ฟิลิปส์ ประกาศชัยชนะความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในกลุ่มสินค้า AV ระดับ Hi-End พร้อมส่งผลิตภัณฑ์ใหม่เจาะกลุ่มวัยรุ่น

ข่าวเทคโนโลยี Thursday February 12, 2004 16:12 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย)
ฟิลิปส์ ประกาศชัยชนะความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในกลุ่มสินค้า AV ระดับ Hi-End พร้อมส่งผลิตภัณฑ์ใหม่เจาะกลุ่มวัยรุ่น ขยายฐานลูกค้า มั่นใจยอดขาย ปี 2547 โต 15-20 เปอร์เซ็นต์
ฝ่ายคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด แถลงกลยุทธใหม่ Philips Best เพื่อประกาศชัยชนะความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในกลุ่มสินค้าคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ ในระดับ Hi-End พร้อมนำทัพโทรศัพท์เคลื่อนที่จอสี เครื่องเล่น MP3 และกล้องดิจิตอล แบบพกพารุ่นเล็ก เจาะตลาดวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ขยายฐานลูกค้า
คุณชฎิล จุลินรักษ์ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่า กลยุทธ์ Philips Best ในปี พ.ศ. 2547 เพื่อเป็นการประกาศชัยชนะและตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในตลาด premium ที่ยืนยันด้วยดัชนีวัดการยอมรับของผู้บริโภคต่อสินค้า (Brand Index) เพื่มขึ้นมาอยู่ที่ 230 เมื่อสิ้นปี พ.ศ. 2546 จาก Brand Index 180 เมื่อกลาง ปี พ.ศ. 2546 และเมื่อปลายปี พ.ศ. 2546 อัตราการเจริญเติบโตของยอดขายของกลุ่มผลิตภัณฑ์โทรทัศน์และเครื่องเล่นดีวีดีฟิลิปส์โตถึงกลุ่มละ 15 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้ามีอัตราการเจริญเติบโตที่เกือบจะเป็นศูนย์เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้ฟิลิปส์ขึ้นเป็นผู้นำในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า ระดับ premium
"กลยุทธ์ 'Philips Best' เป็นการยืนยันว่าฟิลิปส์จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดทั้งด้านเทคโนโลยีและคุณภาพให้กับผู้บริโภค Philips Best เป็นผลสืบเนื่องมาจากกลยุทธ์ 'The Best from the Rest' ที่ได้ดำเนินมาตั้งแต่เมื่อ ปี พ.ศ. 2546 ซึ่งฟิลิปส์เป็นผู้ริเริ่มสร้างกระแสการให้ข้อมูลของสินค้าแต่ละยี่ห้อกับผู้บริโภคเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพและคุ้มค่า และกลยุทธ์ 'Ahead from the Best' ที่ฟิลิปส์ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีสูงกว่าเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภค"
เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดสินค้า Hi-End ในปี พ.ศ. 2547 นี้ ฝ่ายคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ ฟิลิปส์ มีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ด้านภาพและเสียงด้วย อาทิ โทรทัศน์สีจอบางและจอแบน (Flat and Slim Tv) ด้วยจอภาพแบบพลาสมา (Plasma TV) และ แอลซีดีทีวี (LCD TV) รวมถึงเทคโนโลยีอัจฉริยะ Pixel Plus จะทำงานโดยแปลงสัญญานโทรทัศน์ที่ส่งเข้ามาจากอนาล็อกเป็นดิจิตอล และให้ภาพละเอียดคมชัดกว่าโทรทัศน์ทั่วไปถึง 5 เท่า (ในระบบภาพ NTSC) ด้วยความละเอียดของภาพสูงกว่า 2 ล้าน จุด ที่มีพร้อมในผลิตภัณฑ์ โทรทัศน์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น จอภาพ CRT, แอลซีดีทีวี (LCD TV), พลาสมาทีวี (Plasma TV) โปรเจคชั่นทีวี (Projection TV) และโทรทัศน์สีจอใหญ่ (Wide Screen) ระบบ 100 HZ พร้อมเสริมทัพด้วยเครื่องเล่นดีวีดี, ดีวีดี มินิ ไฮไฟ และดีวีดี โฮมเธียเตอร์ ซิสเต็ม (DVD Home Theatre System) ที่ฟิลิปส์พร้อมนำเสนอต่อผู้บริโภคไทยด้วยเทคโนโลยีที่เป็นมาตรฐานเดียวกันกับที่ขายในทวีปยุโรป วางตลาดในประเทศไทยตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2547
คุณชฎิล กล่าวว่า "ฟิลิปส์ยังคงยึดการดำเนินกลยุทธ์การตลาดที่เน้นการสร้างประสบการณ์ในการใช้งานสินค้าให้กับผู้บริโภค (Consumer Experience Marketing) โดยเน้นการสาธิตและการเปรียบเทียบข้อมูล ณ จุดขาย ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของกลุ่มผลิตภัณฑ์โทรทัศน์ฟิลิปส์ และเครื่องเล่นดีวีดีเพิ่มขึ้นสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้โดย เมื่อปี พ.ศ. 2546 ฟิลิปส์ครองส่วนแบ่งการตลาดของโทรทัศน์สี ที่ 6 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์ จากปี 2545 และฟิลิปส์ครองส่วนแบ่งการตลาดของเครื่องเล่นดีวีดี ที่ 8 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้น 4 เปอร์เซ็นต์ จากปี พ.ศ. 2545"
คุณชฎิล กล่าวต่อไปอีกว่า ฟิลิปส์พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบสนองทุกความต้องการของคนรุ่นใหม่ นำทัพด้วยการเปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยประเดิมที่ รุ่น 530 หน้าจอสี 65K สามารถฟังเพลงและแต่งเสียงเรียกเข้า เพื่อเจาะกลุ่มวัยรุ่น และผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Personal Expression อาทิ นิ้ว Philips Camera Key Ring Philips กล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีขนาดเล็กที่สุด เพียง 3 นิ้ว, Philips Audio Key Ring เครื่องเล่น MP3 ขนาดเล็กที่สุด และ Hard Disc Audio Jukebox เครื่องเสียงดิจิตอลที่สามารถเก็บข้อมูลในรูป MP3 ได้ถึงกว่า 3,000 บทเพลง และกว่า 6,000 บทเพลงในรูปของ WMA
นอกจากนี้ฟิลิปส์ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ เครื่องเล่นเพลงระบบดิจิตอล Portable Sport Audio นวัตกรรมใหม่ ที่เป็นความร่วมมือระหว่างฟิลิปส์และไนกี้ ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับนักกีฬาและผู้ที่รักการออกกำลังกายที่สามารถสวมใส่ได้ ให้เสียงไม่สะดุด และมีหูฟังพร้อมสายคล้องคอและการจัดเก็บสายอย่างเหมาะสม
คุณชฎิลกล่าวว่าในปี พ.ศ. 2547 ฝ่ายคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ฟิลิปส์มีแผนที่จะใช้งบประมาณกว่า 80-90 ล้านบาท ในการทำโฆษณาและส่งเสริมการขาย และคาดว่าจะมีอัตราการเจริญเติบโตประมาณ 15-20 เปอร์เซ็นต์ ในตลาดคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์โดยรวมที่คาดว่าจะมีอัตราการเจริญเติบโตอยู่ที่ 3-5 เปอร์เซ็นต์
"ในปีนี้ตลาดคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์จะมีปัจจัยบวกมาผลักดันการเจริญเติบโตจากมาจากการแข่งขันฟุตบอลยูโรที่จะมีขึ้นประมาณเดือนมิถุนายน และการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ในครึ่งปีหลังของปี พ.ศ. 2547 นี้"
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
0-2614-3333 ต่อ 3628, 3487--จบ--
-นท/นห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ