กรุงเทพฯ--1 ก.พ.--บมจ. ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต
บมจ. ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต เผยกลยุทธ์ธุรกิจปี 2548 ตั้งเป้าเบี้ยปีแรกโต 13% เป็น 4,873 ล้านบาท ส่วนเบี้ยประกันรับรวมจะเพิ่มขึ้น 48% เป็น 8,681 ล้านบาท พร้อมปรับโครงสร้างองค์ใหม่ โดยจัดตั้งสายงานธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อเร่งขยายตลาดแบงก์แอสชัวรันส์อย่างต่อเนื่อง และผลักดันบริษัทก้าวติดอันดับ 3 ด้านเบี้ยปีแรกในปี 2550 หลังปีที่แล้วยอดขายโตก้าวกระโดด
มร. โดนอลด์ คาร์ดีน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้แถลงผลประกอบการในปี 2547 อย่างเป็นทางการว่า ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ มียอดขายที่ยอดเยี่ยม และมีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดของธุรกิจ ซึ่งสูงกว่า 100% ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา 29 ปี โดยสามารถผลิตเบี้ยรับปีแรก (AFYP) ได้ทั้งสิ้น 4,302 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 145% ในขณะที่ธุรกิจโดยรวมขยายตัวติดลบ 8% ส่วนเบี้ยปีต่อไปผลิตได้ 1,770 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88% อัตราความยั่งยืนกรมธรรม์อยู่ที่ 90% และมีเบี้ยรับรวมทั้งสิ้น 5,842 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนถึง 124%
ความสำเร็จดังกล่าวเกิดจากกลยุทธ์การจัดจำหน่ายผ่านหลากหลายช่องทาง หรือ Multi distribution channels และยอดขายที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดของแบงก์แอสชัวรันส์ผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งถือเป็นหัวหอกสำคัญ ซึ่งผลิตเบี้ยปีแรกได้ถึง 2,319 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 237% และมีส่วนแบ่งตลาดถึง 53.90% ของเบี้ยปีแรกทั้งหมดของบริษัท และหากรวมเบี้ยปีแรกจาก Credit life หรือสินเชื่อกู้ซื้อบ้านด้วย จะส่งผลให้เบี้ยปีแรกทั้งหมดของแบงก์แอสชัวรันส์เพิ่มเป็น 3,680 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 300% และกลายเป็นผู้นำตลาดแบงก์แอสชัวรันส์ ส่วนสายงานตัวแทนประกันชีวิต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางการขายหลัก ก็เติบโตต่อเนื่อง ผลิตเบี้ยปีแรกได้ 400 ล้านบาท เติบโต 15%
ยอดขายที่โดดเด่น ทำให้ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ ไต่จากอันดับ 6 มาอยู่อันดับ 4 ของธุรกิจในด้านเบี้ยปีแรก (รวมซิงเกิ้ลพรีเมี่ยม) ก่อนกำหนดถึง 2 ปี จากเดิมที่ตั้งเป้าว่าจะติดอันดับ 5 ในปี 2547 และส่วนแบ่งตลาดก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 3.53% ในปีที่แล้ว เป็น 9.27% อีกหนึ่งความภูมิใจ คือ ปีที่แล้ว ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์คว้าแชมป์ Asia Challenge Cup 3 ปีซ้อน และยังติดอันดับ 1 บริษัทที่มียอดขายสูงสุด หรือคิดเป็น 33% ของยอดขายทั้งหมดในเครือข่ายของนิวยอร์คไลฟ์อินเตอร์เนชั่นแนลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 7 ประเทศ คือ จีน อินเดีย ฮ่องกง ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ และไทย
“เรามั่นใจในอนาคตที่สดใส และเชื่อมั่นว่าบริษัทจะก้าวเป็นหนึ่งในบริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุด และดีที่สุด บริษัทจึงได้กำหนดพันธกิจใหม่ (mission) คือ การติด 1 ใน 3 ด้านเบี้ยปีแรกภายในปี 2550 และคาดว่าเบี้ยปีแรกจะเพิ่มขึ้น 13% เป็น 4,873 ล้านบาท และเบี้ยรับรวมเพิ่มขึ้น 48% เป็น 8,681 ล้านบาทในปี 2548” มร. โดนอลด์ กล่าวเสริม
กลยุทธ์หลักที่จะผลักดันให้บรรลุเป้าหมายนั้น บริษัทยังเน้นนโยบาย Multi distribution channel โดยช่องทางหลัก คือ แบงก์แอสชัวรันส์ผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ทั้ง 525 สาขา และตัวแทนประกันชีวิต อีกทั้งยังได้ปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ เพื่อรองรับการขยายตลาดแบงก์แอสชัวรันส์ โดยจัดตั้งสายงานธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB Business Group จากเดิมที่อยู่ภายใต้สายงานประกันชีวิตธุรกิจเฉพาะ และแต่งตั้งให้นายอิกนาสิโอ อากีล่าร์ ผู้บริหารจากอาร์เจนติน่า ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขยายธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และรับผิดชอบโดยตรง ส่วนนายพิเชฐ พิเชฐวิวัฒนา และนายไกดา ศรีเฟื่องฟุ้ง ยังเป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานตัวแทนประกันชีวิต และสายงานประกันชีวิตธุรกิจเฉพาะเช่นเดิม
นายอิกนาสิโอ กล่าวว่า ปัจจุบันถือได้ว่าเราเป็นผู้นำทั้งด้านยอดขาย และการกำหนดทิศทาง และพัฒนาผลิตภัณฑ์ จนหลายๆ บริษัทได้พยายามปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์ให้คล้ายกับเรา โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้ปรับปรุงและออกกรมธรรม์ใหม่เพื่อขายผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งยังเน้นแบบสะสมทรัพย์ระยะสั้นให้ผลตอบแทนสูง ตามผลวิจัยการตลาด นอกจากนี้ ยังวางแผนขยายสู่ธุรกิจขนาดย่อม หรือ SME ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มยอดขายได้อย่างมาก และรักษาความเป็นผู้นำตลาด อีกทั้งยังจะเพิ่มคุณภาพการฝึกอบรมของ specialist และพนักงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์อีกด้วย โดยคาดว่าแบงก์แอสชัวรันส์ จะมีเบี้ยปีแรก 2,702 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้ว 17%
นอกจากนี้ บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับสายงานตัวแทนประกันชีวิต ทั้งระบบสำนักสาขา (Base shop) และแคเรีย เอเจนซี (Career agency) ซึ่งนายพิเชฐ พิเชฐวิวัฒนา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานตัวแทนประกันชีวิต กล่าวว่า “ปีนี้ เราจะจัดให้เป็นปีแห่งการสรรหาตัวแทน ควบคู่กับการพัฒนาตัวแทน โดยมีเป้าหมายหลักที่จะมีตัวแทนทำงาน (Active Agent) เฉลี่ยเดือนละ 800 คน ทั้งยังเน้นการฝึกอบรมตัวแทนผ่านระบบ GOLD System (General Office Leadership Development) ของนิวยอร์คไลฟ์ ซึ่งประสบผลสำเร็จมาแล้วทั่วโลกในการเพิ่มประสิทธิภาพการขาย และความเป็นมืออาชีพให้แก่ตัวแทน“
ปัจจุบัน บริษัทมีตัวแทน 2,600 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 44% เป็นตัวแทนใหม่ 1,700 คน มีสาขาแบบ Base shop 34 แห่ง และ Career agency 21 แห่ง และมุ่งเน้นขยายสาขาในธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และประชาสัมพันธ์แบรนด์ของบริษัท ควบคู่กับการขยายธุรกิจ--จบ--