cell) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น ตลอดจนสามารถนำมาใช้ได้หลากหลายรูปแบบ เช่น เสื้อแจ๊คเก๊ตพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์โทรศัพท์และอิเล็คโทรนิคต่างๆ ในขณะที่เดินทางหรืออยู่ในภาคสนาม
- 3D Integration
เทคโนโลยีประเภท 3มิติ ยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ใช้พลังงานน้อยลง และอยู่ในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น หรือแม้แต่อุปกรณ์อิเล็กโทรนิคขนาดเล็ก เช่นโทรศัพท์มือถือ 3 มิติ ที่เพิ่งนำออกมาในตลาดญี่ปุ่นและเกาหลี เทคโนโลยี 3 มิติ ยังคงโดเด่นในเรื่องของเครื่องไม้เครื่องมือทางอุตสาหกรรมและทางการแพทย์ เช่น อุปกรณ์เซ็นเซอร์ต่างๆ ซึ่งออกแบบหน้าจอเป็น 3 มิติ อุปกรณ์ควบคุมประเภท Microcontrollers และ Microprocessors, เครื่องมือตรวจวัดทางการแพทย์แบบขนาดเล็กหรือเคลื่อนย้ายได้ อย่างไรก็ดี เทคโนโลยียังคงมีปัจจัยในเรื่องของต้นทุน ที่เป็นอุปสรรค เช่นเดียวกับเทคโนโลยีสำรองพลังงาน ดังนั้น การพัฒนาเทคโนโลยี ให้เหมาะสมกับต้นทุนยังคงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง
- White Biotech
เทคโนโลยีทางชีวภาพ ที่สามารถนำมาใช้พัฒนาให้เป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ยังคงมีความน่าสนใจ โดยเฉพาะ การใช้ กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ (Micro-organisms) และ ตัวเร่งปฏิกิริยาทางชีวภาพ (Biological Catalysts) เช่นเอนไซม์ ที่ใช้นำมาผลิต เคมีชีวภาพ วัสดุและแหล่งพลังงาน โดยในปัจจุบัน แอพพลิเคชั่นในภาคอุตสาหกรรมที่เป็นการนำเอาศักยภาพออกมาใช้งาน มีการเติบโตอย่างมากขึ้นและต่อเนื่อง เช่นการทำ bio-feedstock, bio-process, และ bio-products
- Lasers
เทคโนโลยีของแสงเลเซอร์ แม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ ที่ยังคงเป็น platform ที่สำคัญ และมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยการนำไปใช้ในด้านการแพทย์ สุขภาพความงาม รวมทางระบบควบคุมในภาคอุตสาหกรรม โดยมูลค่าตลาดของเทคโนโลยีเลเซอร์ สูงถึง $7.5 พันล้านดอลล่าร์ในปี 2010 โดยมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในเลเซอร์ประเภท CO2 ซึ่งนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในคลีนิคผิวพรรณและสถานเสริมความงามในประเทศไทย เพื่อกำจัดเนื้อเยื่อส่วนเกิน เช่นไฝ หูด กระ ในขณะที่เลเซอร์อีกประเภทหนึ่งคือ แบบพลังงานสูง หรือ High Power Laser ได้ถูกนำมาใช้ในอัตราที่เพิ่มขึ้น ในภาคเครื่องจักรและอุตสาหกรรม เพื่อการตัด ตลอดจนเลเซอร์ อีกประเภท คือ Fiber Laser ที่นำมาใช้ในการมาร์กกิ้ง เลเซอร์ทั้ง 3 ประเภทนี้ มีอัตราการเติบโตที่สูงกว่าประเภทอื่นๆ และมีการนำมาประยุกต์ใช้ในรูปแบบที่ใกล้เคียงอย่างแพร่หลาย
ติดต่อ:
Frost & Sullivan Thailand. Tel. 02 637 7414