กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--ฟรอสต์+แอนด์+ซัลลิแวน
คลาวด์ คอมพิวติ้ง ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นกระแสหลักในวงการไอทีของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยองค์กรต่างๆ ร้อยละ 30 ได้มีนโยบายการนำรูปแบบของคลาวด์ คอมพิวติ้ง มาประยุกต์ใช้ในปีหน้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าองค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีการรับรู้ถึงประโยชน์ที่จะได้รับ รวมถึงความสามารถในการนำเสนอความคล่องตัวทางธุรกิจ การลดต้นทุน และการควบคุมค่าใช้จ่ายด้านไอที ซึ่งจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันสำหรับองค์กรในปัจจุบัน
มร. แอนดรูว์ มิลรอย รองประธานด้านธุรกิจไอซีที ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน เปิดเผยว่า ตลาดคลาวด์ คอมพิวติ้งสำหรับสาธารณะ (Public cloud computing) ถูกคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าถึง 5.8 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2558 โดยมีอัตราการเติบโต (CAGR) ที่ร้อยละ 39 ในช่วงปี 2553 — 2558
ผลกระทบจากการเปลี่ยนมาใช้บริการ คลาวด์คอมพิวติ้งจะปรากฎให้เห็นอย่างชัดเจน โดยหนึ่งในผลกระทบที่เห็นได้ชัดเป็นอันดับแรกการเปลี่ยนไปสู่ คลาวด์คอมพิวติ้งจะเห็นได้ชัดในทุกธุรกิจ เช่นเดียวกับที่อุตสาหกรรม ไอทีกำลังเปลี่ยนจากการใช้งานบน Desktop หรือ Notebook ไปสู่ Smartphone และ Tablet
“วงการไอทีจึงอยู่ในระหว่างแย่งชิงความเป็นผู้นำในธุรกิจ Platform-as-a-service (PaaS) โดยการดึงดูดนักพัฒนาให้หันมาใช้ platform ของตน โดยในขณะนี้ Force.com คือผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดเนื่องจากเข้ามาจับตลาดก่อน แต่ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ทั้ง Microsoft, Amazon, IBM, Google, และ VMWare ต่างก็ขยับเข้าแย่งชิงตลาดนี้ โดยในท้ายที่สุด ตลาดคงมีที่พอให้กับผู้เล่นหลัก 2-3 รายที่จะครองตลาดส่วนใหญ่” มร. มิลรอย กล่าว