กรุงเทพฯ--15 ธ.ค.--เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส
เบนท์ลี่ย์ จีทีซี เปิดประทุน (BENTLEY GTC CONVERTIBLE) อวดโฉมในงานมหกรรมยานยนต์ LA SHOWมูซานรุ่นพิเศษ Mulsanne Executive Interior Concept พร้อมหรูหราที่โดดเด่นด้วยโลกแห่งการเชื่อมต่อสื่อสารรุ่นใหม่ที่สร้างยอดขายให้เติบโตขึ้นถึง 33%
Los Angeles : เบนท์ลี่ย์ มอเตอร์ เปิดตัวคอนติเนนทัล จีทีซี (Continental GTC) ใหม่ล่าสุดสู่สายตาชาวโลกที่ Los Angeles Convention Center ในประเทศสหรัฐอเมริกา อีกทั้งได้นำมูซาน (Mulsanne) รุ่นพิเศษคือรุ่นที่สร้างจากแนวคิดของห้องโดยสารที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์อย่างรุ่น Mulsanne Executive Interior Concept ที่เต็มไปด้วยโลกแห่งการเชื่อมต่อสื่อสารภายในห้องโดยสารที่หรูหราอย่างมีระดับ และเต็มไปด้วยงานฝีมือชั้นเยี่ยมมาแสดงโชว์ในงานนี้ด้วยเช่นกัน
“เมือง Los Angeles คือสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเบนท์ลี่ย์ในการนำรถยนต์เปิดประทุน จีทีซี (GTC) ที่หรูหราและทรงพลังมาเปิดตัวในครั้งนี้” Alasdair Stewart สมาชิกบอร์ดฝ่ายขายและการตลาดกล่าว “เบนท์ลี่ย์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในมลรัฐแคลิฟอร์เนียใต้นี้ อีกทั้งสหรัฐอเมริกายังเป็นตลาดที่เบนท์ลี่ย์ทำยอดขายได้มากที่สุดในโลกอีกด้วย ดังนั้นการนำรถรุ่นใหม่มาแสดงโชว์ในครั้งนี้ อาทิเช่น รุ่นเปิดประทุนอย่าง จีทีซี (GTC) ที่จะเริ่มออกสู่ตลาดในปลายปี และรุ่นจีที (GT) คูเป้ใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวไปช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา จะเป็นรุ่นที่ผลักดันยอดขายทั่วโลกของเบนท์ลี่ย์ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2011 ได้อย่างดีเยี่ยมแน่นอน”
ยอดขายที่เติบโต
ยอดขายของเบนท์ลี่ย์จนถึงเดือนตุลาคมนี้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเพิ่มขึ้นถึง 33% หรือยอดขายที่ 5,379 คัน ซึ่งใกล้ต่อเป้ายอดขายทั้งปีที่บริษัทตั้งไว้ที่ 7,000 คันเข้าไปทุกที ยอดขายในสหรัฐอเมริกาเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดขายของรุ่นคอนติเนนทัล จีที (Continental GT) คูเป้ใหม่ล่าสุดที่ทำยอดขายสูงถึง 37% ของยอดขายทั้งหมดถึงแม้จะเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกาถือได้ว่าเป็นตลาดใหญ่สำหรับเบนท์ลี่ย์รุ่นเปิดประทุนด้วยยอดขายที่ถล่มทลายจากรุ่นก่อนที่ผ่านมา ดังนั้นตลาดนี้จึงกลายเป็นตลาดหลักที่เบนท์ลี่ย์พร้อมส่งรุ่นคอนติเนนทัล จีทีซี (Continental GTC) เข้าไปโกยยอดขาย อีกทั้งเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายในสหรัฐอเมริกานี้เติบโตอย่างต่อเนื่องซึ่งสอดคล้องกับยอดขายที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โชว์รูมได้รับการขยายให้มากขึ้นถึง 48 แห่งและแห่งสุดท้ายที่เพิ่งเปิดทำการอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานนี้คือ Bentley Nashville นั่นเอง
อีกหนึ่งตลาดที่เบนท์ลี่ย์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากคือตลาดในประเทศจีนที่มียอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและมหาศาล นั่นคือการเติบโตที่สูงขึ้นกว่าปี 2010 ถึง 90% ข้ามฟากกลับมายังยุโรปเบนท์ลี่ย์สร้างยอดขายได้อย่างดีเยี่ยมเช่นกัน ยอดขายในประเทศเยอรมนีสูงขึ้นประมาณ 60% และส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มตลาดรถยนต์ระดับหรูในประเทศอังกฤษนั้นเบนท์ลี่ย์สามารถเข้าไปครอบครองได้มากกว่า 25% เลยทีเดียว
เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีทีซี (Bentley Continental GTC) 2012
ในการเปิดตัวในมหกรรมยานยนต์ LA Auto Show นี้ทุกสายตาต้องจ้องมาที่คอนติเนนทัล จีทีซี (Continental GTC) ใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับสี Breeze-colored และมีการตกแต่งเป็นพิเศษสร้างความโดดเด่นไม่เหมือนใครอีกด้วย ด้านหน้าโดดเด่นด้วยตัวถังหน้าด้านข้างที่ทำจากอลูมีเนียมเพิ่มความลงตัวให้กับเส้นสายทางด้านหน้ารถ ส่วนทางด้านหลังได้รับการออกแบบแบบ double-horseshoe design ที่เคยเห็นเป็นครั้งแรกในรุ่นมูซาน (Mulsanne)
ภายใต้รูปลักษณ์ที่โดดเด่นนี้ จีทีซี (GTC) คันนี้เต็มไปด้วยประสิทธิภาพและสมรรถนะเครื่องยนต์ที่เหนือชั้นด้วยเช่นกัน อัตราเร่งจาก 0-60 ไมล์นั้นทำได้ในเวลาเพียงแค่ 4.5 วินาทีเท่านั้น ขุมพละกำลังสูงสุดอยู่ที่ 567 แรงม้า ระบบส่งผ่านกำลังหรือระบบเกียร์มาในรูปแบบ Quickshift หรือการเปลี่ยนระดับเกียร์ด้วยความรวดเร็วเพื่อพัฒนาการตอบสนองต่ออัตราเร่งให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นและลดเวลาในการเปลี่ยนระดับเกียร์ลงเหลือเพียงแค่ 200 มิลลิวินาทีเลยทีเดียว ตัวถังของจีทีซี (GTC) ถือได้ว่ามีความแข็งแรงมั่นคงมากที่สุดในบรรดารถเปิดประทุน ตัวถังที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพจะทำหน้าที่ควบคุมระบบช่วงล่าง ลดการสั่นสะเทือน และช่วยให้รถจีทีซี (GTC) คันนี้รักษาเสถียรภาพของรถในยามขับเคลื่อนได้อย่างดีเยี่ยม
ภายในห้องโดยสารของจีทีซี (GTC) ได้รับการตกแต่งด้วยงานหัตถกรรมชั้นเยี่ยมจากเนื้อไม้และหนังชั้นเลิศตามแบบฉบับความเป็นเบนท์ลี่ย์ทุกประการ เทคโนโลยีระดับชั้นนำต่างๆ ได้ถูกนำมาใช้ในการพัฒนาภายในห้องโดยสารให้โดดเด่นเช่นเดียวกัน อาทิเช่น ระบบความบันเทิงหรือ infotainment system มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบระบบสัมผัส ระบบค้นหาเส้นทางแบบป้อนรหัสไปรษณีย์เพื่อง่ายต่อการค้นหาเส้นทางที่มาพร้อมกับหน่วยความจำที่สูงถึง 30 กิกกะไบต์ เพื่อความสะดวกสบายของผู้ขับขี่และผู้โดยสารในทุกๆ ฤดูและสภาวะอากาศ เบาะนั่งที่ได้รับการออกแบบในรูปแบบ cobra-head ของจีทีซี (GTC) จะมาพร้อมกับระบบ Neck Warmers ที่ให้ความอบอุ่นต่อลำคอผู้นั่งและติดตั้งอยู่ทางด้านหลังของที่พักศรีษะอีกด้วย เบนท์ลี่ย์ได้เพิ่มนวัตกรรมใหม่ เข้าไปช่วยในเรื่องของเสียงอคูสติกเพื่อความสุนทรีย์ภายในห้องโดยสาร เมื่อเปิดหลังคาระบบเสียงที่อยู่ภายในห้องโดยสารจะไพเราะมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น เพราะการเพิ่มแผ่นป้องกัน acoustically-sensitive undersheet เข้าไป รวมไปถึง wheel liners และแก้วทางด้านหน้าและด้านข้าง อีกทั้งหลังคายังมีโครงสร้างถึง 3 ชั้นและชั้นกลางนั้นทำจาก rubber-film นวัตกรรมใหม่ล่าสุดอีกด้วย
เบนท์ลี่ย์ จีทีซี เปิดประทุนใหม่จะเข้าสู่ตลาดสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการปลายปี 2011 นี้
แนวคิดห้องโดยสารที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของเบนท์ลี่ย์ มูซาน (Bentley Mulsanne: Mulsanne Executive Interior Concept)
ในมหกรรมยานยนต์ LA show นี้เบนท์ลี่ย์ได้นำเบนท์ลี่ย์ มูซาน (Bentley Mulsanne) ที่ได้รับการสร้างและตกแต่งภายในห้องโดยสารแบบพิเศษตามแนวคิดห้องโดยสารที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์นั่นคือ Mulsanne Executive Interior Concept มาแสดงโชว์ในงานนี้ด้วย อีกทั้งยังถือได้ว่าเป็นการอวดโฉมนอกยุโรปเป็นครั้งแรกสำหรับมูซาน (Mulsanne) เวอร์ชั่นพิเศษนี้อีกด้วย แนวคิดการเชื่อมต่อและการสื่อสารต่างๆ ทำให้การออกแบบในรถคันนี้มีความโดดเด่นทั้งเรื่องของความสะดวกสบาย ความบันเทิงและการใช้งานในด้านธุรกิจ โดยลูกค้าสามารถทำงานได้เมื่ออยู่ในรถ หรือประชุมในรถได้อย่างสะดวกสบายในห้องโดยสารของรถคันนี้ที่ใช้เวลาในการสร้างขึ้นมากว่า 170 ชั่วโมงเลยทีเดียว
เบาะหลังสำหรับผู้โดยสารของมูซาน (Mulsanne) มีการติดตั้ง Apple iPad workstations ที่มาพร้อมกับการเชื่อมต่อเข้าสู่อินเตอร์เนต (ผสมผสานเข้ากับโต๊ะทำงานขนาดปิกนิคที่พับเก็บได้) มาพร้อมกับหน้าจอ LED ขนาดใหญ่ที่พับเก็บขึ้นด้านบนได้เช่นกัน หน้าจอยังสามารถใช้งานในการเลือกหนัง รวมไปถึงช่องโทรทัศน์ที่ต้องการรับชมได้อีกด้วย
เบนท์ลี่ย์ได้เติมเต็มด้วยการใส่ใจในการเพิ่มรายละเอียดและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อห้องโดยสารที่สมบูรณ์แบบและหรูหราอย่างมีระดับให้มากที่สุดอีกด้วย อาทิเช่น ภายในที่พักแขนตรงกลางจะมีปากกาสุดหรูจาก Tibaldi fountain pen ที่ได้รับการผลิตออกมาเป็นคอลเลคชั่นพิเศษโดยมีแรงบันดาลใจมาจาก knurled-metal rotary switchgear ของมูซาน (Mulsanne) คันนี้ติดตั้งมาด้วย อีกทั้งยังถือเป็นครั้งแรกของเบนท์ลี่ย์ที่ทำการตกแต่งด้วยการใช้เนื้อไม้วีเนียร์รูปแบบ Yachting-style ที่มีทั้งสีอ่อนและสีเข้มตัดกันได้อย่างลงตัวมาตกแต่งในรถคันนี้ด้วยเช่นกัน
ทั้งคอนติเนนทัล จีทีซี (Continental GTC) ใหม่ล่าสุดนี้และมูซาน (Mulsanne) เวอร์ชั่นพิเศษอย่าง Mulsanne Executive Interior Concept จะแสดงโชว์อยู่ที่บูธของเบนท์ลี่ย์ใน Concourse Hall ของศูนย์แสดงสินค้า Los Angeles Convention Centre
ข้อความจากผู้เขียน
1. เบนท์ลี่ย์มอเตอร์คือบริษัทผลิตรถยนต์ในประเทศอังกฤษที่เปิดทำการมานาน และมีการลงทุนเพื่อการพัฒนามาเป็นอันดับสาม บริษัทมีพนักงานกว่า 4,000 คนที่เมือง Crewe ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งของบริษัท ประกอบด้วยแผนกออกแบบ แผนกวิจัยและพัฒนา วิศวกร และโรงงานผลิต เกือบทุกชิ้นส่วนของรถทำจากงานฝีมือของช่างที่มีความเชี่ยวชาญมาหลายยุคหลายสมัย รถทุกคันยังได้รับการพัฒนาขึ้นจากวิศวกรยานยนต์ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและแตกต่างจากโรงงานผลิตรถยนต์หรูหราค่ายอื่นๆ รถยนต์จากเบนท์ลี่ย์คือรถยนต์จากอังกฤษที่มีคุณค่าสูง เบนท์ลี่ย์ได้ส่งออกสินค้าที่มีมูลค่ากว่า 500 ล้านปอนด์ในแต่ละปีเพื่อสร้างฐานตลาดให้มากขึ้นเหมือนในสหรัฐอเมริกา เช่น เจาะตลาดในประเทศจีน และประเทศทางอเมริกาใต้
2. บริษัท Bentley Motors, Inc. คือตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์ในอเมริกา 1 ใน 3 คันของรถที่ส่งมอบให้ลูกค้าทั่วโลกคือรถที่ส่งมอบให้กับลูกค้าในอเมริกา ทำให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเบนท์ลี่ย์ สำนักงานใหญ่ของบริษัท Bentley Motors, Inc. ตั้งอยู่ที่เมืองบอสตัน (Boston) มีพนักงานกว่า 35 คนและมีโชว์รูมกว่า 48 แห่งทั่วภูมิภาค ยอดขายส่วนใหญ่ของภูมิภาคนี้ได้มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีมลรัฐแคลิฟอร์เนีย มลรัฐนิวยอร์ค และมลรัฐฟลอริด้าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดนั่นเอง
สำหรับประเทศไทย ท่านสามารถค้นหาความงามและความโดดเด่นอย่างหรูหรามีระดับของเบนท์ลี่ย์ ได้ที่โชว์รูมเบนท์ลี่ย์ อาคารซีทีไอ ทาวเวอร์ ถ.อโศก หรือ บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมบริการ (Service Teams) ที่มากประสบการณ์พร้อมให้บริการรถเบนท์ลี่ย์ของท่าน และซื้อรถยนต์เบนท์ลี่ย์จากทางเอเอเอสฯเท่านั้นที่สามารถได้สิทธิ์การรับประกันจากโรงงานเบนท์ลี่ย์ ประเทศอังกฤษ 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง โดยรถยนต์เบนท์ลี่ย์ที่ซื้อจากทางเอเอเอสฯ เท่านั้น ที่จะสามารถเข้ารับบริการจากศูนย์บริการของทาง
เอเอเอสฯ ได้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ ได้ที่ โทร. 02-522-6703, 02-610-9911
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ ได้ที่
แผนกการตลาดและประชาสัมพันธ์ โทร. 02 522 6655 ต่อ 448
บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด
ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
หรือเยี่ยมชมเว็บไซด์ของเบนท์ลี่ย์ ได้ที่ www.thailand.bentleymotors.com