กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร
ปิดเทอมสดใสกับค่ายแสนสนุก
พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร ชวนเด็กๆ มาเข้าค่ายปิดเทอมสุดสนุก เสริมสร้างความแข็งแรงทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งนอกจากความรู้ที่จะได้รับแล้ว ยังได้ฝึกช่วยเหลือตนเอง มีความรับผิดชอบมีระเบียบวินัย และรู้จักการเอื้ออาทรมีน้ำใจต่อเพื่อน ในคราวนี้มีค่ายสนุกมาให้เลือกเรียนรู้ตามความสนใจ ถึง 6 ค่ายด้วยกัน แต่ละค่ายก็เต็มอิ่มไปด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์ให้เพลิดเพลินกันตลอดปิดเทอม
* ค่ายอนุบาล "Kids สนุก"
รุ่นที่ 1 : วันที่ 15-26 มี.ค. , รุ่นที่ 2 : วันที่ 19-30 เม.ย. (สำหรับน้องวัย 4-6 ปี)
เพลิดเพลินกับการเรียนรู้โลกกว้างจากสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัว และเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กๆ ทั้งทางร่างกาย สติปัญญา และอารมณ์ ด้วยหลากหลายกิจกรรม อาทิ เรียนรู้เรื่องแมลงและทำที่ติดตู้เย็นและ 'โมบายปีกผีเสื้อ' , สนุกกับการละเล่นพื้นบ้านของเด็กไทย , แต่งหน้าขนมเค้กอร่อยฝีมือหนู , ทำตุ๊กตาล้มลุก 'เจ้าดุ๊กดิ๊ก' และออกกำลังให้ร่างกายแข็งแรงในการแข่งขันกีฬา 'มินิโอลิมปิก'
* ค่ายอนุบาล "Smart Kids"
รุ่นที่ 1 : วันที่ 29 มี.ค. - 9 เม.ย. , รุ่นที่ 2 : วันที่ 3-14 พ.ค. (สำหรับน้องวัย 4-6 ปี)
เตรียมความพร้อมก่อนการเข้าสู่วัยประถมด้วยกิจกรรมแสนสนุก ที่จะช่วยพัฒนาทักษะเกี่ยวกับความรู้พื้นฐาน ทั้งการสำรวจ การทดลอง และการประดิษฐ์ เช่น เรียนรู้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วยการทำแปลงผักของหนู, รู้จักเครื่องดนตรีผ่านการประดิษฐ์ 'แทมโบรีนกรุ๊งกริ๊ง', อิ่มอร่อยกับ 'คทาแอปเปิ้ล' ไปพร้อมกับได้รับความรู้เรื่องโภชนาการ, เรียนรู้เรื่องสีสันด้วยกิจกรรม 'ขวดสีรุ้ง' , รู้จักหลักวิทยาศาสตร์ง่ายๆ จากการทดลองทำ 'ภาพแห่งความลับ' และในวันสุดท้ายผลงานทุกชิ้นของเด็กๆ จะนำมาจัดแสดงให้ชมในงาน 'Smart Kids Show'
* ค่าย Unseen in Bangkok
วันที่ 31 มี.ค. - 2 เม.ย. (สำหรับน้องวัย 7-9 ปี)
สนุกสนานกับค่ายทัศนศึกษาตามแหล่งการเรียนรู้ที่น่าสนใจในกรุงเทพฯ เริ่มจากค้นหาความเร้นลับกันในงาน 'ภาพมายา ดวงตามหัศจรรย์' ที่พิพิธภัณฑ์เด็กฯ , ตื่นเต้นกับการชมระบบการทำงานภายใน สถานีรถไฟใต้ดิน , ชมเทคโนโลยีการฉายภาพยนตร์สามมิติที่ โรงภาพยนตร์ IMAX , เยี่ยมชม โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา , เรียนรู้ภูมิปัญญาของชาวบางขุนเทียนที่ป่าชายเลนผืนเดียวในกรุงเทพฯ ณ พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น เขตบางขุนเทียน
* ค่ายลุยสวนชวนสนุก เมืองสมุทรสามน้ำ
วันที่ 20-23 เม.ย. (สำหรับน้องวัย 10-12 ปี)
ค่ายสนุกเชิงวัฒนธรรม ที่ชวนเด็กๆ มาสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอัมพวา จ.สมุทรสงคราม เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น 'เมืองสามน้ำ' เพราะภูมิประเทศมีแหล่งน้ำที่เป็นทั้งน้ำจืด น้ำเค็ม และน้ำกร่อย เรียนรู้ความเป็นมาของเมืองสามน้ำ ซึ่งส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ อาหารการกิน ศิลปวัฒนธรรมภายในชุมชน
สัมผัสวิถีชีวิตการทำสวนแบบผสมผสานของชาวสวนอัมพวา มาเรียนรู้ทั้งการปลูก การขยายพันธุ์ เก็บเกี่ยว และแปรรูปผลไม้ ในฐาน 'ลุยสวนผลไม้' , สนุกกับการ 'ตามหาหอยหลอด' ศึกษาระบบนิเวศน์ป่าชายเลน ผ่านกิจกรรม 'ถีบกระดานปลูกป่าและถีบกระดานหาหอยแครง' และรู้จักนำวัตถุดิบที่มีอยู่ในพื้นที่มาทำเป็นอาหารอร่อย
* ค่ายบันทึกธรรมชาติ "ตอน ตะลุยไร่ข้าวโพด"
วันที่ 6-9 เม.ย. (สำหรับน้องวัย 10-12 ปี)
สนุกท้าทายกับค่ายพักแรมค้างคืนใกล้ชิดธรรมชาติที่ 'ไร่สุวรรณวาจกกสิกิจ ศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ' อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มาเป็นเกษตรกรตัวน้อย เรียนรู้การทำเกษตรกรรม ซึ่งเป็นอาชีพดั้งเดิมของคนไทย โดยใช้ข้าวโพดเป็นแกนสาระหลักในการเรียนรู้ เพราะข้าวโพดเป็นพืชที่มีความสำคัญ ทั้งเป็นอาหารของมนุษย์ ใช้เลี้ยงสัตว์ และใช้ในอุตสาหกรรม เด็กๆ จะได้ปลูกข้าวโพดกันในไร่จริงๆ เริ่มจากการลงไร่ไถดิน มาถึงการลงมือปลูก รู้จักวิธีกำจัดวัชพืช การเก็บเกี่ยวฝักข้าวโพด และช่วยกันทำเมนูอร่อยจากข้าวโพด นอกจากนี้เด็กๆ ยังจะได้สนุกกับกิจกรรมโคบาลน้อยใน 'ฟาร์มโชคชัย' แวะชม 'สวนองุ่นจิตรา' พร้อมกับทำขนมกะหรี่พัฟไส้องุ่น
* ค่ายบันทึกธรรมชาติ "ตอน เรารักษ์ทะเล"
วันที่ 27-30 เม.ย. (สำหรับน้องวัย 13-15 ปี)
ค่ายเชิงอนุรักษ์ พาเด็กๆ ไปเรียนรู้ธรรมชาติทางทะเล ปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ พักแรมค้างคืนที่ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี สนุกสนานกับหลากหลายกิจกรรม อาทิ 'Rally ริมเล' ท้าทายกับการค้นหาความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศน์ในทะเล , มารู้จักเต่าทะเลและเรียนรู้การอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลกับฐาน 'มหัศจรรย์วันเต่า', ฐาน 'ลอกลายธรรมชาติ' เด็กๆ จะได้ทำเปลือกหอยจำลองเพื่อเป็นของที่ระลึก แทนการเก็บเปลือกหอยของจริงกลับบ้าน , ทำปะการังเทียมคืนสู่ท้องทะเลเพื่อเป็นที่อยู่ให้กับสัตว์ทะเลในฐาน 'คืนหัวใจให้ธรรมชาติ' และเยี่ยมชมเรือรบหลวงไทยก่อนกลับบ้าน
สิ่งที่เด็กๆ จะได้รับนอกเหนือจากความสนุกสนานจากกิจกรรมการเรียนรู้ทั้งหลายแล้วนั้น ยังได้พัฒนาทักษะทางด้านร่างกายจากการกระโดดโลดเต้นออกกำลัง และการได้ร่วมทำกิจกรรมกับเพื่อนใหม่ ก็นับว่าเป็นการเสริมสร้างพัฒนาการทางด้านสังคมและอารมณ์ เรียนรู้ที่จะปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่น รวมทั้งรู้จักการเอื้ออาทรและมีน้ำใจต่อผู้อื่น
สอบถามรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่
เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร (หลังสวนจตุจักร)
โทร. 0-2615-7333 หรือคลิกดูที่ www.bkkcdm.com--จบ--
-รก-